ช่วงที่ผ่านมาเรื่องราวของ เนย์มาร์ กับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ได้รับความสนใจจนสื่อและคอลูกหนังทั่วโลก เพราะนักเตะดูเหมือนไม่มีความสุขกับการเล่นให้ "เปแอสเช" อีกต่อไปแล้ว ในขณะที่สโมสรก็ไม่ต้องการเก็บนักเตะที่ไร้ใจเอาไว้กับทีม เพียงแต่ยังไม่สามารถหาทีมไหนที่กล้าทุ่มเงินซื้อ ดาวยิงเลือดบราซิเลียน ไป
    จะว่าไปแล้วพฤติกรรมทั้งในและนอกสนามของ เนย์มาร์ นับตั้งแต่ที่โยกจาก บาร์เซโลน่า มาอยู่กับ ยอดทีมแห่งเมืองหลวงฝรั่งเศส เมื่อปี 2017 มีเยอะแยะมากมาย และในช่วง 2 ฤดูกาลของเขา สร้างความเอือมระอาให้กับเพื่อนร่วมสังกัด, โค้ช และบอร์ดบริหารเหลือเกิน จนตอนนี้ดูเหมือนว่าฟางเส้นสุดท้ายระหว่างพวกเขากำลังจะขาดสะบั้นแล้ว

    จากคำโบราณที่มักจะสอนลูกหลานเอาไว้ว่า "อยู่ให้เขารัก จากให้เขาอาลัย อยู่ให้เขาไว้ใจ ไปให้เขาคิดถึง" คงไม่เหมาะสมกับ เนย์มาร์ เพราะหาก สตาร์กองหน้าทีมชาติบราซิล โบกมือลาถิ่นปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ จริงๆ คงรู้นะว่าจะมีคน "คิดถึง และอาลัย" หรือเปล่า !!??

1. แย่งยิงจุดโทษ
    ย้อนกลับไปในการย้ายมาเล่นฤดูกาลแรกกับ "เปแอสเช" เนย์มาร์ ก็สร้างวีรเวรเอาไว้ให้ลูกหลานได้จดจำเมื่อเกิดเหตุกระทบกระทั่งกับ เอดินสัน คาวานี่ หัวหอกทีมชาติอุรุกวัย ในการแย่งกันยิงทั้งฟรีคิกและจุดโทษ เกมลีกชนะ โอลิมปิก ลียง 2-0

    เหตุการณ์ตอนนั้นทำเอาแฟนบอล, นักเตะทั้ง 2 ทีม ต่างก็อึ้งเมื่อทั้งสองมีปากเสียงกันอย่างหนักในการแย่งยิงลูกจุดโทษ ซึ่งสุดท้ายเป็น คาวานี่ ที่ได้บอลไปสังหาร แต่เจ้าตัวกลับยิงไม่เข้าแถมเรื่องไม่จบแค่นั้นเพราะหลังจบเกม หัวหอกชาวอุรุกวัย กับ เนย์มาร์ ยังเข้าไปทะเลาะกันต่อภายในห้องแต่งตัวด้วย   

    ช่วงเวลานั้นมีการแฉว่า คาวานี่ อารมณ์เดือดสุดๆ เพราะไม่พอใจทัศนคติของเนย์มาร์ ที่มาแย่งจุดโทษเพราะนี่เป็นหน้าที่ที่เขารับผิดชอบมาตลอด ซึ่ง เนย์มาร์ ก็พูดจาตอบโต้คืน และทั้งคู่ยืนประจันหน้ากัน โดยหากไม่มีเพื่อนร่วมทีมเข้ามาห้ามมีหวังพวกเขาได้แลกหมัดกันแน่นอน

    แม้สุดท้าย คาวานี่ ได้ออกมายืนยันว่าตนกับ ดาวยิงแซมบ้า ได้เคลียร์ปัญหาคาใจกันแล้ว และไม่มีอะไรในก่อไผ่ทั้งนั้น แต่หลังจากนั้นไม่นานนัก อดีตสตาร์ลูกหนัง "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ได้จัดการกดเลิกติดตาม อินสตาแกรม ของคู่กรณีทันที งานนี้คงไม่ต้องบอกนะว่า เนย์มาร์ คิดยังไง !!??

2. มีปัญหากับกุนซือ
    "ม้าดีต้องพยศ" อาจจะใช้กับนักกีฬาดังๆ ที่ฝีเท้าจัดจ้านแต่มักสร้างปัญหา กรณีของ เนย์มาร์ ก็คงเป็นแบบนั้น เพราะไม่มีใครปฏิเสธเรื่องศักยภาพลูกหนังของเจ้าตัว ไม่งั้น แซงต์-แชร์กแมง คงไม่ทุ่มเงินเป็นค่าฉีกสัญญาให้ บาร์เซโลน่า จนกลายเป็นสถิติโลกในทุกวันนี้

    อย่างไรก็ตาม  ความดื้อความห้าวของ เนย์มาร์ บางครั้งก็มากเกินกว่าจะรับได้ โดยเขาเคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับ อูไน เอเมรี่ กุนซือชาวสแปนิช ที่ในเวลานั้นยังนั่งกุมบังเหียนยอดทีมแห่งกรุงปารีส โดยไม่สนใจว่าคนที่มีปัญหาด้วยเป็นเทรนเนอร์

    เรื่องของเรื่องเริ่มจาก เอเมรี่ ที่สั่งให้นักเตะครึ่งหนึ่งของทีมเลิกซ้อมเร็วกว่ากำหนด เพื่อหวังว่าลูกทีมได้มีเวลาพักมากขึ้น เนื่องจากพวกเขาเพิ่งบุกไปถล่ม อันเดอร์เลชท์ 4-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แต่เรื่องดังกล่าวกลับกลายเป็นทำให้ เนย์มาร์ รู้สึกไม่พอใจ เพราะเจ้าตัวอยากซ้อมนานกว่านั้น

    จากนั้นเขาก็ระบายอารมณ์ด้วยการปาลูกบอลใส่กำแพงเพราะไม่พอใจกับแนวคิดของเทรนเนอร์ ที่สั่งหยุดการซ้อม ขณะที่ เอเมรี่ รู้สึกว่านี่เป็นการกระทำที่ปีนเกลียวเกินไปจนนำไปสู่การทะเลาะกันของทั้งคู่

3. ทะเลาะกับแฟนบอล
    การเป็นซูเปอร์สตาร์บางครั้งก็ต้องจำใจที่จะเป็นที่สนใจของแฟนบอล และ เนย์มาร์ น่าจะรู้เรื่องนี้ดี แต่เจ้าตัวกลับไม่ได้รู้สึกรู้สาว่าตนเองเป็นบุคคลสาธารณะ และที่มีรายได้มหาศาลทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็มาจากคอลูกหนังเหล่านี้

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังเกมนัดชิง เฟร้นช์ คัพ ที่แพ้ดวลจุดโทษ แรนส์ โดยเมื่อถึงช่วงที่ต้องขึ้นไปรับเหรียญรองแชมป์ แน่นอนว่าแฟนบอลต้องอยากถ่ายภาพสตาร์ลูกหนังระดับโลก ซึ่งนักเตะของ "เปแอสเช" ก็ยินดีไม่มีปัญหาที่จะโดนถ่ายรูปแม้ในเวลานั้นจะมีอารมรณ์ผิดหวังที่ชวดแชมป์ก็ตาม

    จนกระทั่งมาถึงช่วงที่ เนย์มาร์ เดินผ่านฝูงชนมีแฟนบอลคนหนึ่งหยิบโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูป และอัดคลิป เนย์มาร์ แต่งานนี้เจ้าตัวออกอาการไม่พอใจมากๆ จนกดโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่ายลงไปเพื่อไม่ให้ถ่ายเขา 

    ยังไม่จบแค่นั้นเพราะแฟนบอลคู่กรณีเคืองสุดๆ จนทั้งคู่สาดน้ำลายใส่กัน ก่อนที่ เนย์มาร์ จะฟาดแขนใส่อีกฝ่าย โดยมันดูเหมือนว่าจะไปโดนคางของคู่กรณีด้วย จากเรื่องดังกล่าวทำให้ หัวหอกแซมบ้า เป็นที่รังเกียจของแฟนบอลหลายๆ สโมสรในลีกเมืองน้ำหอมไปเลย

4. คลั่งปาร์ตี้
    เนย์มาร์ ขึ้นชื่อว่าเป็นนักฟุตบอลระดับเซเลบริตี้ และมักจะมีเพื่อนฝูงเป็นคนดังหลายๆ วงการโดยเฉพาะวงการบันเทิง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขามักจะออกไปเที่ยวปาร์ตี้อย่างเมามัน แม้บางครั้งนักเตะจะมีปัญหาบาดเจ็บแต่ก็หยุดพฤติกรรมคลั่งปาร์ตี้ของเขาไม่ได้

    เรื่องนี้มีมาตั้งแต่สมัยอยู่กับ บาร์เซโลน่า และก็ลามมาที่ "เปแอสเช" อย่างตอนที่นักเตะขอถอนตัวในเกมเยือน มงต์เปลลิเย่ร์ โดยให้เหตุผลว่าต้องการรักษาสภาพความฟิตเพื่อให้พร้อมสำหรับการเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

    อย่างไรก็ตามข้ออ้างดังกล่าวช่างสวนทางกับพฤติกรรม เพราะ เนย์มาร์ ดันทะลึ่งมีภาพอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์ ขณะที่โผล่ไปอวยพรวันเกิด ติอาโก้ ซิลวา เพื่อนร่วมชาติ และฉลองปาร์ตี้อย่างเมามัน ซึ่งดูยังไงแล้วก็ไม่เหมือนกับคนที่ต้องการพักร่างกายสำหรับช่วยทีมในเกมสำคัญเลย

    ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะขนาดตอนนี้เขาบาดเจ็บฝ่าเท้าจนถึงขั้นต้องใช้ไม้ค้ำยันช่วยพยุงเวลาเดิน แต่ก็ยังมีทั้งภาพ และคลิปขณะที่เที่ยวงานคาร์นิวัลในประเทศบ้านเกิดอย่างเมามัน แม้สังขารจะไม่อำนวยแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนคลั่งปาร์ตี้แบบนี้ โดยพฤติกรรมนี้ทำให้ โชเซ่ แฟร์เรยร่า เนโต้ อดีตดาวเตะทีมชาติบราซิล ออกโรงจวกว่าทำตัวไม่สมกับเป็นนักฟุตบอลอาชีพ

    ว่ากันว่าพฤติกรรมนอกสนามของเขามีผลทำให้เกิดอาการบาดเจ็บเรื้อรัง ......แต่ถึงจะโดนจวกขนาดนี้ เนย์มาร์ ก็แค่ยักไหล่ แล้วไงใครแคร์ !!!

5. มีเรื่องกับท่านเปา
    มีเรื่องกับ คาวานี่, แฟนบอล และกุนซือ แล้วงานนี้ เนย์มาร์ ขออัพเลเวลด้วยการเปิดฉากมีเรื่องกับท่านเปามันซะเลย เพื่อแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการในด้านลบของเจ้าตัวเติบโตขึ้นจนน่าหมั้นไส้ และการทำแบบนี้ผลลัพธ์ก็ส่งผลต่อต้นสังกัดของนักเตะเต็มๆ

    คงจำกันได้สำหรับเกมดราม่าฆ่า "ผีแดง" ไม่ตายที่สนามปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ เมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด บุกมาชนะ 1-3 ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยชนวนเหตุสำคัญมาจากจังหวะที่ทีมเสียจุดโทษในช่วงทดเจ็บ หลังจากที่กรรมการเช็ค "วีเออาร์"

    ในจังหวะนั้น ดีโอโก้ ดาโลต์ ตะบันไกลแต่บอลไปโดน เพรสเนล คิมเพมเบ้ ออกหลัง โดยตอนแรกกรรมการ ดาเมียร์ สโคมิน่า เป่าให้ "ปีศาจแดง" ได้ลูกเตะมุมเท่านั้น กระนั้นทีมงานวีเออาร์ แจ้งให้ท่านเปาไปดูภาพช้าที่ข้างสนามเพื่อจะได้ตรวจสอบจังหวะให้ละเอียด ซึ่งหลังจากดูภาพรีเพลย์แล้วกรรมการก็ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลูกจุดโทษ และเป็น มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด

    เหตุการณ์นั้นทำให้ เนย์มาร์ หัวเสียสุดๆ เพราะเหมือนตัวเองฝันสลายกับการได้ลุ้นแชมป์ถ้วยใบโตยุโรป  จนตบะแตกโพสต์ด่าทีมงาน วีเออาร์ อย่างหนักด้วยคำหยาบคายบน อินสตาแกรม แถมยังมีการแฉว่า ดาวเตะชาวบราซิเลียน ไม่ได้หยุดความเดือดดาลแค่นั้น เพราะพอจบเกมแล้วเขาก็วิ่งไปที่ห้องพักของกรรมการ เพื่อที่จะเข้าไปตวาดใส่ทีมเชิ้ตดำ แต่เดชะบุญที่ทีมสตาฟฟ์ แซงต์-แชร์กแมง รั้งตัวเขาเอาไว้ได้ทัน

    ผลของการกระทำแบบเด็กๆ ก็คือโดนสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ลงโทษแบนเกมฟุตบอลถ้วยยุโรป 3 นัด สบายอุราไหมล่ะ

6. ดูถูกลีกเอิง
    การที่ เนย์มาร์ เคยผ่านสงครามลูกหนังในลา ลีกา สเปน มาแล้ว ทำให้เขาได้รับรู้ถึงสงครามความเข้มข้นของแต่ละสโมสรที่ฟาดฟันกับ บาร์เซโลน่า และมาตรฐานของแต่ละทีมก็ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก ซึ่งบางสโมสรอาจทำให้ "เจ้าบุญทุ่ม" แทบรากเลือดกว่าจะได้ 3 แต้ม หรืออาจจะแพ้ไปเลยก็มี

    สิ่งเหล่านี้แทบไม่เกิดขึ้นเลยในการเล่น ลีก เอิง โดย เนย์มาร์ มองว่าบรรดาคู่แข่งของ "เปแอสเช" ช่างดูต่ำต้อยด้อยค่าซะเหลือเกิน และการปะทะแข้งกับสโมสรเหล่านี้ไม่ได้ช่วยพัฒนาศักยภาพของเขา นั่นจึงเป็นเหตุผลเจ้าตัวโหยหาความเข้มข้นในเกมลูกหนังเหมือนสมัยเล่นกับ บาร์ซ่า

    ยิ่งไปกว่านั้นหากมองจากบรรดาทีมในลีกสูงสุดเมืองน้ำหอม มีแค่ไม่กี่สโมสรเท่านั้นที่มีสิ่งอำนวยความสะดวก และสนามแข่งที่จุแฟนบอลจำนวนมหาศาล ฉะนั้นการอยู่เล่นในลีกนี้ เนย์มาร์ มองว่าตัวเองมีแต่จะถอยหลังเข้าคลอง นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่เขาย้ายทีม

7. พาลเพื่อนร่วมทีม
    คาวานี่ ไม่ใช่เหยื่อรายเดียวที่ต้องเจอกับความเกรียนของ เนย์มาร์ เพราะเจ้าตัวเป็นพวกไม่เคยมองใครดีมากไปกว่าตัวเอง ฉะนั้นเพื่อนร่วมทีมหลายคนที่ต้องเจอกับนิสัยที่สุดย่ำแย่ของ สตาร์กองหน้าทีมชาติบราซิล ชนิดที่หลายคนรู้สึกเอือมระอาสุด   
   
    เนย์มาร์ โดนเมาท์สนั่นว่ามีปัญหาโต้เถียงกับ ยูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ กองกลางทีมชาติเยอรมนี นอกจากนี้ยังมีเรื่องกินแหนงแคลงใจกับ เพรสแนล คิมเปมเบ้ กองหลังตัวเก่ง หลังวิจารณ์เขาในแมตช์ที่แพ้ดวลจุดโทษ แรนส์ เกมเฟร้นช์ คัพ รอบชิงชนะเลิศ

    ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะ อดีตสตาร์ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยังออกอาการบ่นบรรดานักเตะดาวรุ่งที่ไม่ยอมเล่นตามที่สั่ง คือพูดง่ายๆ ข้าเก่งคนเดียวทุกๆ ในทีมต้องพึ่งพาว่างั้น แต่หากมองอีกมุมพฤติกรรมแบบนี้เหมือนจงใจบอกเป็นนัยว่าไม่อยากอยู่กับทีมอีกแล้ว

8. วางแผนสไตรค์ไม่กลับปารีส
    ฟางเส้นสุดท้ายที่คาดว่า  นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสร "เปแอสเช" จะไม่ทนอีกแล้ว ก็คือกรณีที่ เนย์มาร์ วางแผนที่จะทำการสไตรค์โดยไม่กลับมาเล่นกับต้นสังกัดอีกต่อไป เพราะต้องการกดดันให้ แซงต์-แชร์กแมง ปล่อยตัวเขากลับไปเล่นกับ บาร์ซ่า

    สำหรับเรื่องนี้ ท่านประธาน คงพร้อมที่จะขาย เนย์มาร์ แน่นอน หากว่าเจ้าตัวทำตามสิ่งที่คิดเอาไว้ และหากนักเตะฝันที่จะได้ย้ายไปเล่นกับ บาร์เซโลน่า ทาง "เปแอสเช" ก็พร้อมขายให้แต่ต้องเอาเงินค่าตัวจำนวน 270 ล้านปอนด์ (ราว 11,070 ล้านบาท) มากองไว้ตรงหน้า จากนั้นก็เอาตัวปัญหาไปได้เลย

    ลองคิดดูก็แล้วกันว่า บาร์เซโลน่า จะยอมทุ่มขนาดนั้นไหมล่ะ !!??

9. ข่มขืนสาว
    เนย์มาร์ ตกเป็นข่าวฉาวนอกสนามบ่อยๆ แต่ที่แรงที่สุดก็คือเรื่องที่โดน นาจิล่า ตรินดาเด้ หญิงสาววัย 26 ปี  แฉว่าถูกเขาพาไปขืนใจ แม้ หัวหอกแซมบ้า จะออกมายืนกรานว่าไม่ได้กระทำพฤติกรรมเยี่ยงคนขี้ขลาดแบบนั้น และพร้อมฟ้องกลับฝ่ายหญิงที่ทำให้เสียหาย

    กระนั้นคู่กรณีได้มีการนำคลิปออกมาแฉโดยเป็นเหตุการณ์ขณะที่ทั้งสองฝ่ายกำลังต่อสู้กันอย่างดุเดือดบนเตียงออกมาเผยแพร่ และมีการระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่ ตรินดาเต้ โดน เนย์มาร์ จัดการข่มขืนกระทำชำเราไปเรียบร้อยแล้ว

    สำหรับเรื่องนี้ยังไม่ได้บทสรุปก็คงต้องรอให้ศาลตัดสิน แต่สิ่งที่สำคัญก็คือ เนย์มาร์ รู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นคนดัง มีชื่อเสียง เงินทองมหาศาล ย่อมตกเป็นที่หมายปองของอิสตรีมากมาย แทนที่จะระมัดระวังตัว แต่ดันปล่อยให้ตัณหาบังตา จนชีวิตวุ่นวายแบบนี้