ปรีวิวฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
(รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง)
วันพุธที่ 13 มีนาคม 2562
บาเยิร์น มิวนิค (เยอรมัน)   -   ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
(ผลนัดแรก เสมอ 0-0)
ถ่ายทอดสด : SuperSport 3, เวลา : 03.00 น.

สนาม : อลิอันซ์ อารีน่า

    นิโก้ โควัช เทรนเนอร์บาเยิร์น มิวนิค พาทีมบุกไปเสมอลิเวอร์พูล 0-0 ในนัดแรก ก่อนถล่มโวล์ฟสบวร์ก 6-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการคว้าชัย 3 นัดติด

ตอนนี้เสือใต้ขึ้นมาเป็นจ่าฝูงเรียยบร้อยแล้วในบุนเดสลีกา แซงหน้าดอร์ทมุนด์ ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า ทำให้บรรยากาศในทีมคึกคักไม่น้อย

    สภาพทีมเกมนี้ ที่แน่ๆ โควัชจะไม่มีทั้ง โยชัว คิมมิช และ โธมัส มุลเลอร์ ที่ติดโทษแบน รวมไปถึงอาร์เยน ร็อบเบน และ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ ที่บาดเจ็บ

    ในรายของ ดาวิด อลาบา แบ็กซ้ายคนเก่ง และ คิงสลี่ย์ โกมัน ปีกความเร็วสูง ล่าสุดทางสโมสรออกมายืนยันว่าฟิตทันพร้อมลงสนามเกมวันพุธนี้แน่นอน

แต่แกนหลักรายอื่นๆ ยังอยู่กันพร้อมหน้า นำโดย โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวยิงโปลตัวเก่ง

    นอกจากนี้ ฆาบี มาร์ติเนซ, ติอาโก้ อัลกันตาร่า - แซร์จ นาบรี้, ฮาเมส โรดริเกซ และ ฟร้องค์ ริเบรี่ ก็ยังอยู่กันพร้อมหน้า

    ฟาก เจอร์เก้น คล็อปป์ เทรนเนอร์ลิเวอร์พูล พาทีมเสมอบาเยิร์น มิวนิค 0-0 ในนัดแรก ก่อนถล่มเบิร์นลี่ย์ 4-2 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดที่ 2 ในรอบ 5 เกม

สถานการณ์ในพรีเมียร์ลีก ยังยึดอันดับสอง ตามหลังแมนฯซิตี้ เพียงแค่ตะแนนเดียวเท่านั้น

    สภาพทีมเกมนี้ คล็อปป์จะได้ เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลังตัวหลักพ้นโทษแบนกลับมาเสริม แต่ เจมส์ มิลเนอร์ และ เดยัน ลอฟเรน ที่ไม่สมบูรณ์ ต้องรอทดสอบความฟิต โดยรายหลังคาดว่าอาจมีชื่อบนม้านั่งสำรองก่อน

    ส่วน แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ต้องระวัง เพราะถ้าโดนจดชื่อเพิ่ม ก็จะติดโทษแบน หากผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

ในรายของ นาบี เกอิต้า ไม่ได้เดินทางไปยัง มิวนิค พร้อมกับเพื่อนร่วมทีม ขณะที่ทางสโมสรก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า ดาวเตะวัย 24 ปี มีปัญหาบาดเจ็บตรงไหน ส่วน เจมส์ มิลเนอร์ รองกัปตันทีม มีชื่ออยู่ใน 21 ขุนพล แม้พลาดช่วยทีมในเกมลีกนัดล่าสุดที่

    ด้าน จอร์แดน เฮนเดอร์สัน อาจจะได้กลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง ทำงานร่วมกับ ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม , โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ ซาดิโอ มาเน่  

รายชื่อผู้เล่นคาดว่าจะลงสนาม   
    บาเยิร์น มิวนิค (4-2-3-1) : มานูเอล นอยเออร์ - ราฟินญ่า, นิคลาส ซือเล่, มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์, ดาวิด อลาบา - ฆาบี มาร์ติเนซ, ติอาโก้ อัลกันตาร่า - แซร์จ นาบรี้ ฮาเมส โรดริเกซ, ฟร้องค์ ริเบรี่ - โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้
    เทรนเนอร์ : นิโก้ โควัช 

    ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่  
    เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์ 

    ผู้ตัดสิน : ดานิเอเล่ ออร์ซาโต้ (อิตาลี)

เกร็ดเพิ่มเติมที่น่าสนใจ
- ก่อนเสมอ 0-0 ในเลกแรกที่แอนฟิลด์ บาเยิร์นรัวตาข่ายทั้งสิ้น 15 ลูกจาก 3 เกมที่เจอทีมอังกฤษ รวมแมตช์บุกถล่มอาร์เซน่อล 5-1 ในรอบแบ่งกลุ่ม 2015-16
- ทีมเสือใต้ผ่านทีมผู้ดีได้ตลอด 5 ครั้งล่าสุดในรอบน็อกเอาต์ หรือนับตั้งแต่แพ้เชลซี สกอร์รวม 5-6 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย 2004-05
- บาเยิร์นจอดป้ายเพียงแค่ 2 จากทั้งหมด 23 เกมยุโรปที่ได้ผลเสมอนอกบ้านมาก่อน แต่ 1 ใน 2 ครั้งดังกล่าวนั้นเป็นการเจอลิเวอร์พูลในปี 1981 ซึ่งเลกแรกเจ๊า 0-0 เหมือนคราวนี้ด้วย ส่วนอีกหนนั้นเจอเอซี มิลาน ปี 2007 (2-2 เยือน, 0-2 เหย้า)
- ลิเวอร์พูลไม่เคยแพ้ใน 7 เกมหลังสุดที่ลงเล่นรอบ 16 ทีมสุดท้าย (ชนะ 5 เสมอ 2) โดยที่ไม่เสียประตูเลย นับตั้งแต่พ่ายบาร์เซโลน่าคาบ้าน 0-1 ในเลกสองซีซั่น 2006-07
- หงส์แดงยังมีสถิติที่ดีเจอทีมเยอรมันแบบเหย้า-เยือน (ชนะ 14 แพ้ 2) โดยได้เฮ 4 หนซ้อน นับจากพ่ายเลเวอร์คูเซ่น สกอร์รวม 3-4 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย 2001-02
- ลิเวอร์พูลไร้พ่ายทั้ง 4 หนหลังที่บุกเมืองเบียร์ (ชนะ 2 เสมอ 2) ส่วนสถิติรวม ชนะ 3 เสมอ 9 แพ้ 5
- อย่างไรก็ตาม หงส์แดงแพ้ถึง 5 จากเกมยุโรป 9 นัดล่าสุด โดยทั้งหมดนั้นเป็นการเล่นนอกบ้าน
- เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูลเคยเจอบาเยิร์นมาอย่างโชกโชนทั้งสมัยคุมไมนซ์และดอร์ทมุนด์ ด้วยสถิติชนะ 9 เสมอ 4 แพ้ 10
- เซอร์ดาน ชากิรี่ ปีกสำรองหงส์แดง เคยสังกัดอยู่บาเยิร์นระหว่างปี 2012-15 ฝากผลงานยิง 11 จาก 52 เกมบุนเดสลีกา รวมถึงร่วมทีมชุดกวาด 3 แชมป์ซีซั่น 2012-13
- บาเยิร์นแพ้ในบ้านเพียงหนเดียวเท่านั้นจากทุกรายการซีซั่นนี้ (ชนะ 10 เสมอ 4) โดยแมตช์นั้นโดนมึนเช่นกลัดบัคเผาเครื่อง 3-0 ตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคม
- โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ หอกบาเยิร์นยิงไป 29 จาก 34 เกมทุกรายการฤดูกาลนี้ โดยเพิ่งเบิ้ลตาข่ายใส่โวล์ฟสบวร์กเมื่อวันเสาร์ พร้อมทำสถิติแข้งต่างชาติที่ซัดได้มากสุดในบุนเดสลีกา (196)
- ลิเวอร์พูลชนะแค่ 3 จาก 8 เกมล่าสุดทุกรายการ ที่เหลือเสมอทั้งหมด โดย 3 ใน 5 จบสกอร์ 0-0
- หงส์แดงเสมอนอกบ้านมา 3 เกมติดต่อกัน ยิงได้แค่ประตูเดียว และชนะแค่หนเดียวเท่านั้นจาก 6 เกมเยือนล่าสุด (เสมอ 3 แพ้ 2)
- ซาดิโอ มาเน่ กำลังฟอร์มฮอตกดไป 8 จาก 9 เกมหลังให้ลิเวอร์พูล รวมถึง 2 ประตูแมตช์ชนะเบิร์นลี่ย์ 4-2 เมื่อวันอาทิตย์