โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ประเดิมคุมทัพ "ปีศาจแดง" ได้อย่างสวยหรู หลังพาลูกทีมบุกไปถล่ม คาร์ดิฟฟ์ ถึงถิ่น 5-1 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเกมนี้ เจสซี่ ลินการ์ด เหมาคนเดียวสองเม็ด ขณะที่ ปอล ป็อกบา หวนสตาร์ทตัวจริงด้วยการแอสซิสต์สองประตู อีกทั้งเกมนี้ยังเป็นสถิติที่ยิงขาดลอยมากที่สุดของซีซั่น พร้อมเก็บสามแต้มแซง วัตฟอร์ด ขึ้นอันดับ 6

สนาม : คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้

    เกมสำคัญ 1 ในไฮไลท์ประจำสุดสัปดาห์นี้ที่บ้านคาร์ดิฟฟ์ ซึ่งต้อนรับการมาเยือนของแมนฯ ยูไนเต็ด ยุคใหม่ภายใต้บังเหียน โอเล่ กุนนาร์ โซลชา รักษาการกุนซืออดีตดาวยิงขวัญใจแฟนบอล

  การจัดทัพฝั่งเจ้าบ้านยังคงใช้ชุดเก่งยัดกองกลางแน่นๆ แล้ววาง คัลลั่ม เพเตอร์สัน ตัวสารพัดประโยชน์เลือดสกอตต์ลงเล่นหอกเดี่ยว

    ด้านโซลชาได้ฤกษ์ประเดิมคุมปีศาจแดงเจออดีตต้นสังกัดเมื่อปี 2014 โดยได้ใส่ชื่อ ปอล ป๊อกบา คืนตัวจริงแต่ไม่มี โรเมลู ลูกากู กองหน้าทีมชาติเบลเยียมที่ขอลาไปทำธุระส่วนตัว

    ผีแดงหลังแยกทาง โชเซ่ มูรินโญ่ ออกสตาร์ตอย่างเร้าใจนำไว 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 4 ป๊อกบา เรียกฟาวล์ฟรีคิกระยะ 30 หลา ก่อนวิ่งหลอกข้ามบอลแล้วเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ปั่นเต็มข้อทะลุกำแพงเสียบก้นตาข่ายโดยที่ นีล เอเธอริดจ์ ทำได้เพียงยืนมองเท่านั้น

    ถัดมาคาร์ดิฟฟ์ได้ฟาวล์ฟรีคิกระยะเดียวกันเลย แต่คราวนี้ จอช เมอร์ฟี่ ยิงไม่ดีเหินข้ามคานไปไกล

    เกมชะงักเล็กน้อยเมื่อ เพเตอร์สัน กระโดดโหม่งไปชนกับ ลุค ชอว์ ก่อนปฐมพยาบาลแล้วกลับมาเล่นได้ทั้งคู่โดยไม่มีปัญหาอะไร

    ยูไนเต็ดเล่นคึกคักกว่าที่ผ่านมาๆ นักเตะขยันวิ่งไล่บอลทุกคน ก่อนนำห่าง 2-0 ในนาทีที่ 29 ป๊อกบา เก็บบอลทางฝั่งซ้ายป้ายทะลุช่องข้ามฟากให้ อันเดร์ เอร์เรร่า ตะบันไกลแฉลบ เกร็ก คันนิ่งแฮม ส่งบอลย้อยเสียบใต้คานอย่างสวยงาม

    นาที 38 เกมกำลังดีๆ ปีศาจแดงเสียจุดโทษแบบไม่น่าโดนเมื่อ แรชฟอร์ด ลงมาช่วยเกมรับโดนบอลตรงหัวไหล่ แต่ผู้ตัดสิน ไมเคิ่ล โอลิเวอร์ เป่านกหวีดแล้วชี้นิ้วบนเส้นสังหาร

    และก็เป็น บิกตอร์ กามาราซ่า รับหน้าที่ซัดเสียบใต้คานแบบหมดสิทธิ์ป้องกันสำหรับ ดาบิด เด เคอา ส่งให้คาร์ดิฟฟ์ไล่ตีตื้น 1-2

    แต่ให้หลังแค่ 3 นาที ทีมเยือนก็ยิงทิ้งช่องว่างไปอีกจากจังหวะชิ่งเร็วเล่นกัน 4 คนระหว่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล, แรชฟอร์ด, ป๊อกบา และ เจสซี่ ลินการ์ด จบที่ มาร์กซิยาล หลุดเข้าไปยิงหนีมือ เอเธอริดจ์ เสียบมุมเสาไกลนิ่มๆ หมดครึ่งแรกแมนฯ ยูไนเต็ดบุกนำ 3-1

    ต่อครึ่งหลังเด็กๆ ของโค้ชโซลชายังเล่นกันดุดันเหมือนเดิม มีลุ้นบวกสกอร์เพิ่มอีกจาก มาร์กซิยาล จ่ายตัดกับดักล้ำหน้าให้ แรชฟอร์ด ตะบันแฉลบแนวรับออกหลังแบบได้เสียวทีเดียว

    นาที 57 ปีศาจแดงได้จุดโทษบ้างจาก ลินการ์ด ทะลวงเข้ากรอบประตูแล้วโดน ฌอน มอร์ริสัน เข้ามาขวางทางจนล้ม ก่อนที่เจ้าตัวลุกขึ้นมาตะบันเองไม่พลาดเป้า ทิ้งสกอร์ห่าง 4-1

    ลูกที่ห้าน่าจะมาเมื่อ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ครองบอลเติมขึ้นมาสวยจ่ายทะลุช่องให้ แรชฟอร์ด ยิงทะแยงมุมกะเสียบเสาสองแต่น้ำหนักเกินหลุดออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

    ถัดมา เด เคอา เพิ่งจะได้ออกแรงเซฟจากจังหวะที่ จอช เมอร์ฟี่ ยิงด้วยขวาในเขตโทษ โดยพุ่งปัดออกหลังเสียเตะมุมแต่คาร์ดิฟฟ์เองก็ฉวยโอกาสทำอะไรไม่ได้

    ป๊อกบา ได้โอกาสล่อเป้าบ้างนอกเขตโทษแต่ยังมี เอเธอริดจ์ บินปัดออกหลังและจากเตะมุม แอชลี่ย์ ยัง สาดมาเข้าทางปืน ฟิล โจนส์ ยิงตามน้ำก็ตรงตัวนายด่านทีมชาติฟิลิปปินส์

    นาทีสุดท้าย "ปีศาจแดง" มาได้ประตูปิดกล่องนำโด่งเป็น 5-1 จากจังหวะที่ ป็อกบา โชว์แอสซิสต์จ่ายให้ ลินการ์ด ยิงเข้าไป เป็นประตูที่สองของปีกผู้ดีในเกมนี้ จบเกมแมนฯ ยูไนเต็ดเปิดซิงยุคใหม่ภายใต้บังเหียนโซลชาอย่างสะเด่าเร้าใจ บุกซิวชัย 5-1 ยังอยู่อันดับ 6 ตามเชลซีในพื้นที่ท็อปโฟร์อยู่ 8 แต้มด้วยกัน

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ : นีล เอเธอริดจ์ - บรูโน่ เอกูเอเล่ ม็องก้า, ฌอน มอร์ริสัน, โซล บ็อมบา, เกร็ก คันนิ่งแฮม - อารอน กุนนาร์สซ่อน - จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์, บิกตอร์ กามาราซ่า, แฮร์รี่ อาร์เทอร์, จอช เมอร์ฟี่ - คัลลั่ม เพเตอร์สัน

    สำรอง : อเล็กซ์ สมิธี่ส์, ลี เพลเทียร์, โจ รอลล์ส, เคนเน็ธ โซโฮเร่, บ็อบบี้ รีด, เนธาเนียล เมนเดซ-แลง, คาดีม แฮร์ริส

    แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา - แอชลี่ย์ ยัง, ฟิล โจนส์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, ลุค ชอว์ - อันเดร์ เอร์เรร่า, เนมานย่า มาติช, ปอล ป๊อกบา - เจสซี่ ลินการ์ด, มาร์คัส แรชฟอร์ด, อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล

    สำรอง : เซร์คิโอ โรเมโร่, เอริก ไบยี่, ฆวน มาต้า, อันเดรียส เปเรยร่า, เฟร็ด, ดีโอโก้ ดาโลต์, มารูยาน เฟลไลนี่

    ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์