เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือ สเปอร์ส เป็นฝ่ายกุมความได้เปรียบไว้ก่อนหลังเปิดบ้านเชือด เชลซี 1-0 จากจุดโทษที่ใช้เทคโนโลยี "วีเออาร์" เข้าตัดสินของ แฮร์รี่ เคน พาทีมคว้าชัยสำคัญก่อนยกพลบุกเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ "สิงโตน้ำเงินคราม" วันที่ 24 ม.ค. นี้ ในศึกฟุตบอล คาราบาว คัพ (รอบรองชนะเลิศ นัดแรก) คืนวันอังคารที่ผ่านมา

สนาม : เวมบลีย์

    เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือของสเปอร์ส ต้องนำทีมลงเตะบอลถ้วยสองเกมติด เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาถล่ม ทรานเมียร์ 7-0 โดยใช้ขุมกำลังสำรองและดาวรุ่งลงเพียบ

    ด้าน เชลซี ของกุนซือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ เพิ่งส่งสำรองอัด น็อตติ้งแฮม  ฟอเรสต์ 2-0 เมื่อวันเสาร์ โดยเป็นเกมอำลาของ  เชส ฟาเบรกาส ซึ่งย้ายไปร่วมทีมโมนาโกพอดี

    เริ่มเกมได้เพียง 3 นาทีเป็น "ไก่เดือยทอง" เกือบได้จุดโทษเป็น อันเดรส คริสเตนเซ่น วิ่งเบียด ซน ฮึง-มิน ล้มไปในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินยังใจแข็งให้สัญญาณมือเล่นต่อ

    นาทีต่อมา "สิงห์บลูส์" ทักทายบ้างจาก รอสส์ บาร์คลี่ย์ ได้ซัดไกลด้วยซ้ายหน้าเขตโทษบอลพุ่งแรงแต่ยังไม่ตรงกรอบ จังหวะต่อเนื่องเจ้าถิ่นสวนมาบ้างและเป็น แฮร์รี่ เคน เล่นท่ายากลอยตัวจักรยานอากาศโชคไม่ดีบอลเบาเข้ามือ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า

    ผ่านไป 20 นาทีเกมสนุกเปิดแลกด้วยกันทั้งคู่แต่ "สิงห์บลูส์" ได้เสียวอีกครั้งจากลูกยิงไกลด้วยซ้ายระยะราว 25 หลาของ เอแด็น อาซาร์ แต่ยังไม่ดีพอผ่านมือ เปาโล กาซซานิก้า เช่นกัน

    นาทีที่ 23 จังหวะสำคัญของเกมเกิดขึ้นเมื่อ แฮร์รี่ เคน หลุดเดี่ยวเข้ามาในกรอบเขตโทษและเป็น เกป้า ออกมาถึงบอลช้าไปคว้าขา เคน ล้มลงในเขตโทษแต่ข้างสนามไลน์แมนยกธงว่าเป็นการล้ำหน้า ไมเคิ่ล โอลิเวอร์  ไม่รอช้าใช้ "วีเออาร์" ตัดสินให้จุดโทษ "ไก่เดือยทอง" พร้อมใบเหลืองนายด่านชาวสเปน และเป็น แฮร์รี่ เคน รับหน้าที่สังหารเข้าไป สเปอร์ส 1 เชลซี 0

    ก่อนหมดเวลา 10 นาที ทีมเยือนพยายามเร่งเกมเพื่อตีเสมอแต่ยังเจาะเข้าไปไม่ถึงพื้นที่อันตรายและเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ซัดไกลบ้างก็ยังเข้ามือ เปาโล กาซซานิก้า นายทวาร "ไก่เดือยทอง" เหมือนเดิม

    นาทีที่ 40 "สิงห์บลูส์" ได้พลาดโอกาสทองเป็นจังหวะครอสเข้ามาทางฝั่งซ้ายก่อนเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ วิ่งสอดเข้าชาร์จระยะ 5 หลาบอลเปลี่ยนทางไปชนเสาเด้งออกหลังไป

     ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 47 ทีมเยือนโหมหนักเป็น คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย ครอสบอลไปติด แดนนี่ โรส เปลี่ยนทางเกือบเข้าประตูตัวเองยังดีที่ กาซซานิก้า ลอยตัวปัดชนคานเอาไว้ได้ หมดครึ่งเวลาแรกเจ้าถิ่นฉวยโอกาสได้ดีกว่า สเปอร์ส 1 เชลซี 0

    ครึ่งหลังเริ่มได้ 5 นาที ทีมเยือนจัดเต็มได้ลุ้นอยู่หลายครั้งแต่เป็น "ไก่เดือยทอง" ได้เสียวกว่าหลัง แฮร์รี่ เคน ได้ซัดเต็มข้อหน้าเขตโทษบอลส่ายเกือบเสียบใต้คานยังดีที่ เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า ทะยานปัดออกไปได้

    นาทีที่ 55 "สิงห์บลูส์" แลกหมัดบ้างเป็น เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่มีโอกาสหลายครั้งในเกมนี้ได้ซัดไกลอีกรอบแต่ก็ยังไม่สุดยอดพอผ่านมือ เปาโล กาซซานิก้า ที่ฟอร์มร้อนแรงเหลือเกิน

    ผ่านมาจนถึงนาทีที่ 75 เกมสนุกเปิดเกมรุกใส่กันตลอดโดยเป็น "สิงห์บลูส์" ที่ทำได้ดีกว่าแต่ผู้รักษาประตูของทั้งสองทีมต่างผลัดกัน โชว์ซุปเปอร์เซฟ ยังไม่มีสกอ์เพิ่ม สเปอร์ส 1 เชลซี 0

    5 นาทีก่อนหมดเวลาทีมเยือนเทหมดหน้าตักได้ลุ้นอีกครั้งจากการเติมขึ้นมายิงของ มาร์กอส อลอนโซ่ แต่ก็เหมือนเคย เปาโล กาซซานิก้า ล้มตัวรับเข้าซองไม่มีหลุด

    หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม สเปอร์ส 1 เชลซี 0 โดยเป็น "ไก่เดือยทอง" ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ทำได้ดีกว่าในยกแรก ก่อนบุกเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ของ "สิงโตน้ำเงินคราม" วันที่ 24 ม.ค. นี้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม

    สเปอร์ส (4-1-2-1-2) : เปาโล กาซซานิก้า - คีแรน ทริพเพียร์, ดาวินซอน ซานเชซ, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แดนนี่ โรส - มุสซ่า ซิสโซโก้ - แฮร์รี่ วิงค์ส(โอลิเวอร์ สคิปป์ น.90), เดเล่ อัลลี่ - คริสเตียน เอริคเซ่น(เฟร์นานโด ยอเรนเต้ น.91) - แฮร์รี่ เคน, ซน ฮึง-มิน (เอริค ลาเมล่า น.79)

    เชลซี (4-3-3) :  เกป้า อาร์ริซาบาลาก้า - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, อันโตริโอ รือดิเกอร์, อันเดรส คริสเตนเซ่น, มาร์กอส อลอนโซ่ - เอ็นโกโล่ ก็องเต้, จอร์จินโญ่, รอสส์ บาร์คลี่ย์(มาเตโอ โควาซิช น.75) - วิลเลี่ยน(เปโดร โรดริเกวซ น.63), เอแด็น อาซาร์, คัลลั่ม ฮัดสัน โอดอย(โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ น.79)

ผู้ตัดสิน : ไมเคิ่ล โอลิเวอร์