"ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ฉกฉวยความได้เปรียบก่อนในการลุ้นทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถ้วย คาราบาว คัพ หลังเลกแรกเปิดสนาม เวมบลีย์ สเตเดี้ยม พิชิต เชลซี 1-0 เมื่อคืนวันอังคารที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งเกมนี้มีเกร็ดน่าสนใจหลายอย่างเลยทีเดียว โดยเฉพาะ แฮร์รี่ เคน หัวหอกผู้ซัดประตูชัยให้ สเปอร์ส

    - สเปอร์ส เอาชนะ เชลซี ได้ 3 เกมติด (รวมทุกรายการ) เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่เคยชนะ 5 เกมติดช่วงปี 1961-1963
   
    - เชลซี เก็บชัยได้แค่หนเดียว จาก 7 เกมหลังสุดที่ออกไปเยือน สเปอร์ส

    - แฮร์รี่ เคน กลายเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ของ สเปอร์ส ที่ทำประตูรวมทุกรายการถึงหลัก 20 ลูก ได้ 5 ฤดูกาลติดต่อกัน

   - เคน ทำประตูให้ สเปอร์ส ไปแล้ว 160 ลูก พร้อมขึ้นมารั้งอันดับ 4 ในชาร์ตดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของสโมสร ต่อจาก  จิมมี่ กรีฟส์ (266 ประตู), บ็อบบี้ สมิธ (208 ประตู) และ มาร์ติน ชีเวอร์ส (174 ประตู)

    - เคน ทำประตูให้ "ไก่เดือยทอง" ได้ 6 เกมติด (รวมทุกรายการ) ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดของตัวเองเทียบเท่ากับตอนที่เคยทำได้ช่วงระหว่างเดือนตุลาคม ถึง พฤศจิกายน ปี 2015

    - นี่คือครั้งแรกของ เคน ที่ได้สตาร์ตเป็นตัวจริงในเกมบอลถ้วยรายการนี้ นับตั้งแต่เกมที่ดวลกับ อาร์เซน่อล เมื่อเดือนกันยายน ปี 2015

    - เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กลายเป็นกุนซือรายที่ 7 ของ สเปอร์ส ที่คุมทีมถึงหลัก 250 นัด และมีสถิติชนะถึง 57 เปอร์เซนต์ ซึ่งเท่ากับว่า ยุคหลังสงครามโลกไม่มีนายใหญ่ "ไก่เดือยทอง" คนไหนที่มีเปอร์เซนต์ชนะสูงกว่าเขา

 - แดนนี่ โรส แบ็กซ้าย สเปอร์ส เป็น "แมน ออฟ เดอะ แมตช์" ในเกมนี้ จากสถิติสัมผัสบอล 71 ครั้ง, ผ่านบอล 39 ครั้ง (เป็นการสร้างโอกาส 1 ครั้ง), ดวลลูกกลางอากาศ 3 ครั้ง ชนะทั้ง 3 ครั้ง, เคลียร์บอล 6 ครั้ง, แย่งบอล 6 ครั้ง และตัดบอล 2 ครั้ง
   
    - แม้เป็นฝ่ายปราชัย แต่เกมนี้ เอแด็น อาซาร์ ยอดปีก เชลซี คือผู้เล่นที่เลี้ยงบอลผ่านคู่แข่งได้มากสุด (8 ครั้ง), เรียกฟาวล์ได้มากสุด (7 ครั้ง) และสร้างโอกาสได้มากสุด (5 ครั้ง)