ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » ลาลีกา สเปน » 5 เหตุผลที่ เรอัล มาดริด หมดรัก แกเร็ธ เบล

5 เหตุผลที่ เรอัล มาดริด หมดรัก แกเร็ธ เบล

Posted 22/07/2019 by siamsport

ต้องบอกว่าถือเป็นวิบากกรรมสำหรับ แกเร็ธ เบล อย่างชัดเจนที่โดน ซีเนดีน ซีดาน เทรนเนอร์เรอัล มาดริด ประกาศตัดหางปล่อยวัดแบบไม่เกรงใจ หลังจบแมตช์อุ่นเกือกที่แพ้ บาเยิร์น มิวนิค 1-3 แถมยังพูดแบบบัวช้ำน้ำขุ่นว่าหากย้ายทีมได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดีกับทั้งสโมสรและตัวนักเตะ

    หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าทำไม "ซิซู" ถึงตั้งแง่รังเกียจ เบล ตั้งแต่หวนกลับมากุมบังเหียนรอบสอง ทั้งๆ ที่นักเตะเป็นหนึ่งในขุมกำลังสำคัญที่ช่วยให้ "ราชันชุดขาว" ประสบความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะการยิง 2 ประตูสุดสวยที่ทุบ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2017-18

 

 

    แน่นอนว่าเมื่อคนไม่รักแล้วทำอะไรก็ผิดไปหมด แต่มันก็ต้องมีเหตุผลที่ทำให้คนรู้สึกตั้งแง่รังเกียจกัน แล้วอะไรคือสิ่งที่ ซีดาน กับแฟนบอลเรอัล มาดริด ไม่ปลื้ม เบล จนทำให้รู้สึกว่านักเตะคนนี้ไม่คู่ควรที่จะอยู่เป็นสมาชิกในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว อีกต่อไป

 

1. โฟกัสเล่นกอล์ฟเกินไป 
    ติโบต์ กูร์กตัวส์ ผู้รักษาประตูชาวเบลเยียม เผยว่า แกเร็ธ เบล มักจะโดนเพื่อนร่วมทีมเรียกว่า "เดอะ กอล์ฟเฟอร์" (The Golfer) เพราะว่า ดาวเตะเลือดเวลส์ มักจะรีบเผ่นแหนบไปทันทีหลังจากที่ฝึกซ้อมร่วมกับทัพ "ราชันชุดขาว" เพื่อไปเล่นกอล์ฟ

    เบล เคยโดนวิพากษ์วิจารณ์เมื่อต้นปีนี้ว่าเอาแต่ดูการแข่งขันทัวร์นาเมนต์กอล์ฟผ่านโทรศัพท์มือถือในขณะที่ทีมอยู่บนรถบัสเพื่อไปแข่งในแมตช์พบ เลบานเต้ ขณะเดียวกับ ปีกจอมลีลา มักจะกลับไปที่บ้านพักที่ประเทศเวลส์ เมื่อได้พักผ่อนมากกว่าจะอยู่ในประเทศสเปน

 


 

    สำหรับที่บ้านเกิดเมืองนอน เบล สามารถเล่นกอล์ฟที่สวนหลังบ้านซึ่งออกแบบเป็นพิเศษเพื่อให้เขาได้สนุกกับกีฬาชนิดนี้ โดย กูร์กตัวส์ ยังแฉอีกว่า เบล มักจะไม่สนใจกินอาหารร่วมกับเพื่อนร่วมทีม เพราะต้องการที่จะกลับไปนอนตั้งแต่หัวค่ำ

    ยังไม่หมดแค่นั้นเพราะ มาร์เซโล่ ฟูลแบ็กชาวบราซิเลียน ยังตั้งข้อสงสัยว่าทำไม เบล ถึงไม่พยายามที่จะฝึกภาษาสแปนิชให้คล่อง "เบลไม่ยอมพูดภาษาสแปนิชเลย เพราะเขาพูดแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น และเรามักจะคุยกันด้วยภาษากายมากกว่า"
 


2. เจ็บบ่อย 
    ช่วงเวลาที่ เบล มักจะอยู่สเปนเพราะเจ้าตัวมีปัญหาบาดเจ็บ โดยเขาแวะเวียนไปโรงหมอมากกว่า 20 ครั้งในช่วงระหว่าง 6 ปีที่อยู่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว โดย Transfermarkt.com เว็บไซต์ชื่อดัง ระบุว่า ดาวเตะทีมชาติเวลส์ ไม่ได้ลงสนามถึง 72 เกมหรือมากกว่านั้นต่อซีซั่นเพื่อฟื้นฟูร่างกาย

 


 

    อาการบาดเจ็บส่วนใหญ่มักจะเป็นอาการเจ็บกล้ามเนื้อน่องตึง, เอ็นหลังหัวเข่า หรือ กล้ามเนื้อต้นขา โดย เบล จำเป็นต้องเลิกขับรถสปอร์ตสุดหรูเพื่อป้องกันไม่ให้เอ็นหลังหัวเข่ามีปัญหาซ้ำซ้อน โดยเมื่อปี 2015 นักเตะตัดสินใจปฏิเสธขับ ลัมบอร์กินี่ และ เฟอร์รารี่ เพราะรถสไตล์ดังกล่าวจะทำให้เอ็นหลังหัวเข่าตึงมากเกินไป

 


 

    ที่น่าเศร้าเข้าไปอีกก็คือการที่ต้องยกเลิกสัญญากับรถซูเปอร์คาร์จากค่าย Auto Vivendi ซึ่งให้เขาต้องขับรถใหม่ทุกๆ  2 เดือน และนั่นส่งผลให้ต้องพลาดรายได้ถึง 30,000 ปอนด์ (ราว 1.17 ล้านบาท) ต่อปี แน่นอนว่าอาการบาดเจ็บทำให้เขาได้ลงเล่นเพียง 79 เกมในลา ลีกา ตลอดช่วง 4 ซีซั่นที่ผ่านมา และลงสนาม 42 แมตช์ให้กับ "โลส บลังโกส" เมื่อฤดูกาลแล้วโดยครึ่งหลังเป็นการเล่นในฐานะตัวสำรอง

 

3. ซิซู ไม่ปลื้มเขา 
    ซีดาน หวนกลับมากุมบังเหียน เรอัล มาดริด อีกคำรบเมื่อเดือนมีนาคม และนั่นคือจุดเริ่มต้นแห่งหายนะสำหรับ เบล

    จะว่าไปแล้วอนาคตของ เบล ก็ไม่ค่อยแน่นอนในสมัยที่ "ซิซู" กุมบังเหียนตอนแรก โดย เทรนเนอร์ชาวฝรั่งเศส อ้างว่านักเตะทีมชาติเวลส์ มักจะชอบโชว์ความสามารถเฉพาะตัวมากเกินไป และมีโลกส่วนตัวสูง รวมทั้งสไตล์การเล่นของเบล ไม่เหมาะกับแท็กติคของเขา

 

 

    ซีดาน บอกกับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานบริหารว่าต้องการขาย อดีตสตาร์ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ในเดือนพฤษภาคม 2018 และเอาเงินไปซื้อ เอแด็น อาซาร์ มาร่วมทีมแทน (ตอนนี้ก็ย้ายมาเล่นสมใจแล้ว) อย่างไรก็ตาม ประตูสุดสวยที่ เบล ทำได้ในเกมนัดชิง แชมเปี้ยนส์ ลีก ทำให้ เปเรซ เปลี่ยนใจ และสุดท้ายก็เป็น "ซิซู" ที่โบกมือลาทีมไป

    อย่างไรก็ตามเมื่อ ซีดาน กลับมากุมบังเหียนไม่กี่เดือนหลังจากนั้น สถานการณ์ของ เบล ก็ย่ำแย่โดย โจนาธาน บาร์เน็ตต์ ตัวแทนของนักเตะระบุว่าลูกค้าของเขาอยู่ในช่วงเวลาที่ย่ำแย่เพราะทั้ง เบล กับ ซีดาน มีแนวคิดในการเล่นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

 

4. แฟนบอลไม่รักอีกแล้ว 
    สาวก "ราชันชุดขาว" ไม่ปลื้ม แกเร็ธ เบล อีกต่อไปแล้ว โดยสิ่งนี้พิสูจน์ได้จากการที่เขาโดนโห่ขณะอยู่ในรถบัสตอนอยู่ที่ในประเทศแคนาดาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนก็โดนตราหน้าว่าเป็นคนเนรคุณขณะที่ฝึกซ้อมปรีซีซั่นเพราะไม่ยอมย้ายทีมเพื่อให้สโมสรมีเงินเพื่อใช้ซื้อนักเตะใหม่

 


 

    ย้อนกลับไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เบล ก็โดนโห่หลังจากลงเล่นเพียงแค่ 3 นาทีในเกมที่ชนะ เอบิบาร์ 2-1 แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้  บาร์เน็ตต์ ไม่พอใจอย่างแรง ถึงขนาดจวกบรรดาสาวก "ราชันขาว" ปฏิบัติกับลูกค้าของเขาอย่างไม่เหมาะสม ทั้งๆ ที่นักเตะสร้างผลงานชั้นยอดให้กับทีมมากมาย

    จริงๆ แล้ว เบล โดนโห่ตั้งแต่ 5 เดือนแรกที่ย้ายมาอยู่กับสโมสร แต่ในเวลานั้นเจ้าตัวผลิตผลงานด้วยการซัดไป 8 ประตูกับ 7 แอสซิสต์ ต่อมา เบล ก็โดนโห่อกครั้งในเดือนมีนาคม 2019 ระหว่างเกมที่ เรอัล มาดริด แพ้ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า 0-1 ที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว

 

5. อาซาร์ ทั้งหนุ่มและเก่งกว่า
    ซีดาน คว้าตัว อาซาร์ มาร่วมทัพด้วยค่าตัว 150 ล้านปอนด์ (ราว 5,850 ล้านบาท) ในช่วงซัมเมอร์นี้ โดย เพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเบลเยียม ถือเป็นคู่แข่งโดยตรงของ เบล ในตำแหน่งปีกซ้าย แม้ว่า ดาวเตะสัญชาติเวลส์ สามารถขยับไปเล่นทางปีกขวาได้ก็ตาม

 


 

    แม้ว่า เบล จะเล่นในตำแหน่งอื่นๆ ได้ แต่ดูเหมือนว่า ซีดาน และแฟนบอล มีแนวคิดเดียวกันก็คือต้องการให้นักเตะย้ายทีม เพราะมองแล้วว่าการที่ เรอัล มาดริด ได้ อาซาร์ ซึ่งเปิดตัวพร้อมกับมีแฟนบอลมาให้กำลังใจกว่า 50,000 คนที่สนามซานติอาโก้ เบร์นาเบว มาร่วมทีม ทำให้ไม่จำเป็นต้องมี เบล อีกต่อไป

 

 

    แน่นอนว่า อาซาร์ ยังหนุ่มและอายุน้อยกว่า เบล 2 ปี แถมสภาพร่างกายก็แข็งแกร่งกว่าหลายเท่า รวมทั้งยังมีความสามารถเฉพาะตัวที่โดดเด่นกว่า ดาวเตะเลือดเวลส์ อีกต่างหาก นั่นทำให้ ซีดาน มองแล้วว่าพวกเขามีนักเตะที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสร้าง "กาลาคติกอส" ยุคใหม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »