"ไก่เดือยทอง" ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ต้องใช้คำว่า เก่ง และ เฮง หลังได้ ซน ฮึง-มิน ซัดประตูสุดงามพาทีมเปิดรัง เชือด แมนฯ ซิตี้ 1-0 ทั้งที่เป็นฝ่ายเสียจุดโทษก่อนตั่งแต่ต้นครึ่งแรก คว้าชัยสำคัญประเดิมสนามใหม่ในฟุตบอลยุโรป ก่อนออกไปเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ในศึกฟุตบอล ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก (รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก) คืนวันอังคารที่ผ่านมา
สนาม : ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม

    เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เทรนเนอร์สเปอร์ส พาทีมเข้ารอบนี้หลังฝ่าด่านดอร์ทมุนด์ด้วยประตูรวม 4-0 ก่อนอัดคริสตัล พาเลซ 2-0 ในเกมลีกล่าสุด เป็นชัยชนะนัดแรกในรอบ 3 เกม

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เทรนเนอร์แมนฯ ซิตี้ พาทีมเข้ารอบนี้ หลังถล่มชาลเก้ด้วยประตูรวม 10-2 ก่อนเชือดไบรท์ตัน 1-0 ในเกมตัดเชือกเอฟเอ คัพ ล่าสุด ผ่านเข้าชิงได้สำเร็จเป็นชัยชนะ 8 นัดติด

    เริ่มเกมได้ 7 นาที เป็น "ไก่เดือยทอง" ได้เสียวก่อนจากจังหวะขึ้นเกมกลางสนามของ เดเล่ อัลลี่ แทงบอลออกทางซ้ายให้ มุสซ่า ซิสโซโก้ สอดเข้าเขตโทษก่อนครอสให้  เดเล่ อัลลี่ ที่เติมเข้ามา ฮาร์ฟวอลเลย์ ข้ามคานออกไป

    แต่แล้วนาทีที่ 12 "เรือใบสีฟ้า" พลาดโอกาสทองเป็นจังหวะทำ แฮนด์บอล ของ แดนนี่ โรส ในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสิน บียอร์น ไคเปอร์ส ขอดู "วีเออาร์" ก่อนให้จุดโทษ ทีมเยือน แต่เป็น เซร์คิโอ อเกวโร ซัดไปติดเซฟ อูโก้ โยริส

    นาทีที่ 24 เจ้าถิ่นเริ่มขยับทำเกมได้ดีขึ้น คราวนี้เป็น แฮร์รี่ เคน รับบอลจาก คริสเตียน เอริคเซ่น ได้ยืนซัดด้วยขวาโล่งๆในกรอบเขตโทษ แต่เป็น เอแดร์ซอน โมราเอส นายทวาร "เรือใบสีฟ้า" โชว์ ซุปเปอร์เซฟ ปัดออกไปได้

    ก่อนหมดเวลาครึ่งแรก 15 นาที "เรือใบสีฟ้า" ได้จังหวะลุ้นจากลูกฟรีคิกทางฝั่งขวาของ อิลคาย กุนโดกัน เปิดบอลยาวเลยมาเสาสองให้ นิโกลัส โอตาเมนดี้ ยืนโขกแบบไม่มีตัวประกบ แต่ไปเข้ามือ อูโก้ โยริส เสียอย่างนั้น

    นาทีที่ 43 "ไก่เดือยทอง" มาได้ลูกฟรีคิกระยะอันตรายหน้ากรอบเขตโทษฝั่งขวา โดยเป็น ราฮีม สเตอร์ลิง ไปเหนี่ยวแขน ซน ฮึง-มิน ร่วงลงไป และเป็น แดนนี่ โรส รับน้าที่สังหาร แต่บอลเบาเข้ามือ เอแดร์ซอน อย่างน่าเสียดาย

    หมดครึ่งเวลาแรกยังไม่มีสกอร์ สเปอร์ส 0 แมนฯ ซิตี้ 0

    เริ่มครึ่งหลังไม่ถึง 1 นาที ทีมเยือนทักทายก่อนเป็น เซร์คิโอ อเกวโร พาลุยเข้าเขตโทษก่อนตักมาเสาสองให้ ราฮีม สเตอร์ลิง สอดมารับบอลแต่งด้วยขวาหนึ่งจังหวะก่อนซัดด้วยซ้าย ไปติดเซฟ อูโก้ โยริส เหมือนเดิม

    นาทีที่ 56 "ไก่เดือยทอง" เจอปัญหาใหญ่เมื่อ แฮร์รี่ เคน บาดเจ็บหนักจากจังหวะบวกกับ ฟาเบียน เดลฟ์ ไม่สามารถเล่นต่อได้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ไม่มีทางเลือกต้องส่ง ลูคัส มูร่า ลงสนามเป็นผู้เล่นสำรองคนแรก

    ผ่านมาจนถึงนาทีที่ 70 ยังไม่มีประตู โดยคราวนี้เป็น เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขยับแก้เกมบ้าง เปลี่ยนตัว เซร์คิโอ อเกวโร ที่ค่อนข้างเงียบแถมพลาดจุดโทษออก และส่ง กาเบรียล เฆซุส ลงสนามแทน

    แต่แล้วนาทีที่ 78 "ไก่เดือยทอง" มาได้ประตูออกนำจนได้เป็น ซน ฮึง-มิน รับบอล จาก คริสเตียน เอริคเซ่น หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปสุดเส้น บอลเหมือนจะออกหลังในตอนแรก แต่ ดาวยิงชาวโสม แต่งบอลจนได้ช่องซัดด้วยซ้ายตุงตาข่าย สเปอร์ส 1 แมนฯ ซิตี้ 0

    ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 87 เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มีเรื่องให้เครียดเพิ่มอีกแม้ ทีมออกนำอยู่ หลัง เดเล่ อัลลี่ บาดเจ็บไปอีกคน ต้องส่ง เฟร์นานโด ยอเรนเต้ ลงสนามแทน

    หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม สเปอร์ส 1 แมนฯ ซิตี้ 0 ลูกทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุมความได้เปรียบไว้ได้ ก่อนยกพลเยือน เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 17 เมษายน นี้

รายชื่อนักเตะที่ลงสนาม        

    สเปอร์ส (4-2-3-1) : อูโก้ โยริส - คีแรน ทริปเปียร์, โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, แยน แฟร์ต็องเกน, แดนนี่ โรส - มุสซ่า ซิสโซโก้, เดเล่ อัลลี่ - คริสเตียน เอริคเซ่น, ซน ฮึง-มิน, แฮร์รี่ วิงค์ส - แฮร์รี่ เคน

    เทรนเนอร์ : เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ 

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ไคล์ วอล์คเกอร์, นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอมเมริค ลาป๊อร์กต์, ฟาเบียน เดลฟ์ - อิลคาย กุนโดกัน, แฟร์นันดินโญ่, ดาบิด ซิลบา - ริยาด มาห์เรซ, เซร์คิโอ อเกวโร, ราฮีม สเตอร์ลิง 

ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า   

    ผู้ตัดสิน : บียอร์น ไคเปอร์ส (ฮอลแลนด์)