"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมจัดทัพเต็มอัตราศึกโดยมี เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" นำปิดสกอร์ เกมรับ "ราชันสีน้ำเงิน" ชาลเก้ 04 โดยนัดแรกแมนซิตี้เก็บชัยมาได้ก่อนจึงขอเพียงผลเสมอเป็นอย่างน้อยเท่านั้น ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง) คืนวันอังคารที่ 12 มี.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : SuperSport 5, เวลา : 03.00 น.

ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง)
วันอังคารที่ 12 มีนาคม 2562
แมนฯ ซิตี้ (อังกฤษ)   -   ชาลเก้ (เยอรมัน)
(ผลนัดแรก แมนฯ ซิตี้ชนะ 3-2)
ถ่ายทอดสด : SuperSport 5, เวลา : 03.00 น.

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม
    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์แมนฯ ซิตี้ พาทีมบุกไปชนะชาลเก้มาก่อน 3-2 ในนัดแรก ก่อนถล่มวัตฟอร์ด 3-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 5 นัดติด

สภาพทีมเกมนี้ที่แน่ๆ เป๊ปจะไม่มีทั้ง นิโกลัส โอตาเมนดี้ และ แฟร์นันดินโญ่ ที่ติดโทษแบน รวมไปถึง เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ และ เควิน เดอ บรอยน์ ที่บาดเจ็บ ส่วนจอห์น สโตนส์ และ ฟาเบียน เดลฟ์ ต้องรอทดสอบความฟิต

 แต่แกนหลักรายอื่นๆ ยังพร้อมช่วยทีมเหมือนเดิม นำโดยแว็งซ็องต์ ก็องปานี กองหลังกัปตันทีม, ราฮีม สเตอร์ลิง ที่เพิ่งระเบิดแฮตทริกในเกมล่าสุด และ ลีรอย ซาเน่ อดีตแข้งชาลเก้

ด้าน โดเมนิโก้ เตเดสโก้ เทรนเนอร์ชาลเก้ พาทีมแพ้แมนฯ ซิตี้ 2-3 ในนัดแรก ก่อนแพ้เบรเมน 2-4 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้ 4 นัดติด

    สภาพทีมเกมนี้ เตเดสโก้ยังชวดใช้งานทั้ง โอมาร์ มาสกาเรลล์, ดาเนี่ยล คาลิกูรี่ และ อเลสซานโดร เชิฟ ที่บาดเจ็บทั้งหมด แต่ก็ได้ ซูอัต เซอร์ดาร์ พ้นโทษแบนในลีกกลับมาเสริม

ส่วนแกนหลักรายอื่นๆ อย่าง เจฟฟรี่ย์ บรูม่า, มาติย่า นาสตาซิช, นาบิล เบนตาเล็บ, แบ็งฌาแม็ง สต็อมบูลี่, บรีล เอ็มโบโล่ และ กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์ ต่างพร้อมช่วยทีมตามปกติ

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม        
    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ดานิโล่, ไคล์ วอล์คเกอร์, แว็งซ็องต์ ก็องปานี, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, อิลคาย กุนโดกาน, ดาบิด ซิลบา - ราฮีม สเตอร์ลิง, เซร์คิโอ อเกวโร่ ''กุน'', ลีรอย ซาเน่ 
    เทรนเนอร์ : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
    
    ชาลเก้ (3-5-2) : ราล์ฟ แฟห์รมันน์ - เจฟฟรี่ย์ บรูม่า, ซาลิฟ ซาเน่, มาติย่า นาสตาซิช - เวสตัน แม็คเคนนี่, นาบิล เบนตาเล็บ, แบ็งฌาแม็ง สต็อมบูลี่, ซูอัต เซอร์ดาร์, บาสเตียน ออซซิปก้า - บรีล เอ็มโบโล่, กีโด้ บวร์กสตัลเลอร์
    เทรนเนอร์ : โดเมนิโก้ เตเดสโก้
   
    ผู้ตัดสิน :  กเลมงต์ ตูร์กแป็ง (ฝรั่งเศส)

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- คู่นี้เคยเจอกัน 4 ครั้งในศึกยุโรป โดยที่แมนฯ ซิตี้ กำชัยไป 3 แพ้เพียงหนเดียวซึ่งต้องย้อนเวลาไกลไปเมื่อฤดูกาล 1969-70 ในรอบรองชนะเลิศ คัพ วินเนอร์ส คัพ ซึ่งถูกยุบการแข่งขันไปแล้ว (บุกแพ้ 0-1 ก่อนกลับบ้านมาชนะ 5-1)
- แมนฯ ซิตี้ มีประวัติไม่ดีเท่าไรกับเกมยุโรปในบ้านช่วงหลังๆ โดยชนะแค่ 1 จาก 5 เกมรอบน็อกเอาต์ (เสมอ 1 แพ้ 3) ที่ได้ชัยคือเจอโมนาโก 5-3 ในรอบ 16 ทีม 2016-17 แต่สุดท้ายก็ตกรอบด้วยกฎประตูทีมเยือน
- กระนั้นเรือใบสีฟ้าชนะรวดทั้ง 4 เกมล่าสุดที่รับมือทีมจากบุนเดสลีกา โดยนับรวมทั้งหมด 10 ครั้งแพ้เพียงหนเดียวด้วยน้ำมือบาเยิร์น มิวนิค 1-3 เมื่อ 2014 (ชนะ 7 เสมอ 2)
- แมนฯ ซิตี้ ไม่เคยตกรอบศึกยุโรปหลังจากคว้าชัยนอกบ้านเลกแรก รวมทั้งสิ้น 9 ครั้ง หนล่าสุดคือเจอบาเซิ่ลในรอบนี้ซีซั่นที่แล้ว (4-0 เยือน, 1-2 เหย้า)
- ด้านชาลเก้จอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมตลอด 3 หนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้แพ้กาลาตาซาราย 2012-13, เรอัล มาดริด 2013-14 และ 2014-15
- รวมเบ็ดเสร็จแล้ว ชาลเก้ตีตั๋วเพียงแค่ 2 จาก 5 ครั้งล่าสุดในรอบ 16 ทีมสุดท้าย จากการเจอปอร์โต้ 2007-08 และบาเลนเซีย 2010-11
- ทีมราชันสีน้ำเงินไร้ชัยตลอด 6 ไฟต์ล่าสุดกับทีมอังกฤษ (เสมอ 2 แพ้ 4) หรือนับตั้งแต่บุกเชือดอาร์เซน่อล 2-0 ในรอบแบ่งกลุ่ม ปี 2012 ซึ่งยังนับเป็นครั้งเดียวที่พวกเขาคว้าชัยในแผ่นดินผู้ดี
- ลีรอย ซาเน่ ปีกแมนฯ ซิตี้ ไต่เต้าสู่ระดับซีเนียร์กับชาลเก้เมื่อ 2014 ก่อนที่ 2 ปีถัดมาย้ายไปเอติฮัด สเตเดี้ยม โดยทำสถิติลงเล่น 47 เกมบุนเดสลีกา ยิงได้ 11 ประตู
- มาติย่า นาสตาซิช กองหลังชาลเก้ เคยสวมเสื้อเรือใบลงสนาม 34 เกมพรีเมียร์ลีก ระหว่างปี 2012-14
- แมนฯ ซิตี้ ชนะถึง 16 จาก 18 เกมล่าสุดรวมทุกรายการ (เสมอ 1 แพ้ 1) โดยยิงสลุต 57 เสียเพียง 9 เท่านั้น
- ในขณะที่ชาลเก้ไม่ชนะใครมา 6 นัดติดต่อกัน โดยในปฏิทินปี 2019 พวกเขาชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 6