แชมป์เก่า บาเยิร์น มิวนิค แม้จะออกนำเจ้าถิ่นไปก่อนครึ่งแรก แต่เจอความร้ายการของ "ห้างขายยา" ที่รัวสามเม็ดรวดในครึ่งหลังก่อนจะไล่ปราบเอาชนะไปได้อย่างสนุก 3-1 นับเป็นความพ่ายแพ้นัดที่ 4 ของฤดูกาล และนัดแรกของปี 2019 ทว่าตาม ดอร์ทมุนด์ ที่วีกนี้สะดุดแค่เสมอ 7 คะแนน ในศึกบุนเดสลีกา เมื่อวันเสาร์ที่ 2 ก.พ. ที่ผ่านมา
สนาม : ไบอารีน่า

    บาเยิร์น ทีมอันดับสองของตารางวาง โธมัส มุลเลอร์, ฮาเมส โรดริเกซ และ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นตัวชูโรงในแนวรุก ด้าน เลเวอร์คูเซ่น มี คาริม เบลลาราบี้, เควิน โฟลลันด์ และ ลีออน ไบลี่ย์ ในแดนหน้า

    เริ่มเกมมา 13 นาที บาเยิร์น เกือบเฮก่อน เมื่อ โธมัส มุลเลอร์ จ่ายไปให้ คิงสเล่ย์ โกมัน ซัดด้วยขวา แต่บอลไม่ผ่านมือ ลูคัส ฮราเดชกี้

    นาทีที่ 32 เสือใต้มีโอกาสดีอีกครั้ง จากจังหวะที่ ฮาเมส โรดริเกซ จ่ายไปให้ โกมัน ได้ยิงด้วยขวาหน้าเขตโทษ แต่ ฮราเดชกี้ ก็ปัดออกหลังไปได้ทัน

    กระทั่งนาทีที่ 41 บาเยิร์น ขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ มุลเลอร์ เปิดไปให้ เลออน โกเร็ตซ์ก้า เทกตัวโหม่งตุงตาข่ายไม่เหลือ และหมดครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

   อย่างไรก็ตาม ในครึ่งหลังนาทีที่ 53 เลเวอร์คูเซ่น ตามเอาคืน 1-1 จากฟรีคิก ลีออน ไบลี่ย์ ปั่นด้วยซ้ายเสียบมุมประตูเข้าไปเลย

    ไม่พอแค่นั้น นาทีที่ 63 ทีมห้างยามาพลิกแซงนำ 2-1 เมื่อ คาริม เบลลาราบี้ จ่ายไปให้ เควิน โฟลลันด์ ซัดด้วยซ้ายในเขตโทษตุงตาข่าย

    ทีมเยือนพยายามบุกหนัก แต่กลายเป็นมาโดนเจ้าถิ่นสวนกลับ ยูเลี่ยน บรันด์ท จ่ายไปให้ ลูคัส อาลาริโอ ยิงด้วยซ้ายเข้าประตูไปเป็น 3-1 ในนาทีที่ 87

    จากนั้น ทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม เลเวอร์คูเซ่น เอาชนะ บาเยิร์น 3-1 ทำให้เสือใต้ห่างจาก ดอร์ทมุนด์ เป็น 7 แต้มแล้ว

    รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

    เลเวอร์คูเซ่น : ลูคัส ฮราเดชกี้, มิทเชลล์ ไวเซอร์, โยนาธาน ทาห์, สเวน เบนเดอร์, เวนเดลล์, ไค ฮาแวร์ทซ์ (ยูเลี่ยน บอมการ์ทลิงเกอร์ น.45+1), ชาร์ลส์ อรานกีซ, ยูเลี่ยน บรันด์ท, คาริม เบลลาราบี้ (เปาลินโญ่ น.90), เควิน โฟลลันด์, ลีออน ไบลี่ย์ (ลูคัส อาลาริโอ น.84)

    บาเยิร์น : สเวน อุลไรช์, ราฟินญ่า (เรนาโต้ ซานเชส น.79), นิคลาส ซือเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา, โยชัว คิมมิช, เลออน โกเร็ตซ์ก้า, โธมัส มุลเลอร์ (แซร์ช นาบรี้ น.74), ฮาเมส โรดริเกซ (อัลฟอนโซ่ เดวิส น.77), คิงสเล่ย์ โกมัน, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้

    ผู้ตัดสิน : โทเบียส สตีเลอร์