เกมพรีเมียร์ลีกคืนวันอาทิตย์มีด้วยกันสองสนาม คู่แรก สเปอร์ส เก็บชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ ได้สำเร็จคว้าสามแต้มสำคัญ ยังแอบขึ้นไปมีลุ้นแชมป์กับเขาด้วย ส่วนเกมบิ๊กแมตช์ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โชว์ฟอร์มระเบิดเถิดเทิงไล่ถล่ม เชลซี ทำให้ตอนนี้พวกเขามี 65 คะแนนเท่ากับ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล แต่รั้งตำแหน่งจ่าฝูงจากผลต่างประตูได้เสียที่เหนือกว่าถึง 10 ประตู

    ชัยชนะเหนือ เลสเตอร์ ซิตี้ ที่สนาม เวมบลีย์ ของ สเปอร์ส ทำให้พวกเขามีแต้มห่างจากผู้นำทั้ง แมนฯซิตี้ และลิเวอร์พูล เพียงแค่ 5 แต้มเท่านั้น เรียกได้ว่าพวกเขายังมีโอกาสเป็นตาอยู่แซงคว้าแชมป์ได้หากทำผลงานดีแบบนี้อย่างต่อเนื่อง

    ขณะที่ทัพ "เรือใบสีฟ้า" แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาสามารถแบกรับแรงกดดันในการพบกับทีมระดับ "บิ๊กซิกซ์" ได้อย่างสบายๆ แต่ต้องขอบคุณ เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ฟอร์มเข้าฝักซัดแฮตทริกในแมตช์นี้ ขณะที่ในตำแหน่งอื่นๆ ก็เล่นได้ดีจนแนวรุกของ "สิงโตน้ำเงินคราม" ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

    สำหรับชัยชนะของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้พวกเขาสร้างสถิติมากมาย ขณะเดียวกับความพ่ายแพ้ของ เชลซี นอกจากจะทำให้พวกเขาหล่นไปอยู่อันดับ 6 แล้ว อนาคตของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ กุนซือชาวอิตาเลียน กำลังแขวนอยู่บนเส้นด้ายด้วย

สเปอร์ส 3-1 เลสเตอร์ ซิตี้

2 - เลสเตอร์ ซิตี้ พลาดจุดโทษในสองครั้งหลังสุด (เจมส์ แมดดิสัน พลาดกับ คารดิฟฟ์ ซิตี้ / เจมี่ วาร์ดี้ พลาดกับ สเปอร์ส)

29 - เจมี่ วาร์ดี้ ยิงประตูที่ 29 ในการพบกับทีมบิ๊กซิกซ์ของพรีเมียร์ลีกทั้งหมด 59 เกม

16- หากนับเฉพาะในพรีเมียรืลีก ซน ฮึง-มิน ซัดประตูที่ 16  ณ สนาม เวมบลีย์ ซึ่งมีแค่ แฮร์รี่ เคน ที่ยิงประตูในสนามนี้มากกว่าเขา (20 ประตู)

20 - ประตูของ คริสเตียน เอริคเซ่น เป็นประตูที่ 20 ที่ยิงนอกกรอบเขตโทษ ซึ่งเขาทำได้มากกว่าทุกคนในพรีเมียร์ลีกนับตั้งแต่เขาประเดิมสนามในเดือนกันยายน ปี 2013

147 - ดาวินซอน ซานเชซ เป็นนักเตะคนที่ 147 ของสเปอร์สที่ทำประตูในพรีเมียร์ลีก มีแค่ เวสต์แฮม ที่มีผู้เล่นจำนวนเท่ากันที่ทำประตู

แมนฯซิตี้ 6-0 เชลซี

5 - เซร์คิโอ อเกวโร่ กลายเป็นนักเตะคนที่ 5 ที่ซัดแฮตทริกติดต่อกันในเกมพรีเมียร์ลีก และเป็นคนแรกนับตั้งแต่ที่ ดีดิเย่ร์ ดร็อกบา ทำได้เมื่อเดือนสิงหาคม 2010

11 - อเกวโร่ ซัดแฮตทริกที่ 11 ในพรีเมียร์ลีก เทียบเท่ากับสถิติของ อลัน เชียเรอร์ 

15 - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นทีมแรกในลีกสูงสุดเมืองผู้ดีนับตั้งแต่ ท็อตแต่ม ฮ็อทสเปอร์ เมื่อเดือนเดือนธันวาคม 1965 ที่ยิงมากกว่า 1 ประตูจาก 15 แมตช์ติดต่อกันในการเล่นเกมลีกในบ้าน

200 – เซร์คิโอ อเกวโร่ กลายเป็นนักเตะคนที่ 6 ในหน้าประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่มีส่วนทั้งยิงและแอสซิตส์ 200 ประตูในการเล่นให้สโมสรเดียวในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดี โดยก่อนหน้านี้แค่ เวย์น รูนี่ย์ (แมนฯ ยูไนเต็ด), ไรอัน กิ๊กส์ (แมนฯ ยูไนเต็ด), เธียร์รี่ อองรี (อาร์เซน่อล), แฟร้งค์ แลมพาร์ด (เชลซี) และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด (ลิเวอร์พูล) ที่เคยทำได้ 

9 - อเกวโร่ ซัดแฮตทริกในพรีเมียร์ลีกจากการเล่นในเอติฮัด สเตเดี้ยมไปแล้ว 9 ครั้งจากการเล่นสนามเหย้าเดียว ทำลายสถิติเดิมของ เธียร์รี่ อองรี ที่ทำได้ 8 ครั้งตอนเล่นที่สนามไฮบิวรี่ (ปัจจุบันสนามเหย้าเปลี่ยนเป็น เอมิเรสต์ สเตเดี้ยม)

1 - ราฮีม สเตอร์ลิง ยิงประตูได้เป็นครั้งแรกในการสู้กับ เชลซี ในศึกพรีเมียร์ลีก หลังจากเคยดวลกับทัพ "สิงโตน้ำเงินคราม" มาแล้ว 11 ครั้ง 

4 - เชลซี เสีย 4 ประตูติดต่อกันจากการเล่นนอกบ้านในเกมลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 1990 

6 - เชลซี สะกดคำว่า "ชนะ" ไม่เป็นเลยในการเล่นเกมเยือนในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ  พบทีมระดับ "บิ๊ก ซิกซ์" 6 แมตช์หลังสุด (เสมอ 2 แพ้ 4) แถมยังเป็นการแพ้ 4 เกมติดต่อกันซะด้วย 

6 - เชลซี แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-6 ถือเป็นการเสีย 6 ประตูครั้งแรกของ "สิงโตน้ำเงินคราม" กับการเล่นในพรีเมียร์ลีก

0-6 - เชลซี แพ้ยับเยินที่สุดในการแข่งขันทุกรายนับตั้งแต่ที่โดน น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ ถลุงยับไม่นับญาติสกอร์ 0-7 เมื่อเดือนเมษายน 1991