หนึ่งในทีมยุคก่อตั้งพรีเมียร์ลีกอย่างสิงห์ผงาด ได้กลับขึ้นมาอยู่บนลีกสูงสุดอีกครั้ง หลังเฉือนชนะแกะเขาเหล็กในรอบเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ

อีเอฟแอล แชมเปี้ยนชิพ 2018-2019 รอบเพลย์ออฟนัดชิงชนะเลิศ เพื่อโควตาขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกเป็นทีมสุดท้าย ที่สนามเวมบลีย์ เป็นการพบกันระหว่าง แอสตัน วิลลา ดวลกับ ดาร์บี้ เคาน์ตี้

ดีน สมิธ กุนซือสิงห์ผงาด เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ด้วยการใช้สามประสานตัวความหวังในแนวรุก ได้แก่ อัลเบิร์ต อโดมาห์, แทมมี อับราฮัม และ อันวาร์ เอล กาซี

ด้านแกะเขาเหล็กของ แฟรงค์ แลมพาร์ด วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้ เมสัน เบนเนตต์ ค้ำหน้าเป้าทำเกมรุกร่วมกับ ทอม ลอว์เรนซ์, เมสัน เมาท์ และ แฮร์รี วิลสัน

เริ่มเกมมาเป็นฝั่งของวิลลาที่ครองบอลบุกได้ดูดีกว่า จนกระทั่งช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 44 ก็จัดการพังประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ อาห์เหม็ด เอลโมฮามาดี้ เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษให้ เอล กาซี โฉบมาพุ่งโหม่งลูกอย่างเด็ดขาด ส่งให้สิงห์ผงาดออกนำ 1-0 และก็จบ 45 นาทีแรกไปด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังเกมรุกของวิลลาก็ยังทำได้ดีกว่า ก่อนจะมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ เอล กาซี ได้บอลทางฝั่งซ้ายก่อนลากตัดเข้าในแล้วยิงด้วยขวาแฉลบบล็อคแนวรับดาร์บี้ไปเข้าทาง จอห์น แม็คกิน โฉบมาโขกตัดหน้าผู้รักษาประตูตุงตาข่าย ช่วยให้สิงห์ผงาดหนีห่างเป็น 2-0

เมื่อเสียไปถึงสองลูก ดาร์บี้จึงไม่มีทางเลือกต้องพยายามหาโอกาสบุกเพื่อหวังตีไข่แตก ก่อนจะมาทำสำเร็จในนาทีที่ 81 จากจังหวะที่ ฟลอเรียน โจเซฟซูน เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ เจย์เดน โบเกิ้ล โหม่งชงต่อให้ แจ็ค แมร์ริออตต์ ยิงด้วยขวาไม่เหลือ ทำให้แกะเขาเหล็กไล่มาเป็น 1-2

จากนั้นแม้ส่าลูกทีมของ แลมพาร์ด จะโหมบุกหนักเพื่อหวังตีเสมอ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ส่งผลให้สุดท้ายจบเกมแอสตัน วิลลาเฉือนชนะหวุดหวิด 2-1 คว้าตั๋วใบสุดท้ายเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง นับตั้งแต่ร่วงตกชั้นลงมาตั้งแต่ปี 2016