"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปลี่ยนจากโหมดลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีก มาลุยถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก บ้าง โดยคืนวันอังคารที่ 9 เมษายนนี้ พวกเขามีคิวเปิดรัง แอนฟิลด์ ดวลกับ ปอร์โต้ ยอดทีมจากโปรตุเกส ในเกมรอบก่อนรอบชนะเลิศ นัดแรก ซึ่งถือเป็นการเจอกับ ปอร์โต้ อีกครั้ง หลังจากที่เคยฟาดแข้งกันในรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อฤดูกาลที่แล้ว และนี่คือเกร็ดน่ารู้สำหรับเกมนี้

    - ลิเวอร์พูล ไม่เคยแพ้ ปอร์โต้ ในเกมยุโรป จากการเจอกันทั้งหมด 6 ครั้ง (ชนะ 3 เสมอ 3)
    - ปอร์โต้ ถูก ลิเวอร์พูล เขี่ยร่วงรอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อฤดูกาลที่แล้ว โดยแพ้ด้วยสกอร์รวมสองนัด 0-5 (แพ้คาบ้าน 0-5 ก่อนบุกไปเจ๊าที่ แอนฟิลด์ 0-0)

     - ลิเวอร์พูล แพ้แค่หนเดียวเท่านั้น จาก 11 เกมยุโรปที่เจอกับทีมจากโปรตุเกสในรัง แอนฟิลด์ (ชนะ 7 เสมอ 3) โดยหนเดียวที่แพ้คือการปราชัยต่อ เบนฟิก้า ด้วยสกอร์ 0-2 ในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดสอง เมื่อปี 2006
     - ลิเวอร์พูล ผ่านเข้ารอบต่อไปได้ทั้งสี่ครั้ง ยามเจอกับทีมจากโปรตุเกสในรอบก่อนรองฯ ถ้วยยุโรป ซึ่งนั่นก็คือการปราบ เบนฟิก้า ในถ้วย ยูโรเปี้ยน คัพ ซีซั่น 1977-78 และซีซั่น 1983-84 รวมถึงในถ้วย ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ซีซั่น 2009-10 ส่วนอีกครั้งเป็นการโค่น ปอร์โต้ ในศึก ยูฟ่า คัพ ซีซั่น 2000-01

    - ลิเวอร์พูล สามารถผ่านจากรอบก่อนรองชนะเลิศ แชมเปี้ยนส์ ลีก 4 จาก 5 ครั้ง ในช่วงระหว่างซีซั่น 2004-05 ถึง 2017-18 โดยมีแค่ซีซั่น 2008-09 ที่ถูก เชลซี เขี่ยร่วงรอบก่อนรองฯ (แพ้ด้วยสกอร์รวมสองนัด 5-7)
    - ทั้ง 12 ประตูในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ของ ลิเวอร์พูล ฤดูกาลนี้ มาจากการทำประตูในกรอบเขตโทษ ซึ่งถือเป็นหนึ่งเดียวจาก 8 ทีมที่ยังทำประตูนอกเขตโทษไม่ได้ ขณะเดียวกันทั้ง 9 ประตูที่ ปอร์โต้ เสียในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ เป็นการเสียในกรอบเขตโทษทั้งหมด  

    - มุสซ่า มาเรก้า หัวหอก ปอร์โต้ ลุ้นที่จะกลายเป็นแข้งรายที่สี่ในประวัติศาสตร์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทำประตูได้ 7 เกมติดต่อกัน ต่อจาก เอดินสัน คาวานี่, รุด ฟาน นิสเตลรอย และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้
    - แฮตทริกครั้งแรกและครั้งเดียวจนถึงตอนนี้ของ ซาดิโอ มาเน่ ในการเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล คือการกระทุ้งสามประตูใส่ ปอร์โต้ ในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อฤดูกาลที่แล้ว (หงส์แดง บุกยำ 5-0)