พบเงื่อนงำใหม่จากเหตุการณ์เครื่องบินของ เอมิเลียโน่ ซาล่า ตกเมื่อเดือนมกราคม หลังเจอปริมาณก๊าซพิษชนิดหนึ่งในร่างกายจำนวนมากที่อาจนำไปสู่การเสียชีวิตตั้งแต่ก่อนเครื่องตก
 
     เจ้าหน้าที่สอบสวนอุบัติเหตุทางอากาศของประเทศอังกฤษ เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ 14 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า เอมิเลียโน่ ซาล่า อดีตกองหน้าชาวอาร์เจนไตน์ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตก ถูกตรวจพบว่า มีก๊าซพิษคาร์บอนมอนอกไซด์ (CO) จำนวนมากอยู่ในร่างกาย
 
    เครื่องบินขนาดเล็กของ ซาลา ตกบริเวณช่องแคบอังกฤษ เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ทำให้ทั้งแข้งอาร์เจนไตน์และ เดวิด อิบบอตสัน  นักบินเสียชีวิต หลังจากที่เพิ่งตกลงย้ายจาก น็องต์ มาอยู่กับ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ ด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ (ประมาณ 570 ล้านบาท) 
 

    เจ้าหน้าที่เผยว่า ซาลา มีปริมาณคาร์บอนมอนอกไซด์ ในเลือดมากถึง 58 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันว่า ทั้งคู่เสียชีวิตตั้งแต่สูดก็าซพิษบนเครื่อง หรือเสียชีวิตหลังบาดเจ็บจากการที่เครื่องตกสู่ท้องทะเล
 
    สำหรับคาร์บอนมอนอกไซด์ หากมีอยู่ในร่างกายมนุษย์ 20-30 เปอร์เซ็นต์จะทำให้เกิดอาการง่วงนอน และปวดศีรษะ แต่หากมีมากเกินกว่า 50 เปอร์เซ็นต์จะทำให้เกิดอันตรายถึงขั้นชัก, หมดสติ และหัวใจล้มเหลวได้เลยทีเดียว
 
    ก่อนหน้านี้ ได้มีการจับกุมตัวจับชายวัย 64 ปีรายหนึ่งจากนอร์ธ ยอร์คเชียร์ ซึ่งต้องสงสัยว่าฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา หลังเป็นคนจัดเครื่องบิน ไปเปอร์ พีเอ-46 มาลิบู ให้ ซาลา ใช้เดินทาง รวมถึงเป็นคนจัดแจงให้ อิบบอตสัน เป็นคนขับเครื่องบินด้วย ทั้งที่จริงๆ แล้วตอนแรกเขาจะต้องเป็นคนขับเครื่องบินเอง จนนำไปสู่การเกิดเรื่องน่าเศร้าในครั้งนี้