ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 34 - เมื่อสถิติลิเวอร์พูลไม่น่าจดจำเสียเลยยามเจอเชลซี!

ประเด็นร้อนก่อนเกมพรีเมียร์ลีก นัดที่ 34 - เมื่อสถิติลิเวอร์พูลไม่น่าจดจำเสียเลยยามเจอเชลซี!

Posted 13/04/2019 by siamsport

คู่บิ๊กแมตช์ ประจำสัปดาห์นี้ หนีไม่พ้นเกมที่แอนฟิลด์ ระหว่างลิเวอร์พูล พบเชลซี ซึ่งนอกจากสถิติที่ไม่ดีเลยของหงส์แดงในการเจอกับสิงห์บลูส์แล้วนั้น เหตุการณ์เมื่อ 5 ปีที่แล้ว มันช่างประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ ส่วนจะเป็นอะไรนั้น แฟนๆต้องไปติดตามกัน

สเปอร์ส-ฮัดเดอร์สฟิลด์

 

สเปอร์สเพิ่งกำราบแมนฯซิตี้ได้ในเกมนัดแรกศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกแรก แต่ต้องแลกด้วยการบาดเจ็บของแฮร์รี่ เคน

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงระหว่างเดือนเมษายน ปี 1955 ถึง เมษายน ปี 1956 สเปอร์สเคยแพ้ฮัดเดอร์สฟิลด์ ถึงสามเกมติดต่อกัน แต่หลังจากนั้นที่พบกัน 8 นัดในทุกรายการไก่เดือยทองก็ไม่เคยแพ้ต่อเดอะ เทอร์รี่ส์ อีกเลย ส่วน12 จาก 14 ประตูหลังสุดของสเปอร์ส เกิดขึ้นในช่วงครึ่งหลัง

ฮัดเดอร์สฟิลด์แพ้ไปถึง 9 นัด จาก 10 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก(เสมอ 1) เรียกได้ว่าฟอร์มไม่เอาอ่าวเลยจริงๆ และผลงานการเจอกับทีมระดับบิ๊กซิกซ์นั้นก็ยิ่งแย่เอาเข้าไปใหญ่เมื่อตั้งแต่เอาชนะแมนฯยูไนเต็ด 2-1 ได้เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2017 จากนั้นพวกเขาแพ้ไปถึง 17 จาก 19 เกม(เสมอ 2) และตอนนี้ก็แพ้ต่อเหล่าบิ๊กซิกซ์ไปแล้ว 10 เกมติดต่อกัน

แมนฯยูไนเต็ด-เวสต์แฮม

 

 แมนฯยูไนเต็ดเพิ่งลงเล่นเกมกับบาร์เซโลน่าเมื่อกลางสัปดาห์และจากสถิติเมื่อกลับมาเล่นเกมลีกหลังผ่านเกมยุโรปไม่ดีเอาเสียเลย เมื่อ 4 ครั้งหลังสุดนั้นพวกเขาไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้เลย โดยแพ้ต่อแมนฯซิตี้, ลิเวอร์พูล, อาร์เซน่อล และเสมอเซาธ์แฮมป์ตัน อย่างไรก็ตามเวสต์แฮม มีสถิติเกมเยือนสุดบู่ โดย 7 นัดหลัง พวกเขาแพ้ไปถึง 6 เกม โดยไม่สามารถยิงประตูได้เลย

โรเมลู ลูกากู ถูกฉโลกกับเวสต์แฮมเหลือเกิน เมื่อกองหน้าร่างยักษ์รายนี้ ทำได้ถึง 6 ประตู จาก 5 เกม ยามเจอเดอะ แฮมเมอร์ส ในบ้านตัวเอง ซึ่งนับเป็นสถิติที่ดีที่สุดในการพังประตูทีมๆหนึ่งในถิ่น รองจาก อลัน เชียร์เรอร์(เอฟเวอร์ตัน) 6 ประตู, เธียร์รี่ อองรี(แอสตัน วิลล่า) 6 ประตู, จิมมี่ ฟลอยด์ ฮัสเซลเบงค์(เวสต์แฮม) 6 ประตู, เซร์คิโอ อเกวโร่(ลิเวอร์พูล) 7 ประตู

หากเวสต์แฮม บุกมาเอาชนะปีศาจแดงได้ถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด จะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเก็บชัยจากแมนฯยูไนเต็ดได้ทั้งเหย้า-เยือน นับตั้งแต่ซีซั่น 2006/07

คริสตัล พาเลซ - แมนฯซิตี้

 

ในชีวิตของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า กับการทำงานในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ เขาแพ้ที่บ้านตัวเองเพียงสองครั้งเท่านั้นต่อเชลซี และคริสตัล พาเลซ

กุนซือสแปนิช เอาชนะดิ อีเกิ้ลส์ ไม่ได้มาแล้วสองเกมติด ซึ่งเป็นสถิติที่ไร้ชัยนานสุดรองจากที่เขาไม่ชนะเอฟเวอร์ตัน สามติดและโบรุสเซียร์ มึนเช่นกลัดบัค 4 เกม อย่างไรดี สถิติในบ้านของพาเลซซีซั่นนี้ไม่ดีนัก เมื่อมีอัตราชนะเพียง 41% จากแต้มในบ้านตัวเองซีซั่นนี้

เซร์คิโอ อเกวโร่ พังประตูใส่คู่แข่งจากเมืองลอนดอนไปแล้ว 20 ประตู มีเพียงเวนย์ รูนี่ย์เท่านั้น(30)ที่ทำได้มากกว่า ทว่าตอนนี้ศูนย์หน้าอาร์เจนไตน์บอดสนิทยามมาเล่นในถิ่นเซลเฮิร์สท์ พาร์ดมาแล้ว 5 เกม

ลิเวอร์พูล - เชลซี

 

คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ กับเรื่องที่ไม่เข้าตาของลิเวอร์พูล

ยักษ์ใหญ่แห่งแอนฟิลด์ เอาชนะเชลซีในบ้านตัวเองเกมลีกไม่ได้มาแล้วถึง 7 เกมติดต่อกัน โดยแพ้ไปสองนัดและที่เหลือแบ่งแต้มกันไป ซึ่งเป็นสถิติที่ไร้ชัยนานสุดของลิเวอร์พูลในการเจอกับคู่แข่งรายนั้นๆ

เท่านั้นไม่พอ ฝั่งทีมเยือน เชลซี บุกเอาชนะทีมจ่าฝูงในวันนั้นๆ ได้มาแล้ว 3 จาก 4 เกมหลังสุด และรวมถึงเกมที่บุกเอาชนะลิเวอร์พูล 2-0 เมื่อเดือนเมษายน ปี 2014

ในเรื่องของสถิติรายบุคคล แม้โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยิงประตูในลีกบ้านตัวเอง 7 ประตูจาก 6 เกมหลังสุด แต่การเจอกับสิงห์บลูส์นั้น เขาเป้าสะอาดมาตลอด 5 เกมที่ดวลแข้งกับเชลซี ส่วนเอแด็น อาซาร์ เป็นผู้เล่นที่มีส่วนร่วมกับประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ฯ ซีซั่นนี้ โดนยิงไป 16 ประตู และทำอีก 12 แอสซิสต์

เดจาวู ลิเวอร์พูล, แมนฯซิตี้

 

ไม่รู้บังเอิญหรือเป็นเรื่องตั้งใจ เพราะครั้งล่าสุดที่ลิเวอร์พูลกับแมนฯซิตี้ ฟาดฟันลุ้นแชมป์กัน เมื่อซีซั่น 2013/14 หนึ่งในเกมที่เป็นจุดเปลี่ยนต่อการลุ้นแชมป์ของหงส์แดงก็คือเกมที่ แพ้คารังต่อเชลซี 0-2 เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2014 แล้วเกมในวันเดียวกัน แมนฯซิตี้ก็บุกไปเอาชนะคริสตัล พาเลซ ได้ 2-0 และนัดต่อมาลิเวอร์พูลก็มาหลุดในเกมที่เสมอกับพาเลซ 3-3 ทั้งที่ออกนำไปก่อนถึง 3-0 จนแชมป์ในมือหลุดไปให้กับซิตี้ในที่สุด

 

และในสุดสัปดาห์นี้ ช่วงเวลาใกล้เคียงกับ 5 ปีก่อน แมตช์เดย์ที่ 34 บังเอิญว่า ลิเวอร์พูล ก็จะเปิดบ้านพบกับเชลซี และ แมนฯซิตี้ ก็ต้องยกพลไปเยือนคริสตัล พาเลซ ซึ่งไม่รู้ว่าผลมันจะซ้ำรอยเดิมหรือไม่ แฟนๆทั้งสองทีมต้องมาลุ้นกัน!

วัตฟอร์ด - อาร์เซน่อล

 

วัตฟอร์ด สร้างผลงานชิ้นโบว์แดงด้วยการทะลุชิงดำศึกเอฟเอ คัพ ส่วนอาร์เซน่อลก็เพิ่งทำผลงานสุดเจ๋งเอาชนะนาโปลี ได้ในศึกยูโรปา ลีก

ทรอย ดีนี่ย์ มีโอกาสที่จะเป็นนักเตะของแตนอาละวาดคนที่สามต่อจาก ลูเธอร์ บลิสเซตต์ และ จอห์น บาร์นส์ ที่ทำประตูได้แตะหลัก 10 ประตู ในลีกสามปีติดต่อกันโดยตอนนี้ กัปตันเดอะ ฮอร์เน็ตส์ ทำไปแล้ว 9 ประตูในลีกซีซั่นนี้ ส่วนปีก่อนๆ 2015/16 ทำไป 13 ประตู 206/17 ทำไป 10 ประตู

เดอะ กันเนอร์ส เก็บคลีนชีตไม่ได้เลยในการเล่นเป็นทีมเยือนในซีซั่นนนี้ ส่วนวัตฟอร์ด แพ้อาร์เซน่อลในวิคาเรจ โร้ดมาแล้ว 4 จาก 5 เกมในลีก แต่ซีซั่นที่แล้วสามารถเอาชนะไอ้ปืนใหญ่ได้ 2-1

คู่นี้จะลงสนามในคืนวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่ดีของอาร์เซน่อล เมื่อพวกเขาเอาชนะในเกมที่แข่งวันนี้ได้ 7 จาก 8 เกม และเพียงครั้งเดียวต่อคริสตัล พาเลซ เท่านั้น เมือเดือนเมษายน ปี 2017

 


 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »