ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 5 สุดยอดเกมพรีเมียร์ลีกประจำปี2018

5 สุดยอดเกมพรีเมียร์ลีกประจำปี2018

Posted 01/01/2019 by siamsport

ก่อนอื่นเลยขอสวัสดีปีใหม่... สำหรับปี 2562 นี้ก็ขออวยพรให้แฟนบอลทุกคนมีความสุข ความเจริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรง สวยๆ หล่อๆ เฮงๆ รวยๆ นะครับ

ปีค.ศ. 2018 ได้ผ่านพ้นไปเรียบร้อย ซึ่งเท่ากับว่าตอนนี้ศึกลูกหนัง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำซีซั่น 2018-19 ได้เดินทางมาเกินครึ่งทาง 1 เกมแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูง มาดีเหลือเกิน เพราะนอกจากยังไม่แพ้ใครแล้ว พวกเขายังมีสถิติสุดหรูจากการชนะ 17 เสมอ 3 จนกลายเป็นทีมเต็งหนึ่งที่จะสอยแชมป์ไปครอง แต่แชมป์เก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็ไม่สามารถมองข้ามได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทั้งสองทีมมีคิวฟาดแข้งกันเองในวันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคมนี้ด้วย จนเหมือนกับว่า เกมนี้คือเกมตัดสินแชมป์แบบกลายๆ เลย

หากมองย้อนกลับไปในปี 2018 มีเกมสุดมันส์มากมายในศึก พรีเมียร์ลีก แต่ขอเลือกแบบเน้นๆ 5 เกมก็แล้วกัน อย่ารอช้า ไปดูกันเลยดีกว่าว่า มีแมตช์ไหนบ้าง และจะตรงใจกับใครบ้างหรือเปล่า

5. แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-3 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (ซีซั่นที่แล้ว เมื่อวันที่ 7 เม.ย. 2018)
เป็นเกมที่แฟนบอล "เรือใบสีฟ้า" รอคอย เพราะนอกจากเป็นเกมที่เจอกับอริร่วมเมืองแล้ว นี่คือเกมที่พวกเขาจะการันตีตำแหน่งแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่น 2017-18 ทันที หากคว้าชัยชนะได้ ซึ่งทุกอย่างก็เป็นไปอย่างที่หวัง แมนฯ ซิตี้ เล่นได้เหนือชั้นกว่ามาก และออกนำ 2-0 ในครึ่งแรก จากผลงานของ แว็งซ็องต์ กอมปานี นาทีที่ 25 และ อิลคาย กุนโดกัน นาทีที่ 30

อย่างไรก็ตาม ครึ่งหลังแฟนบอลเจ้าถิ่นถึงกับช็อก เมื่อ ปอล ป็อกบา ทำสองประตูติดๆ ในนาทีที่ 53 และ 55 ช่วยให้ "ปีศาจแดง" ตีเสมอเป็น 2-2 ก่อนที่ทีมเยือนมาได้ประตูพลิกนำและถือเป็นประตูคว้าชัย 3-2 จากการเข้าชาร์จของ คริส สมอลลิ่ง นาทีที่ 69

แม้ไม่ใช่เกมที่มีความหมายมากมายอะไร แต่มันเป็นเรื่องของความ "สะใจ" ที่ทำให้ทีมคู่ปรับอย่าง แมนฯ ซิตี้ ต้องเลื่อนการฉลองแชมป์ออกไป และแน่นอนนี่คือเกมสุดมันส์ระดับ 5 ดาวเลย

4. ลิเวอร์พูล 2-2 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (ซีซั่นที่แล้ว เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2018)
เป็มเกมที่ดราม่าและลุ้นระทึกยันวินาทีสุดท้าย โดย "หงส์แดง" ออกนำก่อน 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 3 จากการหลุดเข้าไปยิงของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลังจากนั้น สเปอร์ส ก็พยายามอย่างหนัก และมาได้ประตูตีเสมอจากการยิงอันทรงพลังของ วิคเตอร์ วานยาม่า นาทีที่ 80 แถมอีก 4 นาทีต่อมา ทีมของกุนซือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มาได้ลูกจุดโทษ ทว่า แฮร์รี่ เคน ยิงไปติดเซฟ ลอริส คาริอุส!!!

เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเจ๊า 1-1 แต่.. มันมีอะไรให้ลุ้นมากกว่านั้น เพราะนาทีที่ 90+1 ซาลาห์ โชว์ลากเลื้อยเข้าไปยิงประตูอย่างเหนือชั้น ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ขึ้นนำ 2-1 และดูเหมือนว่า "หงส์แดง" กำลังจะเก็บสามแต้มเข้ากระเป้าอยู่แล้ว แต่นาทีที่ 90+5 "ไก่เดือยทอง" มาได้ลูกจุดโทษอีกครั้ง และคราวนี้ เคน สังหารเข้าไปไม่พลาด ก่อนจบเกมด้วยการเสมอกันไปแบบสุดมันส์ 2-2

3. อาร์เซน่อล 4-2 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ (ซีซั่นนี้ เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2018)
เป็นศึก "ลอนดอน ดาร์บี้" ในฤดูกาลนี้ ที่เพิ่งผ่านพ้นมาได้ไม่กี่สัปดาห์ โดย "ไอ้ปืนใหญ่" ออกตัวได้สวย เมื่อได้ประตูขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 10 จากการสังหารลูกโทษของ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง แต่นาทีที่ 30 สเปอร์ส มาตีเสมอเป็น 1-1 จากการโขกของ เอริค ดายเออร์ และจากนั้นแค่ 4 นาที กลายเป็น "ไก่เดือยทอง" ที่มาได้ประตูพลิกนำ จากการยิงลูกจุดโทษของ แฮร์รี่ เคน

เริ่มครึ่งหลังมา สเปอร์ส พยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ เพื่อลุ้นเก็บสามแต้มกลับบ้าน ทว่านาทีที่ 56 อาร์เซน่อล มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จากการยิงสุดเฉียบของ โอบาเมย็อง เท่านั้นไม่พอ "ไอ้ปืนใหญ่" ยังมาได้ประตูพลิกนำ 3-2 ในนาทีที่ 74 จากการยิงเบียดเสาของ อเลซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ หัวหอกตัวสำรอง ก่อนมาได้ประตูย้ำชัย 4-2 จากการหลุดเข้าไปยิงของ ลูคัส ตอร์เรร่า นาทีที่ 77 และช่วง 5 นาทีสุดท้าย สเปอร์ส ต้องเหลือผู้เล่น 10 คนด้วย หลัง แยน แฟร์ต็องเก้น ได้รับใบเหลืองที่สอง

2. ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 5-4 เลสเตอร์ ซิตี้ (ซีซั่นก่อน เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2018)
เป็นเกมสุดท้ายเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ซึ่งยิงกันถล่มทลายเลยทีเดียว โดยที่ เลสเตอร์ ขึ้นนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 4 จากการโหม่งของ เจมี่ วาร์ดี้ แต่หลังจากนั้นแค่ 3 นาที แฮร์รี่ เคน หลุดเข้าไปยิงให้ สเปอร์ส ตีเสมอ 1-1 อย่างเฉียบขาด ทว่านาทีที่ 16 ทีมเยือนขึ้นนำอีกครั้งจากการกระทุ้งของ ริยาด มาห์เรซ เท่านั้นยังไม่พอ เลสเตอร์ มาได้อีกลูกจากการส่องไกลของ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ นาทีที่ 47

อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นแค่ 2 นาที "ไก่เดือยทอง" มาได้ประตูไล่ขึ้นมาเป็น 2-3 จากการยิงเผาขนของ เอริค ลาเมล่า และนาทีที่ 53 สกอร์มาเสมอกันที่ 3-3 จากการทำเข้าประตูตัวเองของ คริสเตียน ฟุคส์ แบ็กซ้ายทีมเยือน การทำประตูยังคงมีต่อไปเรื่อยๆ นาทีที่ 60 สเปอร์ส พลิกขึ้นนำเป็น 4-3 เฉย จากการยิงของ ลาเมล่า คนเดิม แต่ "จิ้งจอกสยาม" ไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นาทีที่ 73 พวกเขาตีเสมอเป็น 4-4 จากการหลุดเข้าไปยิงสุดเฉียบของ วาร์ดี้ กระนั้นนาทีที่ 76 เจ้าถิ่นขึ้นนำ 5-4 จากการยิงสุดสวยของ เคน และสกอร์ก็มาหยุดอยู่ที่ 5-4 ซึ่งเป็นชัยชนะสุดมันส์ของ สเปอร์ส

1. ลิเวอร์พูล 4-3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (ซีซั่นที่แล้ว เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2018)
ถือเป็นเกมที่ดีที่สุดของฤดูกาลก่อนเลยก็ว่าได้ และนับเป็นสุดยอดเกมประจำปี 2018 ด้วย ซึ่งเจ้าถิ่นขึ้นนำก่อนอย่างรวดเร็วตั้งแต่นาทีที่ 9 จากการยิงสุดคมของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทว่านาทีที่ 40 แมนฯ ซิตี้ มาตีเสมอเป็น 1-1 จากการลุยเข้าไปยิงของ ลีรอย ซาเน่

เข้าสู่ช่วงครึ่งหลัง นาทีที่ 59 "หงส์แดง" ขึ้นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากการยิงของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จากนั้นแค่ 2 นาที สกอร์ก็เปลี่ยนเป็น 3-1 จากการยิงสุดเฉียบของ ซาดิโอ มาเน่ เกมมาถึงนาทีที่ 68 ลิเวอร์พูล ฉีกหนีไปไกลเป็น 4-1 จากการยิงสวนระยะไกลร่วม 40 หลาของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ซึ่งมาถึงตอนนี้ดูแล้วทีมของกุนซือ เจอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะคว้าชัยได้แบบสบายๆ แต่มันไม่ได้เป็นแบบนั้น เพราะนาทีที่ 84 "เรือใบสีฟ้า" ไล่ขึ้นมาเป็น 4-2 จาก แบร์นาโด้ ซิลวา และนาทีที่ 90+1 พวกเขาก็มาได้อีกประตูจากการยิงของ อิลคาย กุนโดกัน ซึ่งในช่วงทดเวลาบาดเจ็บที่เหลือ แมนฯ ซิตี้ เกือบได้ประตูตีเสมอด้วย จากการพุ่งโขกของ เซร์คิโอ อเกวโร่ จบเกม ลิเวอร์พูล คว้าชัย 4-3 แบบชวนระทึกขวัญสำหรับสาวก "เดอะ ค็อป" และนี่คือการปราชัยครั้งแรกของ แมนฯ ซิตี้ ในซีซั่นที่แล้วด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »