ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ยูฟ่า /ยูโรป้าลีก/ยูโรคัพ » แกร่งกว่าแล้วไง ! 5 เหตุผลแมนยูได้ประโยชน์จากการดวลบาร์เซโลน่า

แกร่งกว่าแล้วไง ! 5 เหตุผลแมนยูได้ประโยชน์จากการดวลบาร์เซโลน่า

Posted 16/03/2019 by siamsport

สาวก "เร้ด อาร์มี่" ทั่วโลกคงใจหายใจคว่ำกับผลการจับสลากศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ บาร์เซโลน่า โดยแฟน "ผีแดง" หนักอกหนักใจกับการพบ บาร์ซ่า แต่ในขณะเดียวกันการเจอทีมที่เหนือกว่าอาจจะช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ประสบความสำเร็จในรอบนี้ก็ได้

แมนฯ ยูไนเต็ด กับ "เจ้าบุญทุ่ม" มีโอกาสได้เจอกันหลายครั้งในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยยุโรป โดยที่ทุกๆ คนจดจำได้เป็นอย่างดีก็ในนัดชิงฤดูกาล 2008-09  และ2010-11ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องเจ็บปวดเมื่อแพ้ บาร์ซ่า ชวดแชมป์ทั้งสองครั้ง

อย่าลืมนะว่า "ผีแดง" เคยเจอด่านหินมาแล้วในการพบ ปารีส แซงต์-แชร์แมง ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย และบรรดาคนลูกหนังรวมทั้งเกจิทั้งหลายต่างฟันธงว่าพวกเขาไม่รอดแน่นอน แล้วเป็นไงตอนนี้ได้ยื่นชูคอรอดวลกับ บาร์เซโลน่า ในวันที่ 9 เม.ย. เกมแรกที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และวันที่ 16 เม.ย. เกมสองที่ คัมป์ นู

1. สถิติพบ บาร์เซโลน่า ทั้งเหย้า-เยือน
ครั้งล่าสุดที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ บาร์เซโลน่า ในการเล่นแบบเหย้า-เยือนเกิดขึ้นในฤดูกาล 2007-08 หลังจากที่จัดหนัก โรม่า ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ส่งให้ "ปีศาจแดง" เข้าสู่รอบตัดเชือกซึ่งต้องพบกับ "เจ้าบุญทุ่ม" ที่ในเวลานั้นกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นและฟอร์มโหดจัดปลัดบอก

"เร้ด เดวิลส์" ทำผลงานได้ดีเยี่ยมในการบุกเสมอ 0-0 ในสนามคัมป์ นู เกมแรก ขณะในแมตช์สอง พอล สโคลส์ ทำประตูสุดยอดในเกมนี้ด้วยการตะบันไกลเกือบ 30 หลา บอลพุ่งแหวกอากาศหมุนติ้วราวพายุเข้าไปซุกที่ก้นตาข่าย และเป็นประตูโทนในเกมนั้น ส่งให้พวกเขาได้เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ และบทสรุปก็คือการคว้าถ้วยใบโตยุโรปด้วยการปราบ เชลซี พร้อมนำแชมป์ไปประดับไว้ในตู้โชว์ที่สนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

2. กลยุทธ์ในการฟาดฟัด
แน่นอนว่าการที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องดวลกับ บาร์ซ่า ถือเป็นงานที่สุดหินที่สุดของพวกเขาในถ้วยใบโตยุโรป แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นโอกาสทองสำหรับนักเตะดาวรุ่งที่จะได้ลงสนาม หากทีมมีปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บ และเหล่ากุมารแดงก็ไม่ทำให้แฟนบอลผิดหวัง เมื่อพวกเขาโชว์ฟอร์มได้ดียกเช่นในเกมกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง

อย่างไรก็ตามหลายคนอาจจะมองว่า "ผีแดง" ต้องเจอบททดสอบที่แสนน่ากลัวในการปะทะแข้งกับ ยอดทีมแห่งถิ่นคัมป์ นู แต่ในทางกลับกันการที่ต้องสู้ทีมแกร่งแบบนี้ แมนฯ ยูฯ ก็อาจจะได้ประโยชน์จากมุมมองในเรื่องการวางแท็คติกสู้กับพวกเขา

สำหรับ "ปีศาจแดง" พวกเขาเป็นทีมที่เล่นเกมรุกมากขึ้นภายใต้การกุมบังเหียนของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา โดยอาศัยการเล่นสวนกลับด้วยความรวดเร็ว ซึ่งสามารถทำลายแนวรับ บาร์ซ่า ได้ โดยเรื่องนี้ แมนฯ ยูฯ พิสูจน์ให้เห็นมาแล้วในการสู้กับทีมที่นิยมการครอบครองเกม แถม ยูไนเต็ด

ขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังเล่นเกมรับได้เหนียวแน่นในยามที่เจอกับที่มีสไตล์แบบ บาร์เซโลน่า ซึ่งพื้นฐานเน้นครองบอลเป็นหลัก และนั่นยิ่งเป็นการช่วยให้ สโมสรเจ้าของแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี 20 สมัย ได้เล่นตามเกมที่พวกเขาถนัดด้วย


3. แมนฯ ยูฯ สามารถประเมินตัวเองในการพบกับทีมที่เหนือกว่า 
ไม่มีใครสงสัยว่า บาร์เซโลน่า คือหนึ่งในสโมสรที่แข็งแกร่งในฤดูกาลนี้ แถมยังอาจจะเป็นทีมที่แกร่งที่สุดในยุโรปเลยก็ว่าได้ แน่นอนว่าทุกๆ ทีมที่ได้ผ่านเข้ามาเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศ ต่างสวดภาวนาอย่างให้ได้จับสลากมาเจอกับโคตรทีมแห่งแคว้นคาตาลัน และทีมที่เหลืออยู่คงโล่งท้องเมื่อเห็นชื่อ แมนฯ ยูฯ ได้ปะทะกับ บาร์ซ่า

สำหรับในเวลานี้ บาร์เซโลน่า เหนือกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด หลายเท่า แต่ในขณะเดียวกันการที่พวกเขาเป็นรองก็ถือเป็นโอกาสดีมากๆ ที่ทีมจะได้ประเมินสถานการณ์ของตัวเองในการสู้กับทีมที่แข็งแกร่งกว่า และจะได้วางแท็คติกได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

ความจริงแล้วหลังจากที่เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือ พวกเขาแทบจะทำผลงานไม่ค่อยเป็นชิ้นเป็นอัน และต้องมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือถึง 3 คน ก่อนที่ โซลชา จะนำจิตวิญญาณแห่ง "ผีแดง" คืนสู่ "โรงละครแห่งความฝัน" อีกครั้ง แต่กระนั้นพวกเขายังคงต้องพัฒนาทีมต่อไปเพื่อที่จะก้าวไปให้ถึงจุดสูงสุด 
 

4. โซลชา มีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง (อีกครั้ง)
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สร้างความประหลาดใจให้กับสาวก "เร้ด อาร์มี่" นับตั้งแต่ที่ได้รับงานกุมบังเหียนชั่วคราว โดย นายใหญ่ชาวนอร์เวย์ สามารถนำ แมนฯ ยูไนเต็ด งัดฟอร์มสุดยอดจนตอนนี้พวกเขามีลุ้นอันดับท็อปโฟร์แล้ว เขาแสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้จัดการทีมชั้นยอด, สามารถนำบรรดาแข้งซูเปอร์สตาร์ของทีมกลับมาอยู่ในฟอร์มสุดยอดได้อีกครั้ง

นอกจากนี้ โซลชา ยังวางแท็กติคได้อย่างชาญฉลาด และเข้าใจเกมเป็นอย่างดี ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะได้รับสัญญาเข้ามาทำหน้าที่กุมบังเหียนยอดทีมแห่งถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นการถาวรซึ่งอาจจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ หรือในช่วงซัมเมอร์ก็ได้

ในเกมกับ บาร์เซโลน่า ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีเยี่ยมสำหรับ "น้าลูกอม" และ แมนฯ ยูไนเต็ด โดย อดีตหัวหอกซูเปอร์ซับ "ผีแดง"  จะได้โชว์กึ๋นในการปะทะทีมที่ได้ชื่อว่าแกร่งที่สุดในลา ลีกา และอาจจะในโลกด้วยก็ได้ ขณะเดียวกันนี่ยังเป็นบททดสอบผู้จัดการทีมคนใหม่ของพวกเขาในเวทียุโรป แถมหากชนะงานนี้แมนฯ ยูฯ คงไม่ต้องมองหากุนซือใหม่แล้ว


5. ได้ประโยชน์จากการเป็นทีมรองบ่อน
ไม่มีใครคาดคิดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้ผ่านเข้ามาเล่นในรอบ 16 ทีมสุดท้าย แชมเปี้ยนส์ ลีก แถมตอนจับสลากมาเจอกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมงซึ่งเป็นทีมที่อุดมไปด้วยซูเปอร์สตาร์ และฟอร์มกำลังขึ้นหม้อ แถมในเกมแรกยังแพ้คาถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แน่นอนว่าทุกๆ คนฟันธงฉับๆ ว่า "ผีแดง" ตกรอบชัวร์

ยังไม่หมดแค่นั้นในเกมเยือนกรุงปารีส ทีมยังขาด ปอล ป็อกบา และแข้งตัวจริง 5 ราย แต่สุดท้าย แมนฯ ยูฯ สามารถหักปากกาเซียน ด้วยชัยชนะ 3-1 และนั่นเป็นแมตช์ที่สร้างความตกตะลึงให้กับวงการลูกหนังทั่วโลก ทำให้ตอนนี้ทุกๆ คนเริ่มหันมาสนใจพวกเขามากยิ่งขึ้น และยกให้ แมนฯ ยูฯ เป็นทีมที่ฆ่าไม่ตาย

หลังการจับสลากรอบ 8 ทีมสุดท้าย หลายคนคิดถึงเรื่อง เดจาวู เพราะเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อ ยูไนเต็ด ต้องสู้กับหนึ่งในทีมเต็งแชมป์รายการนี้ แน่นอนว่า "ผีแดง" ไม่ใช่ทีมเต็งแชมป์ แต่สิ่งนี้ก็ถือเป็นข้อดีเพราะทำให้พวกเขาไม่ต้องกดดัน และผ่อนคลายในฐานะทีมรองบ่อน ซึ่งความรูสึกแบบนี้จะทำให้ทีมโชว์ฟอร์มได้ดียิ่งขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »