ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » นอกสนาม » เศร้าปนซึ้ง!เปิดปมชีวิต 'อเวยโร่' พ่อบังเกิดเกล้า 'โรนัลโด้'

เศร้าปนซึ้ง!เปิดปมชีวิต 'อเวยโร่' พ่อบังเกิดเกล้า 'โรนัลโด้'

Posted 21/09/2019 by siamsport

หลายคนได้เห็นภาพที่แสนสะเทือนใจตอนที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หลั่งน้ำตาในขณะให้สัมภาษณ์กับ เพียร์ส มอร์แกน นักข่าวชื่อดังชาวอังกฤษ เมื่อพูดถึง โชเซ่ ดินิส อเวยโร่ บิดาบังเกิดเกล้าที่ชีวิตจากไปก่อนที่จะเห็นความสำเร็จที่แสนยิ่งใหญ่ของเขาในปัจจุบัน
    สตาร์ดัง "ม้าลาย" ยูเวนตุส วัย 34 ปี มีอาชีพพ่อค้าแข้งที่ยิ่งใหญ่มากๆ และทำให้แฟนบอล กับนักวิจารณ์ลูกหนังจำนวนมากต่างยกย่องให้เขาคือนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล (บางรายบอก ลิโอเนล เมสซี่ เก่งกว่า) แน่นอนว่าความสำเร็จของเขาเริ่มก่อร่างสร้างตัวตอนย้ายจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน มาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2003

 

    ในช่วงเวลานั้น "ซีอาร์ 7" พัฒนาฝีเท้าจากนักเตะดาวรุ่งกลายเป็นสุดยอดพ่อค้าแข้งกับ "ปีศาจแดง" ก่อนที่จะยิ่งใหญ่สมกับชื่อ "ซูเปอร์สตาร์" เมื่อย้ายไปเล่นให้กับ "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด เมื่อปี 2009 โดยตลอด 9 ปีที่อยู่ในถิ่นซานติอาโก้ เบร์นาเบว เขาได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก

    อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จทั้งหมดที่ได้รับนั้น มีเงาแห่งความเจ็บปวดอยู่ในชีวิตของ โรนัลโด้ เมื่อเขาต้องพบกับปัญหาชีวิตครอบครัวจากการที่บิดาบังเกิดเกล้าเป็นโรคพิษสุราเรื้อรังซึ่งทำให้พลาดเห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนมีชีวิตนักเตะที่เจริญรุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลเฉกเช่นในปัจจุบัน

 

    โชเซ่ ดินิส อเวยโร่ เสียชีวิตในปี 2005 เนื่องจากตับวายเฉียบพลันซึ่งตอนนั้น โรนัลโด้ อายุเพียง 20 ปีและค้าแข้งในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แค่ 2 ปีเท่านั้น โดย อดีตสตาร์เรอัล มาดริด และ แมนฯ ยูไนเต็ด ยอมรับว่าตนเองไม่ค่อยได้รู้จักชีวิตของพ่อมากนัก รู้แค่เป็นนักดื่ม และไม่ได้พูดคุยแบบพ่อลูกเหมือนคนปกติ

    ในการให้สัมภาษณ์ โรนัลโด้ เสียน้ำตาจากการได้เห็นคลิปที่บิดาพูดถึงเขาก่อนที่ศึก ยูโร 2004 ที่ประเทศโปรตุเกสเป็นเจ้าภาพจะเริ่มขึ้นว่าภาคภูมิใจในความสำเร็จของ โรนัลโด้ มากๆ จากการที่ตอนนั้น โรนัลโด้ ถูกมองว่าเป็นนักเตะความหวังใหม่ของชาติ โดยคลิปนี้ "เจ็ทโด้" ได้เห็นเป็นครั้งแรกในการให้สัมภาษณ์ซะด้วย

    แล้ว โชเซ่ ดินิส อเวยโร่ ทำไมถึงมีชีวิตที่ย่ำแย่ ? ชีวิตของเขาต้องพบกับอะไรบ้างถึงต้องพึ่งเหล้า ? และมีปมมากแค่ไหนในช่วงชีวิตที่แสนยากลำบากก่อนจะเห็นลูกรักประสบความสำเร็จ....

 

ชีวิตทหาร
    โชเซ่ ดินิส อเวยโร่ เคยรับราชการทหาร และต้องออกรบที่แองโกล่า ดินแดนอาณานิคมของ โปรตุเกส ซึ่งต้องการเอกราชจากดินแดนฝอยทอง โดยการพ่ายแพ้สงครามในครั้งนั้น เขาและเพื่อนทหารมีบาดแผลที่สุดแสนเจ็บปวดหลงเหลือในจิตใจมาตลอด

     การที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในสภาพแวดล้อมที่หวาดวิตกอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันเหล่าทหารทั้งหลายยังต้องอยู่กับความหิวโหยเมื่อเสบียงที่มาถึงพวกเขาเน่าเสียหมด และที่ยิ่งเลวร้ายไปกว่านั้นก็คือการที่ต้องอยู่รายล้อมกับบรรดาคนเจ็บป่วยภายในแค้มป์ทหาร ซึ่งหลายคนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียงจากการติดเชื้อมาลาเรีย, ไข้จับสั่น, ไข้หวัด ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถเดินทางไปไหนได้หลายสัปดาห์

    ส่วนใหญ่แล้วทหารเหล่านี้ต้องยังชีพด้วยการดื่มเบียร์ยี่ห้อคูคา ของชาวแองโกล่า เหตุผลเพราะน้ำจากแม่น้ำท้องถิ่นไม่เหมาะกับการนำมาดื่ม และด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวจึงทำให้พวกเขาต้องดื่มเบียร์เพื่อลดความกระหาย  โดย อเวยโร่ ต้องใช้ชีวิตแบบนั้นมาตลอด ซึ่งเมื่อเขาได้กลับบ้านเกิดก็เลยกลายเป็นคนที่ย่ำแย่ และนั่นคือผลจากการไปรับใช้ชาติ

 

ชีวิตใหม่
    หลังจาก 13 เดือนในแอฟริกาซึ่งเป็นที่ที่เขาต้องต่อสู้กับชาวโมซัมบิก พ่อของ โรนัลโด้ ได้กลับมายังประเทศโปรตุเกส ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง !!!

    เหตุผลเพราะประเทศต้องใช้เงินจำนวนมากในการทำศึกสงคราม และส่งผลให้เศรษฐกิจในประเทศฝืดเคือง เมื่อ อเวยโร่ กลับบ้านเกิดเขาไม่มีงานทำในหมู่เกาะมาเดยร่า และไม่มีเงินเลย แต่เพื่อนๆ ซึ่งบางคนเป็นเจ้าของบาร์ซื้อเหล้าให้เขาดื่ม เพราะนับถือในฐานะทหารผ่านศึก

     โชเซ่ มานูเอล โคลโญ่ เพื่อนสนิทและเพื่อนร่วมสงครามของ อเวยโร่ เผยกับ "อีเอสพีเอ็น" สื่อดังระดับโลกว่า "เราถูกทิ้งขว้าง ทหารผ่านศึกไม่ได้เงินและไม่มีงานทำ แน่นอนว่าเมื่อผมได้พบกับ โรนัลโด้ ผมจำพ่อของเขาได้ทันที เขามีปัญหาเยอะมาก และไม่มีอะไรกิน ดังนั้นเขาก็เลยหันกลับไปดื่มอีกครั้ง เพื่อนๆ ของเขาซื้อเหล้าให้เขาดื่ม เขาไม่มีเงิน เขาไม่มีกินด้วยซ้ำ"
 

 

พนักงานดูแลเสื้อผ้า
    อเวยโร่ กลายเป็นชาวสวน และจากนั้นเขาก็เริ่มมีรายได้จากการทำงานเป็นพนักงานดูแลเสื้อผ้าให้กับ อังตูริญญ่า สโมสรฟุตบอลเล็กๆ ในฟุงชาล ย่านชานเมืองซานโต อันโตนิโอ เขาทำงานหนักมากเพื่อดูแลความเรียบร้อยภายในห้องแต่งตัว และต้องทำให้แน่ใจว่าเสื้อผ้าของนักฟุตบอลซักสะอาดหมดจด

    ต้องยอมรับว่าเหตุผลที่ อเวยโร่ ได้งานนี้เพราะ โรนัลโด้ ลูกชายเล่นให้กับสโมสรนี้ แต่ทายาทอันเป็นที่รักต้องเจ็บปวดมาตลอดเนื่องจากเขาโดนบรรดาเพื่อนร่วมทีมพูดจาเย้ยหยันเสียดสี เพราะบิดาบังเกิดเกล้าของเขาทำงานได้ห่วยแตกสุดๆ 

    อย่างไรก็ตาม สิ่งนั้นได้ทำให้ โรนัลโด้ ยิ่งหิวกระหายความสำเร็จมากขึ้นเป็นทวีคูณ และเจ้าตัวก็มีความมุ่งมั่นที่จะแสดงให้ผู้คนที่เย้ยหยันเขาได้เห็นว่าคำพูดทิ่มแทงเหล่านี้ไม่สามารถทำลายความฝันของเขาได้

    ขณะเดียวกัน อเวยโร่ ก็ยังคงแวะไปดื่มที่บาร์เล็กๆ ในสโมสรเป็นประจำเป็น และใช้เวลาหลายชั่วโมงร่ำเมรัยก่อนจะกลับบ้าน
 

 

พิษสุราเรื้อรัง
    หลังจากหลายปีที่บรรเลงเมรัยอย่างเมามัน และทำเรื่องไม่ดีมากมายกับครอบครัว อเวยโร่ ต้องรับผลแห่งการกระทำเมื่อเจ้าตัวกลายเป็นโรคแอลกอฮอล์ลิซึ่ม โดยในเดือนกันยายนปี 2005 เขาจากโลกนี้ไปแบบไม่มีวันกลับ จากการที่ตับวายเฉียบพลันในวัยเพียงแค่ 51 ปีที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

    โรนัลโด้ พยายามทำทุกอย่างเพื่อที่จะยื้อชีวิตพ่อบังเกิดเกล้าเอาไว้ แต่ต่อให้ใช้เงินมากมายมหาศาลในโลกใบนี้ก็ไม่สามารถทำให้ อเวยโร่ หนีจากความตายไปได้ โดยในช่วงเวลาแห่งความเศร้า "ซีอาร์ 7" อยู่เคียงข้างพ่อของเขาจนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของบิดาหมดลง โดยในเวลานั้นเขาได้ลั่นวาจาว่าจะเป็นนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในโลกให้ได้

     กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ไม่เคยผิดคำสัญญาที่ได้ให้ไว้กับคุณพ่อในวันสุดท้ายของชีวิต และเขาประสบความสำเร็จมากมายร่วมกับสโมสรที่ค้าแข้ง พร้อมกับผงาดคว้ารางวัลบัลลงดอร์ 5 สมัย แต่ที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ อเวยโร่ ไม่เคยได้เห็นความสำเร็จที่แสนยิ่งใหญ่ของลูกชายสุดที่รักเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »