"ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกุนซือทีมชาติไทย เผยประเด็นโค้ชที่จะมาคุมทีมชาติไทยชี้เป็นใครก็ได้ จะชาวไทยหรือต่างชาติ ขอเพียงเข้ามาช่วยพัฒนาวงการลูกหนังไทยให้ดีกว่าเดิม ซึ่งทุกอย่างอยู่ที่นโยบายและแนวทางของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

       หลังจากมีกระแสข่าวเกี่ยวกับกุนซือต่างชาติ อากิระ นิชิโนะ อดีตเฮดโค้ชทีมชาติญี่ปุ่น ชุดฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งพาทีมทะลุถึงรอบ 16 ทีม รวมถึง ยูน จอง-ฮวาน กุนซือชาวเกาหลีใต้ ที่เพิ่งแยกทางกับเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ได้ยื่นโปรไฟล์สมัครคุมทีมชาติ ที่มีคิวเตรียมความพร้อมสำหรับการลุยศึกฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ที่จะมีการจับสลากแบ่งสายในวันที่ 17 ก.ค. 62 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ซึ่งทีมชาติไทยอยู่ในโถที่ 3 ก่อนที่จะเริ่มการแข่งขันรอบคัดเลือกในช่วงเดือน ก.ย. 62 นี้

     เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวทางผู้สื่อข่าวสอบถามความคิดเห็นของ ''ซิโก้'' เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในฐานะอดีตกุนซือทีมชาติไทยที่พาทีมประสบความสำเร็จ ช่วยปลุกกระแสวงการลูกหนังไทยให้กลับมาคึกคักและเป็นเบอร์ 1 อาเซียนด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ทั้ง ซีเกมส์, ชิงแชมป์อาเซียน, การเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายเอเชียน คัพ และผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ก่อนที่จะแยกทางกับสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ในที่สุ

     อดีตกองหน้าจอมตีลังกา ได้กล่าวว่า ''ก็พอจะทราบข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้นเหมือนกัน เนื่องจากยังติดตามเชียร์และให้กำลังใจกับทีมชาติไทยอยู่เสมอ เรื่องของการยื่นโปรไฟล์ของกุนซือต่างชาตินั้น ส่วนตัวมองว่าจะเป็นใครก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นโค้ชชาวไทย หรือต่างชาติ ไม่มีปัญหาหากเข้ามาแล้วมีส่วนช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทย ทำให้วงการฟุตบอลไทยดีขึ้น ทุกอย่างนั้นคงต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยว่าจะมีนโยบายในการทำงานเช่นไร''

     สำหรับการแบ่งโถการจับสลากฟุตบอลโลก 2020 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย โถ 1 : อิหร่าน, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, ออสเตรเลีย, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ซาอุดีอาระเบีย, จีน โถ 2 : อิรัก, อุซเบกิสถาน, ซีเรีย, โอมาน, เลบานอน, คีร์กีซสถาน, เวียดนาม, จอร์แดน โถ 3 : ปาเลสไตน์, อินเดีย, บาห์เรน, ทาจิกิสถาน, เกาหลีเหนือ, ไต้หวัน, ฟิลิปปินส์, ไทย* โถ 4 : เติร์กเมนิสถาน, เมียนมา, ฮ่องกง, เยเมน, อัฟกานิสถาน, มัลดีฟส์, คูเวต, มาเลเซีย โถ 5 : อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, เนปาล, กัมพูชา, บังกลาเทศ, มองโกเลีย, กวม, ศรีลังกา

     การจับสลากจะมีขึ้นในวันที่ 17 กรกฎาคมนี้แบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 5 ทีม โดยโปรแกรมปี 2019 ทีมชาติไทยจะทำการแข่งขัน 5 นัด แบ่งเป็นเหย้า 2 นัด และเยือน 3 นัด ส่วนในปี 2020 จะแข่งขันอีก 3 นัด แบ่งเป็นเหย้า 2 นัด และเยือน 1 นัด โดยที่ แชมป์กลุ่ม และ รองแชมป์กลุ่ม จะผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 3 ต่อไป รวมถึงอันดับ 3 ดีที่สุด 4 ทีม