สรุปผลศึกลูกหนัง ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบ 16 ทีมทุกคู่เมื่อวันพุธที่ 17 กรกฎาคม 62 พร้อมกำหนดวันจับสลากประกบคู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายต่อไป

    *สรุปผลศึกลูกหนัง ช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบ 16 ทีม เมื่อวันพุธที่ 17 ก.ค. 62

    บ้านค่าย ยูไนเต็ด (ที4) แพ้ ตราด เอฟซี 1-4

    นครศรี ยูไนเต็ด (ที3) แพ้ ราชบุรี มิตรผล 0-2

    บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชนะ ระยอง เอฟซี (ที2) 5-0

    นครราชสีมา มาสด้า ชนะ สุราษฎร์ธานี ซิตี้ (ที4) 4-0

    เอ็มโอเอฟ ศุลกากร (ที2) แพ้ สิงห์

    ไทยฮอนด้า (ที2) ชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ 3-2

    ทรู แบงค็อก ชนะ โปลิศ เทโร เอฟซี (ที2) 3-1

    เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด แพ้ การท่าเรือ เอฟซี 0-2

    * สรุปทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ช้าง เอฟเอคัพ2019

    1.ตราด เอฟซี
    2.ราชบุรี มิตรผล (แชมป์ร่วม 1 สมัย)
    3.บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (แชมป์ 4 สมัย)
    4.นครราชสีมา มาสด้า
    5.สิงห์ เชียงราย (แชมป์เก่า2สมัยซ้อน)
    6.ไทยฮอนด้า หนึ่งเดียวจากไทยลีก2
    7.ทรู แบงค็อก (รองแชมป์ 1 สมัย)
    8.การท่าเรือ เอฟซี (แชมป์ 1 สมัย)

    * สำหรับการจับสลากช้าง เอฟเอคัพ2019 รอบ 8 ทีมสุดท้าย จะมีขึ้นในวันศุกร์ที่ 19 ก.ค.62 ที่ห้องประชุม ชั้น 24 กกท.หัวหมาก เวลา 14.00 น. โดยจะไปแข่งขันพร้อมกันในวันพุธที่ 7 ส.ค.62

บ้านค่าย ยูไนเต็ด 1-4 ตราด เอฟซี
    ฟุตบอล เอฟเอ คัพ 2019 รอบ 16 ทีม วันพุธที่ 17 ก.ค. 62 ที่สนามหวายกรอง สเตเดี้ยม ''บ้านค่าย ยูไนเต็ด'' จ่าฝูงแห่งศึกไทยลีก 4 โซนตะวันออก เปิดบ้านทำศึกดาร์บี้แมตช์ตะวันออกรับมือ ''ตราด เอฟซี'' ทีมอันดับ 7 ในศึกไทยลีก รายชื่อผู้ตัดสิน : ผู้ตัดสิน ฑีธิชัย นวลจันทร์, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 สุริยา หลีอินทร์, ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 เชาวลิต พูนประสิทธิ์, ผู้ตัดสินที่ 4 วิเชษ เทียนทอง, ผู้ประเมินผู้ตัดสิน วิทยา แม้นพิบูลย์, ผู้ควบคุมการแข่งขัน ประกิต เย็นวอน

    ''โค้ชลิง'' วิมล จันทร์คำ กุนซือใหญ่บ้านค่าย ยูไนเต็ด ส่งทีเด็ดอย่าง ซามูเอล แนวรุกผิวสี และ ธาตรี สีหา ตัวเก๋านำทัพ ด้าน ''พยงค์ ขุนเณร'' กุนซือตราด เอฟซี ส่งแกนหลักลงทั้งหมด ทั้ง ไบฮัคกี้ ไคซาน, ลอนซาน่า ดูมบูย่า , อเดโฟลาริน ดูโรซินมี่ รวมถึง ดิยุฟ บีรัม  ครึ่งแรกทั้งสองทีมลองดูเชิงกันอยู่ ยังไม่ผลีผลามใส่กัน จะมีที่ได้ลุ้นหน่อย น.39 บ้านค่ายฯเกือบเซอร์ไพรส์ตราด ซามูเอล แนวรุกผิวสีได้ซัดเน้นๆ ในกรอบ แต่บอลยังติดเซฟ จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0

    เกมครึ่งหลัง น.56 ตราดได้ฟรีคิกระยะ 30 หลา เฉลิมศักดิ์ แก้วสุขแท้ ปราการหลังวิ่งมากดหลังเท้าเต็มๆ บอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม ตราด เอฟซี บุกนำ 1-0 น.77 ลอนซาน่า ดูมบูย่า โขกเหน่งๆ ให้ ตราด เอฟซี บุกนำ 2-0, น.82 วีระพันธ์ ทองนาค แนวรับเจ้าถิ่นสกัดบอลผิดเหลี่ยมเข้าประตูตัวเอง ตราด หนีเพิ่มเป็น 3-0 น.89 ตราด มาได้เม็ดสี่จาก ลอนซาน่า ดูมบูย่า ที่เบิ้ลเม็ดสองของตัวเอง ช่วยให้ ตราด นำ 4-0 ก่อนที่ช่วงทดเจ็บ น.90+2 ธาตรี สีหา จะมายิงตีไข่แตกให้บ้านค่ายไล่มาเป็น 1-4

    จบเกม บ้านค่าย ยูไนเต็ด แพ้ ตราด เอฟซี 1-4 ทำให้ ตราด เอฟซี ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายช้าง เอฟเอ คัพ 2019 โดยถือเป็นการเข้ามาเล่นในรอบ 8 ทีมครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรด้วย ก่อนหน้านี้ ตราด เอฟซี เข้าลึกที่สุดคือรอบ 16 ทีมถึง 2 ครั้ง ปี 2013 ตราด เอฟซี แพ้ บีจี 1-2 เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2013 และ ปี 2014 สิงห์ เชียงราย ชนะ ตราด เอฟซี 2-1 เมื่อวันที่ 9 ก.ค. 2014 

  นครศรี ยูไนเต็ด 0-2 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี

ที่สนาม อบจ.นครศรีธรรมราช เวลา 15.30 น. เป็นศึก เอฟเอ คัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ประจำวันพุธที่ 17 ก.ค. 62 ระหว่าง นครศรี ยูไนเต็ด ทีมจาก ที 3 พบกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี สโมสรจาก ไทยลีก 2019 รายชื่อผู้ตัดสิน : ผู้ตัดสิน อภิวัฒน์ ลีลาโล้, ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 คมสัตน์ คำแผ่น, ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 ยศพล ทองพรหม, ผู้ตัดสินที่ 4 วิศเวศ สังข์นคร, ผู้ประเมินผู้ตัดสิน พลกฤษณ์ นิตยชาติ, ผู้ควบคุมการแข่งขัน ศิริศักดิ์ ฉิมพลี

    เปิดฉากครึ่งแรกท่ามกลางสภาพสนามที่เต็มไปด้วยน้ำขังหลายจุด น.18  ยศศักดิ์ เชาวนะ ครอสฟรีคิกจากซ้ายไปให้ ยานนิค โบลี จับบอลลง ทว่ากลับพลิกยิงไม่ได้เพราะบอลติดน้ำ จึงโดนเคลียร์ออกมา น.21 นิราศ บุหง่า รับใบหลืองแรกของเกม หลังจากไปอัดผู้เล่นทีมเยือน น.22 ยศศักดิ์ เชาวนะ ชาร์จจ่อๆ ที่เสาแรก แต่บอลติดน้ำทำให้แฉลบออกหลัง น.25 อินรอม โต๊ะกาเพา โดน ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ เสียบหนักกลางสนาม ผู้ตัดสินไม่ว่าอะไร น.28 เอกพล ฟากหมองตู่ รับใบเหลืองหลังไปเสียบ ยศศักดิ์ เชาวนะ

    น.30 ฤทธิเกียรติ ยอดสมุทร ปัดบอลไปเข้าทาง ฟิลิป โรลเลอร์ ที่เติมขึ้นมาทางขวาซัดแบบไม่ต้องจับ ทว่า ฤทธิเกียรติ ยอดสมุทร ยังทุบบอลออกหลังได้ทัน น.32 ฟิลิป โรลเลอร์ ซัดฟรีคิกทางริมเส้นซ้ายด้วยขวา ฤทธิเกียรติ ยอดสมุทร ชกบอลออกหลัง จากนั้นไม่มีสกอร์เกิดขึ้น หมดครึ่งแรกเสมออยู่ 0-0 มาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ทีมเยือนส่ง สตีเว่น ลองจิล กับ ลอสเซมี คาราบูเอ แทน ยศศักดิ์ เชาวนะ และ นรากร นุ่มจันทร์สกุล อย่างไรเกมของ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ยังไม่ดีขึ้นจนมาถึง น.62 ต้องส่ง ยู จุนซู แทน ยานนิค โบลี

    น.77  สตีเว่น ลองจิล พาบอลจี้เข้าหา ฤทธิเกียรติ ยอดสมุทร ก่อนที่จะยิงยัดติดเซฟ บอลไปเข้าทาง ยู จุนซู ตามซ้ำยังติดบล็อกกองหลัง เคลียร์ออกมาจากกรอบอันตราย น.81 พิทักษ์ ข้อยขวา ตัวสำรองของเจ้าบ้าน ลงไปแทน อินรอม โต๊ะกาเพา น.85 ''ราชันมังกร'' มาได้จุดโทษ พงศกร กลิ่นสาวคนธ์ ไปขวางการวิ่งของ มนตรี พรหมสวัสดิ์ จนล้มลงไป และได้จุดโทษทำให้แข้งเจ้าบ้านมาประท้วงผู้ตัดสินเป็นการใหญ่ จนสตาฟฟ์ต้อง เข้ามาห้ามเอาไว้ รวมทั้ง ฤทธิเกียรติ ยอดสมุทร นายด่านของ นครศรี ยูไนเต็ด เข้ามาใช้คำหยาบคายกับเชิ้ตดำ กินเวลาไปราว 4 นาที ก่อนที่ ฟิลิป โรลเลอร์ จะมารับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี นำ 1-0

น.90+1 สตีเว่น ลองจิล ตัวสำรองทีมเยือนที่ลงมาในครึ่งหลัง ซัดให้ทีมหนี 2-0 น.90+4 นครศรี ยูไนเต็ด มาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน นิราศ บุหง่า กระโดดถีบ สตีเว่น ลองจิล ในจังหวะขึ้นโหม่ง จนเกิดการกระทบกระทั่ง ผู้ตัดสินไม่รอช้าชักใบแดงให้ทันที จบเกม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี บุกชนะ 2-0 แต่ก็มีเหตุการณ์หลังเกม เมื่อ ยู จุน ซู โดน อัมโปโฟ ซามูลาเบก้า กระแทกลงไปกองที่สนาม ก่อนที่ทั้งสองทีมจะช่วยกันระงับเหตุเอาไว้ได้

     วาทะโค้ชทั้งสองทีม

    อัครัช นวลละออง (นครศรี ยูไนเต็ด) : ''ได้ประสบการณ์อย่างเต็มที่จริงๆ ของน้องๆ ในทีม ต้องยอมรับว่า พวกเขาสู้ได้อย่างสูสีมาก ทว่าจังหวะสุดท้ายทีมเยือนทำได้ดีกว่า''

    สมชาย ไม้วิลัย (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี) : ''ครึ่งแรกค่อนข้างอึดอัด เพราะเรามีโอกาสแต่ทำไม่ได้ ด้วยสภาพสนามแล้วการได้ชัยชนะออกไปนับว่าเป็นเรื่องที่ดีไม่น้อยครับ''

    คะแนนความสามารถผู้เล่นทั้งสองทีม

     นครศรี ยูไนเต็ด : ฤทธิเกียรติ ยอดสมุทร 5, ธรรมนูญ สาลี 5, กอง แตยอน 5, เอกพล ฟากหมองตู่ 5, อัมโปโฟ ซามูลาเบก้า 5, พงศกร กลิ่นสาวคนธ์ 5, ภาณุพันธ์ จันทร์แก้ว 5, นิราศ บุหง่า 4, วรวุฒิ ทองน้ำแก้ว 5, เอกพนธ์ นามมนตรี 5, อินรอม โต๊ะกาเพา 5.5 (พิทักษ์ ข้อยขวา 5 แทน น.81)

    ราชบุรี มิตรผล เอฟซี : กิตติพงษ์ ภูแถวเชือก 6, ศิลา ศรีกำปัง 6, มนตรี พรหมสวัสดิ์ 6, นรากรณ์ นุ่มจันทร์สกุล 5 (ลอสเซมี คาราบูเอ 6 แทน น.46), กฤษณนน ศรีสุวรรณ 6, จิรวัฒน์ ทองแสงพราว 6, ปฐมชัย เสือสกุล 6, ยศศักดิ์ เชาวนะ 5.5 (สตีเว่น ลองจิล 7 แทน น.46), ฟิลิป โรลเลอร์ 6, ปวีร์ ตัณฑะเตมีย์ 6, ยานนิค โบลี 5.5 (ยู จุนซู แทน 6 น.62)
 
 แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : สตีเว่น ลองจิล (ราชบุรี มิตรผล เอฟซี)

  ไทยฮอนด้า เอฟซี 3-2 สมุทรปราการ ซิตี้
    ไทยฮอนด้า เอฟซี ทีมจากไทยลีก 2 สร้างเซอร์ไพรส์เบียดเอาชนะ  สมุทรปราการ ซิตี้ ไปแบบสุดมันส์ 3-2 สร้างประวัติศาสตร์ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ศึกฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มีนบุรี ไทยฮอนด้า เอฟซี ทีมจากไทยลีก 2 เปิดบ้านเจอกับ สมุทรปราการ ซิตี้

    เกมนี้ทางฝั่งเจ้าบ้าน ''โค้ชเก๋'' วรชัย สุรินทร์ศิริรัฐ เฮดโค้ชเจ้าบ้าน จัดทัพชุดใหญ่ นำโดย อเล็กซานดาร์ คาปิโซดา, วัลโดมิโร่ ซัวเรซ เป็นแกนหลัก ผนึกกับ ถวิล บุตรสมบัติ กองหน้าตัวความหวัง ส่วนทีมเยือน เท็ตซึยะ มูรายามะ กุนซือใหญ่ทีมเยือน เกมนี้พักผู้เล่นตัวหลักยกทีมส่งแข้งดาวรุ่งลงสนาม โดยมี พิชา อุทรา, บวร ตาปลา นพรัตน์ สกุลอ๊อด ลงเป็นแกนหลัก

    เกมครึ่งแรก นาทีที่ 7 ไทยฮอนด้า หวิดได้ประตูออกนำ จังหวะเตะมุม กองหลัง สมุทรปราการ สกัดทิ้งไม่ขาด ถวิล บุตรสมบัติ ได้ยิงแต่ยังดี นพรัตน์ สกุลอ๊อด เคลียร์ออกมาจากเส้นได้ทัน จากนั้นเป็นทางเจ้าบ้านที่เป็นฝ่ายได้ครองเกมบุกชัดเจนกว่า แต่เหลือเพียงจังหวะสุดท้ายที่ยังจบสกอร์ไม่ลง

    นาทีที่ 40 ไทยฮอนด้า ที่บุกอยู่นานมาได้ประตูออกนำ จังหวะ วัลโดมิโร่ ซัวเรซ โดนสกัดล้มในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษ และเป็น ถวิล บุตรสมบัติ สังหารเองเข้าไปไม่พลาด ส่งเจ้าบ้านนำ 1-0 ทดเจ็บ สมุทรปราการ มีโอกาสตีเสมอ คยอ โค โค ได้บอลในกรอบเขตโทษ ก่อนแต่งบอลหนึ่งจังหวะ ยิงด้วยขวา แต่ไปติดเซฟ ปริญญ์ กุญชร หวุดหวิด จบ 45 นาทีแรก ไทยฮอนด้า นำ สมุทรปราการ 1-0

     ครึ่งหลังกลายเป็น สมุทรปราการ มาตามตีเสมอในนาทีที่ 53 จังหวะบอลเปิดจากริมเส้นฝั่งขวา มาให้ คยอ โค โค ดาวเตะเมียนมา วิ่งเข้ามาชาร์จจ่อๆ เข้าไป ''เขี้ยวสมุทร'' ตีเสมอ 1-1 แต่ ไทยฮอนด้า ยังครองเกมได้ดีกว่า นาทีที่ 63 มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จังหวะบอลเปิดเข้าไปในเขตโทษ แนวรับ สมุทรปราการ สกัดพลาด วัลโดมิโร่ ซัวเรซ รับส้มหล่น ยิงจ่อๆ เข้าไป ส่ง ไทยฮอนด้า นำ 2-1

     นาที 70 สมุทรปราการ ยังฮึดสู้ มาได้ประตูตีเสมอ 2-2 จาก คยอ โค โค คนเดิม เป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ แต่ถัดมา นาทีเดียว กลายเป็น ไทยฮอนด้า มาได้ประตูนำเป็นหนที่ 3 จังหวะพลิกยิงของ วัลโดมิโร่ ซัวเรซ เป็นประตูที่ 2 ของเจ้าตัวในเกมนี้ ส่งเจ้าบ้านนำ 3-2 เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม ไทยฮอนด้า เฉือนเอาชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ ไปแบบเซอร์ไพรส์ 3-2 ทะลุเข้ารอบ 8 ทีมต่อไป

  นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 4-0 สุราษฎร์ธานี ซิตี้

ที่สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา เป็นเกมเอฟเอ คัพ 2019 รอบ 16 ทีมสุดท้าย ระหว่าง ''สวาดแคท'' นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ทีมจากไทยลีก 1 พบกับ ''ตะพัดพิฆาต'' สุราษฎร์ธานี ซิตี้ ทีมจากไทยลีก 4 โซนภาคใต้ รายชื่อผู้ตัดสิน : ผู้ตัดสิน ไพโรจน์ บุญกำเนิด, ผช.ผู้ตัดสินที่ 1 อภิชิต โนพวน, ผช.ผู้ตัดสินที่ 2 สุเมธ เปียศิริ, ผู้ตัดสินที่ 4 วิทยา เจือจันทร์, ผู้ประเมินผู้ตัดสิน วิโรจน์ อ้อนโคด, ผู้ควบคุมการแข่งขัน มนต์ชัย แสงสุขธรรมธัช

    เริ่มการแข่งขันก็เป็นไปตามคาด ทางเจ้าถิ่นเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า ค่อยๆ เซตบอลหาช่องเข้าทำประตู ขณะที่ทีมเยือนมารับแน่นรอโอกาสโต้กลับ เกมผ่านไปร่วมกว่า 25 นาที เจ้าบ้านก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของทีมเยือนที่ลงไปช่วยกันทั้งทีมได้ น.35 เจ้าบ้านได้ฟรีคิกทางกราบซ้ายก่อนลากเข้าเขตโทษ ประลองรับหน้าที่ซัดเต็มข้อ บอลพุ่งเข้าหากรอบเขตโทษ แต่ยังดีที่อิสระพงษ์ นายด่านทีมเยือนไม่เผลอ เทกตัวปัดออกไปได้ทัน

    น.43 เจ้าบ้านที่โหมบุกหนักต่อเนื่องก็น่าจะได้ประตู เมื่ออัสซัมเซาได้บอลทางกราบซ้ายลากเข้ามาในเขตโทษเกือบสุดเส้นหลัง เปิดเข้ามากลางประตูหวังจะให้เบอร์นาร์ดเข้าชาร์จ แต่อิสระพงษ์ นายด่านทีมเยือนพุ่งปัดเอาไว้ก่อน ทำให้เบอร์นาร์ดเสียจังหวะ และผู้เล่นสุราษฎร์ธานี ซิตี้ เตะเคลียร์ออกไป จากนั้นเข้าสู่ช่วงทดเจ็บครึ่งแรกนาทีเดียว เจ้าบ้านได้ฟรีคิกกลางประตูบริเวณหัวกะโหลก อัสซัมเซาปั่นบอลข้ามกำแพงไปแล้วแต่ก็ข้ามคานออกไปนิดเดียว จบครึ่งแรก นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี เสมอ สุราษฎร์ธานี ซิตี้ 0-0

    ครึ่งหลังลงมาสู้กันต่อเพียง 3 นาทีแรกเจ้าบ้านก็ออกนำ เมื่อเดชาเติมเกมสูงได้บอลริมเส้นกระชากหลุดจี้เข้าเขตโทษก่อนหักตัดเข้ากลางประตู และซัดตุงตาข่ายให้นครราชสีมาออกนำ 1-0 น.50 สวาดแคทก็หนีไปอีกเม็ด จากจังหวะที่อัสซัมเซาได้บอลกลางประตูบริเวณหัวกะโหลกก่อนไหลต่อให้อมาดูที่สอดเติมมาทางขวาในเขตโทษและซัดตุงตาข่ายให้เจ้าบ้านขยับเป็น 2-0

    สุราษฎร์ธานี ซิตี้ พยายามเปิดเกมสู้แต่จังหวะสุดท้ายยังทำได้ไม่ดีนัก น.65 เจ้าบ้านมาได้จุดโทษ เมื่อเบอร์นาร์ดโดนทำฟาวล์ในเขตโทษ และเจ้าตัวก็ลุกขึ้นมายิงเองไม่พลาดเข้าไปให้นครราชสีมาหนีไป 3-0 น.76  เจ้าบ้านก็นำไปอีก เมื่อได้ฟรีคิกระยะเกือบ 25 หลา เยื้องทางขวา อรรถพงศ์รับหน้าที่ปั่นบอลพุ่งเสียบเสาสองอย่างสวยงามให้นครราชสีมาหนีไปเป็น 4-0 หลังนำห่างเจ้าบ้านเริ่มเพลาเกมปล่อยให้ทีมเยือนเปิดเกมรุกใส่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จบการแข่งขัน นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ชนะ สุราษฎร์ธานีซิตี้  4-0

     รายชื่อนักเตะสองทีม

    นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี : แซมมวล ป. คันนิงแฮม 6, นพพล เกิดแก้ว 6, เลอันโดร อัสซัมเซา 6 (ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร 6), เบอร์นาร์ด เฮนรี่ 6, วีรวัฒน์ จิรภักสิริ 6, เดชา สร้างดี 6, ย่าหยา คูนาท 6 (อรรถพงศ์ หนูพรหม 6), นนทวัฒน์ กลิ่นจำปาศรี 6 (นฤพล อารมณ์สวะ 6), ประลอง สาวันดี 6,ณัฐพงษ์ สายริยา 6, อมาดู อูยัตตาร่า 7

    สุราษฎร์ธานี ซิตี้ :  อิสระพงษ์ โสพิกุล 5, สราวุธ ชิตไชย 5, ฐาปนา หอมกอ 5, ชูยะ อคามัทซู 5, อธิษฐาน คงทรัพย์ 5 (ธนาวุฒิ จันทรัตน์ 5), สุทธิพงษ์ ใยฝ้าย 5, เปโดร ออกุสโต้ 5, ภาน