แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่พลาดบุกเอาชนะ บอร์นมัธ 3-1 โดยได้สองประตูจาก เซร์คิโอ อเกวโร่ และอีกหนึ่งลูกจาก ราฮีม สเตอร์ลิง ทำให้เป็นลูกที่ 5 จาก 3 เกมของเจ้าตัวในลีกซีซํ่นนี้ โดย "เรือใบสีฟ้า" จะแซง อาร์เซน่อล ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง พร้อมทำแต้มจี้ ลิเวอร์พูล 2 คะแนน ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2562

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
บอร์นมัธ 1-3 แมนฯ ซิตี้
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม 2562

 สนาม : ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม

    "แชมป์เก่า" แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนทีมคนเดียว ดาบิด ซิลบา สวมปลอกกัปตันทีมฉลองนัดที่ 400 ให้สโมสร โดย โรดรี้ รุ่นน้องชาวสเปนนั่งสำรอง

    ส่วนบอร์นมัธ เจ้าถิ่นปรับทีมชุดชนะวิลล่า มาเน้นแนวรับ ให้ คริส เมแพม ลงเสริมหลัง ทำให้ แฮร์รี่ วิลสัน ปีกที่ยืมจากลิเวอร์พูลหลุดจาก 11 คนแรก

    เริ่มเกมมานาทีแรกเป็น บอร์นมัธ ที่ได้ทักทายก่อน โจชัว คิง กระชากแหวกแนวรับ แมนฯ ซิตี้ มาส่องด้วยขวาบริเวณหัวกระโหลก แต่บอลยังไปตรงตัว เอแดร์ซอน รับไว้ได้

    หลังจากนั้น แมนฯ ซิตี้ เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้เดินหน้าบุกใส่ และเกือบได้ประตูขึ้นนำ ใน น.7 จากจังหวะที่ ราฮีม สเตอร์ลิง กระชากหลุดไปถึงสุดเส้นหลังและจ่ายย้อนกลับมาให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ได้ซัดด้วยซ้ายบอลไปแฉลบ นาธาน อาเก้ ออกหลังไปนิดเดียว

 จน น.15 เรือใบสีฟ้า ได้ประตูปลดล็อคขึ้นนำ 1-0 โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ เติมขึ้นมาจ่ายเรียดเข้าเขตโทษให้ เควิน เดอ บรอยน์ ยิงแป้กจังหวะแรกแต่ยังโชคดีบอลไปเข้าทาง เซร์คิโอ อเกวโร่ ที่ยืนซัดโล่งๆหน้าประตูไม่เหลือ

    บอร์นมัธ มีโอกาสตอบโต้ขึ้นมาบ้างและพลาดโอกาสตีเสมอแบบเหลือเชื่อ ใน น.39 เมื่อแนวรับ แมนซิตี้ พลาด อดัม สมิธ ตามเก็บส้มหล่นซัดจ่อๆหน้าประตูแต่ เอแดร์สัน โชว์ซูเปอร์เซฟปัดปลายมืออกหลังไป

    ท้ายครึ่งแรก น.43 แบร์นาร์โด้ ซิลวา จ่ายทะลุช่องให้ สเตอร์ลิง สอดมาจิ้มด้วยขวาจ่อๆไม่พลาดให้ แมนซิตี้ นำห่างเป็น 2-0 พร้อมเป็นประตูที่ 5 จาก 3 เกมในลีกซีซั่นนี้

   อย่างไรก็ตามช่วงทดเวลาบาดเจ็บ 45+3 บอร์นมัธ ได้ประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 แฮร์รี่ วิลสัน ตัวสำรอง ซัดฟรีคิกด้วยซ้ายบอลเสียมสามเหลี่ยมเข้าไปอย่างสวยงาม ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้  

    ครึ่งหลังเกมดำเนินมาถึง น.52 บอร์นมัธ หวิดได้ประตูตีเสมอ คัลลัม วิลสัน หลุดเดี่ยวไปซัดติดเซฟ เอแดร์ซอน

    หลังจากนั้นเป็นโอกาสลุ้นของ "เรือใบสีฟ้า" ในนาทีถัดมาจากจังหวะสวนกลับเร็ว อเกวโร่ ไหลให้ เดอ บรอยน์ บรรจงปั่นด้วยขวาบอลเฉียดเสาออกไปนิดเดียว

  น. 60 แมนฯ ซิตี้ เกือบได้จุดโทษเมื่อ เลร์มา ไปสกัด ซิลบา ในเขตโทษ ผู้ตัดสิน อันเดร มาร์ริเนอร์ รอเช็กวีเออาร์ แต่ผลออกมาไม่เป็นจังหวะฟาวล์ของแข้งบอร์นมัธ

    ทั้งคู่แลกกันหมัดต่อหมัดจน น.64 ทีมเยือนได้ประตูนำห่าง 3-1 ดาบิด ซิลบา แหวกเข้าเขตโทษบอลมาเข้าทาง อเกวโร่ ได้ซัดเหน่งๆ ตุงตาข่ายพร้อมเป็นประตูที่สองของเจ้าตัว  

    เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม แมนฯ ซิตี้ บุกชนะ บอร์นมัธ 3-1 แซง อาร์เซน่อล ขึ้นไปรั้งรองจ่าฝูง พร้อมมีแต้มตามหลัง ลิเวอร์พูล 2 คะแนน
   

รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

บอร์นมัธ : แอรอน แรมส์เดล, อดัม สมิธ (จอร์แดน ไอบ์ น.68), คริส เมแพม, สตีฟ คุ้ก, นาธาน อาเก้, ชาร์ลี แดเนียลส์ (แฮร์รี่ วิลสัน น.37), โจชัว คิง, เจฟเฟร์สัน เลร์มา, ฟิลิป บิลลิ่ง, ไรอัน เฟรเซอร์, คัลลั่ม วิลสัน (โดมินิก โซลันกี้ น.69)

แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน, ไคล์ วอล์คเกอร์ (ชูเอา กานเซโล่ น.90+1), นิโกลัส โอตาเมนดี้, เอ็มเมอริก ลาป๊อร์กต์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, เควิน เดอ บรอยน์, อิลคาย กุนโดกัน (โรดรี้ น.58), ดาบิด ซิลบา (ริยาด มาห์เรซ น.79), แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เซร์คิโอ อเกวโร่, ราฮีม สเตอร์ลิง

ผู้ตัดสิน : อันเดร มาร์ริเนอร์