หลังจากที่ "เมย์" รัชนก อินทนนท์ คว้ารองแชมป์แบดมินตัน "โยเน็กซ์ เยอรมัน โอเพ่น" ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 300 ที่เมืองมูลไฮม์ อันแดร์ รูร์ ประเทศเยอรมนี ไปแบบสุดมันส์ ถึงแม้ว่า "เมย์" รัชนก จะพลาดท่าพ่ายไปแบบหวุดหวิด 1-2 เกม แต่ทำให้แฟนขนไก่ทั่วโลกประทับใจแบบสุดๆ

     ในสัปดาห์นี้จะมีการแข่งขันแบดมินตันที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในโลก "โยเน็กซ์ ออล อิงแลนด์ แบดมินตัน แชมเปี้ยนส์ชิพ 2019" ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,000,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 32,000,000 บาท ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 6-10 มี.ค. 2562  ซึ่งในประวัติศาสตร์ยังไม่มีนักแบดมินตันไทยคนใดสามารถคว้าแชมป์ได้เลย อย่างไรก็ตามยังมีปัจจัยต่างๆที่จะทำให้ นักตบลูกขนไก่จากบ้านทองหยอดผงาดแชมป์และจารึกชื่อใน ออล อิงแลนด์ ก็เป็นได้ 

     1. ประเดิมแชมป์แรกของปี 2019 อย่างสวยหรู  : รายการแรกของเจ้าตัวที่ลงแข่งขันคือ ศึก "มาเลเซีย มาสเตอร์ส" ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 500 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่ง "เมย์ รัชนก" เป็นแชมป์เก่าในรายการนี้เมื่อปีที่แล้ว ด้วยการปรับสไตล์การเล่นที่ดุดันขึ้นจากปีที่แล้วทำให้ในรายการนี้เธอโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด เอาชนะทั้ง ไถ้ ชื่อยิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน ในรอบก่อนรองชนะเลิศไปแบบ ชนิดที่นักตบขนไก่จากไต้หวันหมดรูปไปเลย จากนั้นในรอบรองชนะเลิศไล่ต้อนชนะ โก๊ะ จินเว่ย จากมาเลเซียไปแบบขาดลอยเช่นกัน สุดท้ายเธอก็สามารถป้องกันแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จด้วยการเอาชนะ แคโรลินน่า มาริน นักแบดมินตันสาวดุจากสเปนไปได้ 2 เกมรวด สามารถคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 2 ถือเป็นการเพิ่มความมั่นใจให้กับเจ้าตัวด้วย

2. เปลี่ยนสไตล์การเล่น : จากการที่ "เมย์" รัชนก คว้าแชมป์ มาเลเซีย มาสเตอร์ส 2019 เป็นสมัยที่สองได้สำเร็จ แต่จากที่เห็นรูปแบบการเล่นของเจ้าตัวนั้นเห็นได้ชัดว่า จู่โจมด้วยลูกหน้าเน็ตได้แม่นยำขึ้น เล่นพื้นที่ในการทำลูกวินเนอร์ได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จุดนี้อาจจะทำให้เธอนั้นใช้ได้กับ นักแบดมินตันตัวท็อปได้เช่นกัน อย่างที่ทำกับ แคโรลิน่า มาริน มาแล้ว  แต่จุดอ่อนของ "เมย์" ก็คือ พละกำลังซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวพยายามแก้มาตลอดการเล่นแบดมินตัน แฟนๆแบดมินตันอยากจะเห็นการแก้จุดนี้เป็นอย่างมาก ถ้าหากแก้ได้ในระยะเวลาอันรวดเร็วแน่นอนว่า จะต่อกลอนกับนักแบดมินตันประเภทเล่นสไตล์โต้นานๆ อาทิ โนโซมิ โอกุฮาระ , อากาเนะ ยามากูชิ สองนักตบลุกขนไก่จากญี่ปุ่น หรือ คู่ปรับตัวฉกาจอย่าง เฉิน ยู่เฟย จากจีน 

 3. ฟอร์มการเล่นต้องคงเส้นคงวากว่านี้  : หลังจากที่ เมย์ รัชนก คว้าแชมป์รายการแรกของเธอในปี 2019 "มาเลเซีย มาสเตอร์ส" ด้วยฟอร์มการเล่นอันเฉียบขาดด้วยการต้อน ไถ้ ซื่อยิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน และ แคโรลิน่า มาริน จากสเปน แต่ในศึกอินโดนีเวีย มาสเตอร์ส ทัวร์นาเมนต์ระดับเวิลด์ทัวร์ 500 เจ้าตัวตกรอบ 8 คนสุดท้ายด้วยน้ำมือของ เฉิน ยู่เฟย จากจีน  และเมื่อวสัปดาห์ที่ผ่านมา ในศึก  "โยเน็กซ์ เยอรมัน โอเพ่น" เธอเอาชนะ โนโซมิ โอกูฮาระ สาวน้อยร่างเล็กจากญี่ปุ่น แต่ก็ไปแพ้อากาเนะ ยามากูชิ สาวร่างเล็กอีกคนจากญี่ปุ่นในรอบชิงชนะเลิศ ชนิดชนะใจคนดูในเกมตัดสิน ดังนั้นหากจะคว้าแขมป์ออล อิงแลนด์ เธอต้องรักษามาตรฐานการเล่นให้คงเส้นคงวาให้มากที่สุด

 4. ออล อิงแลนด์ เวทีขนไก่ระดับตำนานที่นักแบดมินตันใฝ่ฝันที่จะคว้าแชมป์สักครั้ง : แบดมินตันรายการ ออล อิงแลนด์ ณ สังเวียน อารีน่าเบอร์มิงแฮม นับว่าเป็นรายการแบดมินตันที่มีความเก่าแก่ที่สุดในโลก เต็มไปด้วยเสน่ห์ มนต์ขลัง ไม่แพ้กับโอลิมปิกเกมส์เลยทีเดียว เนื่องจากมีการแข่งขันครั้งแรกในปี 1888 โดยถือว่า ออล อิงแลนด์ เปรียบเสมือนรายการชิงแชมป์โลก  "เมย์" รัชนก ทำผลงานได้ที่สุดคือ รองแชมป์ 2 สมัยในปี 2013 และ2017 ส่วนปี 2018 ตกรอบแรก แต่ในปีนี้นั้น เธอหมายมั่นปั้นมือว่าจะเอาแชมป์ออล อิงแลนด์สักครั้งให้ได้ หลังจากเข้าชิง 2 ครั้ง แพ้รวด ในปี 2013 แพ้ ทีเน่ บาวน์ จากเดนมาร์ก และ 2017 แพ้ ไถ้ ซื่อยิง มือ 1 ของโลกจากไต้หวัน แต่ในปีนี้หากเธอจะคว้าแชมป์ ออล อิงแลนด์เป็นครั้งแรก จะต้องผ่านคู่ปรับตลอดกาล อย่าง เฉิน ยุ่เฟย จากจีนไปให้ได้ งานนี้แฟนๆแบดมินตันชาวไทยคงส่งให้กำลังใจเชียร์ในการแข่งขัน ออล อิงแลนด์ 2019 และติดตามการถ่ายทอดสดได้ทางช่อง True Sport HD3 (668) ได้ตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบชิงชนะเลิศ