คืนนี้เดินทางมาถึงคิวของยูโรปา ลีก รอบรองชนะเลิศ กันบ้าง น่าสนใจไม่แพ้ ชปล. เลยทีเดียว โดยคู่แรกจะเป็นการเจอกันระหว่างหนึ่งในตัวแทนจากลีกผู้ดีอย่าง อาร์เซน่อล ที่ต้องกรำศึกหนักพบกับ "ไอ้ค้างคาว" บาเลนเซีย ขณะที่อีกหนึ่งคู่เป็นตัวแทนจากเยอรมันอย่าง แฟร้งค์เฟิร์ต ที่จะเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ก่อนเกมนี้มีประเด็นอะไรน่าสนใจเรารวบรวมมาให้แล้ว
1.ทางลัดสู่แชมเปี้ยนส์ ลีก

    แน่นอนว่าการเป็นแชมป์ยูโรปา ลีกถือเป็นทางลัดอีกหนึ่งทางในการไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้า ยิ่งสถานการณ์ในลีกของทั้ง 4 ทีมรอบรองชนะเลิศนี้ยังคงลุ้นโควต้า ชปล. อย่างหนัก ก็ทำให้ทั้งสี่ทีมเพิ่มแรงจูงใจที่จะคว้าแชมป์ยูโรปา ลีกมากขึ้นไปอีก เชลซี และอาร์เซน่อล กำลังขับเคี่ยวอย่างเมามันส์ในการลุ้นอันดับที่ 4 ซึ่งดูจากสถานการณ์ตอนนี้ทีม สิงห์บลูส์ มีโอกาสที่จะคว้าท็อปโฟร์มากกว่า ดังนั้นมันจึงทำให้ยิ่งกดดัน อาร์เซน่อล ต้องคว้าแชมป์ยูโรปา ลีกให้ได้สถานเดียว ขณะที่ บาเลนเซีย ยังคงมีลุ้นท็อปโฟร์อยู่เนื่องจากมีแต้มตามหลังที่ 4 อย่าง เคตาเฟ่ อยู่ 3 แต้ม และสุดท้าย แฟร้งค์เฟิร์ต ที่รั้งอันดับ 4 อยู่ในตารางตอนนี้ยังต้องทำแต้มหนีผู้ตามใน 5 นัดสุดท้าย

2."สิงห์บลูส์" งานลำบาก

    เชลซี ถูกคาดหมายว่าจะผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในฐานะเต็งแชมป์ของรายการนี้ แต่ทว่าคู่แข่งของพวกเขาในรอบรองชนะเลิศอย่าง แฟร้งค์เฟิร์ต ไม่ธรรมดาเหลือเกินเพราะฤดูกาลนี้ลูกทีมของ อาดี้ ฮึทเทอร์ ขึ้นชื่อเรื่องการเล่นในถิ่น คอมเมิร์ซแบงค์ อารีน่า เป็นอย่างมาก 10 นัดหลังสุดในบ้านทุกรายการแพ้แค่เกมเดียวเท่านั้น และถ้าหากนับเฉพาะเกมในบ้านยูโรปา ลีก พวกเขาไม่แพ้ใครเลยแถมชนะถึง 5 จาก 6 นัด สอยตาข่ายคู่แข่งไปถึง 16 ประตู อย่างไรก็ตาม เชลซี ก็พกความมั่นใจมาเหมือนกันเพราะพวกเขาไม่แพ้ใครเลยในยูโรปา ลีก 12 เกม แถมชนะไปถึง 11 นัดด้วย คืนนี้น่าจะเป็นเกมที่สนุกแน่นอน

3.เจอทีมจากสเปน หลอนทุกที

    เมื่อฤดูกาลที่แล้ว อาร์เซน่อล พ่ายแพ้ให้แก่ แอตเลติโก มาดริด อกหักตกรอบในรอบรองชนะเลิศยูโรปา ลีก โดย ปืนใหญ่ มักจะมีสถิติที่ไม่ค่อยน่าจดจำกับทีมจากสเปนเท่าไหร่นัก เมื่อพวกเขาเอาชนะทีมจากสเปนได้เพียงแค่ 10 นัดจาก 33 เกมในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างไรก็ตาม ใน 10 นัดนี้ ปืนใหญ่ เอาชนะเกมในบ้านถึง 8 นัดและหนึ่งในนั้นเป็นเกมที่เอาชนะ บาเลนเซีย ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อฤดูกาล 2000/01 แต่สุดท้ายก็เป็นทีม "ไอ้ค้างคาว" ที่เอาคืนได้ในบ้านและเข้ารอบด้วยกฎอเวย์โกล์

4.กาเมโร่ ปะทะ บอสเก่า

    แมตช์ระหว่าง อาร์เซน่อล ปะทะกับ บาเลนเซีย นั้นมีหลายนักเตะที่จะได้เจอกับต้นสังกัดเก่าของพวกเขา อาทิ ชโคดราน มุสตาฟี่ อดีตกองหลัง "ไอ้ค้างคาว" ที่ย้ายมาร่วมทัพ ปืนใหญ่ ในปี 2016 หรืออาจจะเป็น ฟรานซิส โกเกอแล็ง ที่แม้จะโดนแบนในเกมแรกคืนนี้แต่เขาจะได้กลับมาเยือน เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม อีกครั้ง นอกจากนี้เราอาจจะมีโอกาสได้เห็น อูไน เอเมรี่ เจอกับลูกทีมเก่าของเขาอย่าง เควิน กาเมโร่ ที่ซึ่งทั้งสองเคยร่วมกันพา เซบีย่า คว้าแชมป์ยูโรปา ลีกสามครั้งติดต่อกันมาแล้ว (2013-16) โดยถ้ายังจำกันได้ กาเมโร่ ยิงจุดโทษคนสุดท้ายให้ทีมชนะ เบนฟิก้า คว้าแชมป์ยูโรปา ลีก 2013/14 และยังเป็นคนยิงตีเสมอใส่ ลิเวอร์พูล ก่อน เซบีย่า จะยิงแซงคว้าแชมป์ยูโรปา ลีก 2015/16 ขณะที่ซีซั่นนี้เขายิงไป 8 ประตูจาก 49 เกม ต้องมาดูกันว่าคืนนี้ เขาจะสร้างอันตรายให้กับบอสเก่าของเขาหรือไม่

5.เชลซี พกสถิติดี

    นี่จะเป็นครั้งแรกที่ แฟร้งค์เฟิร์ต จะได้พบกับ เชลซี โดยก่อนหน้านี้ สิงห์บลูส์ แพ้ให้กับทีมจากเยอรมันแค่ครั้งเดียวตลอด 20 นัดหลังสุดในฟุตบอลยุโรป (ชนะ 5 เสมอ 4) แถม 2 ครั้งหลังสุดที่มาเยือนเยอรมัน พวกเขายังสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อีก (ชนะ ชาลเก้ ได้ทั้งฤดูกาล 2013/14 และ 2014/15) ขณะที่ แฟร้งเฟิร์ต พ่ายแพ้ให้กับทีมจากอังกฤษแค่ครั้งเดียวซึ่งต้องย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาล 1967/68 ที่พ่ายคาบ้านแก่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์