หลายคนอาจจะเคยได้ยินกิตติศักดิ์อาถรรพ์ของ อารอน แรมซี่ย์ และ เดร็ค (นักร้องแร็พ) กันเป็นอย่างดี แต่ขอบอกเลยว่ายังไม่เคยมีใครรู้ว่า ดิว็อค โอริกี้ กองหน้าทีมชาติเบลเยียม ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่เป็นเหมือนยมทูตเมื่อเขาส่งบอลไปซุกก้นตาข่ายทีมไหนก็ตาม
    ดาวยิง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ไม่บ่อยนักที่จะตะบันประตูให้กับต้นสังกัด แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เขาทำได้อาจจะทำให้บางทีมต้องมนต์คำสาปแบบถอนตัวไม่ขึ้น อย่างในกรณีของ บาร์เซโลน่า กับ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่เจอทีเด็ดของ โอริกี้ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา ทุกวันนี้ก็ยังมีอาการมึนๆ ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้ซะที

    ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน คู่อริร่วมเมือง ก็โดนสถานการณ์นี้เช่นกัน จนถึงขั้นอนาคตผู้จัดการทีมของพวกเขากำลังยืนอยู่บนเส้นด้าย เพราะฟอร์มการเล่นและอันดับในตารางลีกน่าผิดหวัง เมื่อเทียบกับเม็ดเงินที่อุตสาห์ทุ่มทุนสร้างทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ส่วน ซันเดอร์แลนด์ ต้องบอกว่าโดน "ของ" อย่างหนักเพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถกลับคืนสู่ลีกสูงสุดได้เลย

บาร์เซโลน่า

    แมตช์แห่งความทรงจำกับประตูสุดพิเศษ !! โอริกี้ ตะบันสองประตูในแมตช์รับการมาเยือนของ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ที่สนามแอนฟิลด์ เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัด 2 รอบรองชนะเลิศ และน่าบอกได้เลยว่านี่คงเป็นฟอร์มการเล่นที่ดีที่สุดของเขาในสีเสื้อแดงเพลิงของ ลิเวอร์พูล

    ย้อนกลับไปก่อนแมตช์ดังกล่าว "เดอะ เร้ดส์" ออกไปโดน บาร์ซ่า สอนบอลเบาๆ 0-3 ที่สนามคัมป์ นู แน่นอนว่าในเวลานั้นคอลูกหนังทั่วโลกโดยเฉพาะสาวก "เดอะ ค็อป" ต่างรับสภาพว่าคงไม่มีทางที่พวกเขาจะทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 2 สมัยติดต่อกัน

    อย่างไรก็ตามในเมื่อสวรรค์กำหนดแล้วอะไรก็ฉุดไม่อยู่ โอริกี้ สวมบทฮีโร่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล ชนะ บาร์ซ่า 4-0 สกอร์รวม 2 นัดชนะ 4-3 แต่ที่น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือนับตั้งแต่ความพ่ายแพ้ที่แอนฟิลด์ "เจ้าบุญทุ่ม" ยังไม่ฟื้นคืนชีพกลับเป็นยอดทีมเหมือนแต่ก่อนอีกเลย

    โอเค พวกเขาจบฤดูกาลในฐานะแชมป์ลา ลีกา แต่สำหรับฤดูกาลปัจจุบัน บาร์ซ่า ยังย่ำแย่เกินห้าม ตอนนี้ทีมแพ้ไปแล้ว 2 เกมจากการเล่น 6 แมตช์แรกในลีกสูงสุดแดนกระทิงดุ ซึ่งที่เด็ดสุดๆ ก็คือการแพ้ กรานาด้า ทีมน้องใหม่ร้ายบริสุทธิ์ซะด้วย

     ขณะที่ในแชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขายังโชคดีที่แบ่งแต้มในเกมปะทะ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ หลังเสมอแบบไร้สกอร์ แต่กระนั้นโชคร้ายก็ยังมีอยู่เพราะ ลิโอเนล เมสซี่ เดี้ยงอีกรอบ....ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับฝีเกือก โอริกี้ ด้วยหรือเปล่า

 ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์

    สเปอร์ส ขี่พายุทะลุฟ้า เอ๊ย ขี่ดวงมาเต็มๆ ก่อนที่พวกเขาจะกรุยทางเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศถ้วยใบโตยุโรป แถมทีมยังทำคะแนนเหนือกว่า อาร์เซน่อล คู่อริตลอดกาลแห่งนอร์ทลอนดอน ส่งผลให้ "ไอ้ปืนใหญ่" พลาดตั๋วไปลุยศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก อย่างแสนเจ็บปวด

    แต่หลังจากที่พวกเขาโดน โอริกี้ ซัดประตูตอกฝาโลงเมื่อเดือนมิถุนายนในเกมที่สนามว่านต๋า เมโตรโปลีตาโน่ ตอนนี้ "ไก่เดือยทอง" ยังมีอาการหงอยผลงานไม่หวือหวาอย่างที่บรรดาเกจิลูกหนังหลายคนคาดหวังเอาไว้

    สเปอร์ส อยู่ในช่วงวิกฤติจริงๆ เพราะผลงานของพวกเขาในพรีเมียร์ลีกไม่ค่อยน่าอภิรมย์ รวมไปถึงเกมที่แพ้ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-1 คาบ้านตัวเอง ล่าสุดอาการหนักเข้าไปอีกเมื่อตกรอบ คาราบาว คัพ ด้วยฝีกเกือกของ โคลเชสเตอร์ สมันน้อยจาก ลีก ทู

เอฟเวอร์ตัน

    ไม่มีประตูไหนที่สุดจะบรรยายในเกมดาร์บี้แมตช์แห่งลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ เด็ดเท่ากับประตูของ โอริกี้ !! โอเค เอฟเวอร์ตัน ทำผลงานไม่ค่อยดีนัก และตอนนี้ก็เกิดคำถามเกี่ยวกับฝีมือของมาร์โก ซิลวา ขณะที่ สาวก "เดอะ ค็อป" ต่างก็ชื่นชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับเพื่อนบ้านที่แสนน่ารักของพวกเขา

    แน่นอนว่าทุกคนยังคงจดจำลูกโหม่งของ โอริกี้ ได้เป็นอย่างดีเพราะมันเกิดขึ้นในช่วงเสี้ยววินาทีก่อนจะหมดเวลา ทำให้พวกเขาเอาชนะคู่อริร่วมเมือง 1-0 และส่งให้ ลิเวอร์พูล ได้ขับเคี่ยวกับ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างเมามัน

    ฤดูกาลที่ผ่านมา "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ทำได้เพียงอันดับ 8 ในตารางลีก แต่ความย่ำแย่ยังคงตามติดเป็นเงาตามตัวเมื่อมองถึงเม็ดเงินที่สโมสรลงทุนไปในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่คาดหวังว่า เอฟเวอร์ตัน จะมีโอกาสลืมตาอ้าปากก้าวขึ้นมาลุ้นอันดับท็อปโฟร์ ในซีซั่น 2019/20

    ตอนนี้ ซิลวา กำลังเจอกับปัญหาอย่างหนักเพราะทีมเพิ่งจะแพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่ ทำให้ตอนนี้แฟนบอลเอฟเวอโตเนี่ยน เริ่มหัวร้อนขึ้นทุกวัน การที่เห็นทีมรักรั้งอยู่ในอันดับ 14 และแมตช์ต่อไปต้องรับมือ แมนฯ ซิตี้ ในถิ่นกูดิสัน พาร์ค  มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ทีมจะหยุดโชคร้ายในเวลานี้

วูล์ฟแฮมป์ตัน

    เพื่อเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าผลกระทบจากการโดน โอริกี้ ยิงประตูเป็นเหมือนอาถรรพ์จริงๆ ไม่เชื่อลองดูผลงานของ วูล์ฟส์ ในเวลานี้ก็ได้

    ทัพ "หมาป่า" ต้องผิดหวังในฤดูกาลนี้เมื่อพวกเขายังสะกดคำว่า "ชนะ" ไม่เป็นเลยทำให้ตอนนี้อันดับรั้งตำแหน่งรองบ๊วยในตารางลีกจากการเล่น 6 เกมแรก งานนี้อถรรพ์จากการโดน หัวหอกชาวเบลเยียม ยิงประตู จะส่งผลร้ายถึงขั้นตกชั้นหรือเปล่า ? เดี๋ยวเราจะได้เห็นกัน
 
วัตฟอร์ด

        ลิเวอร์พูล ถลุงยับไม่นับญาติใส่ วัตฟอร์ด 5-0 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยในเวลานั้นแฟนบอล "แตนอาละวาด" ยอมรับได้กับการพ่ายแพ้มโหฬารให้กับสโมสรที่มีเกมรุกดุดันจนยากจะต้านทานได้

    แน่นอนว่าในแมตช์นั้น โอริกี้ ยิงประตูที่สามให้กับ "หงส์แดง" และนับตั้งแต่เกมดังกล่าว วัตฟอร์ด ก็เจอความเศร้าระลอกสองด้วยการแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-6 ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกเอฟเอ คัพ ส่งผลให้ ฆาบี การ์เซีย ต้องกระเด็นออกจากเก้าอี้กุนซือ และปัจจุบันพวกเขารั้งบ๊วยในพรีเมียร์ลีก   

    หากยกเว้นแมตช์ที่เสมอ อาร์เซน่อล 2-2 พวกเขายังต้องดิ้นรนในทุกๆ เกมที่ลงสนาม แถมเกมที่สุดเลวร้ายในลีกก็โดนทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า อันเละเทะ 0-8 ที่สนามเอติฮัด สเตเดี้้ยม....โถ่ชีวิตนี่เป็นเพราะ 1 ประตูจาก โอริกี้ แท้ๆ (หรือเปล่า)

นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด

    สโมสรที่อาจจะถูกมองว่ามีวิกฤติมาตลอด แต่ยังไงซะ โอริกี้ ก็คือว่าน่าจะเป็นนักเตะที่ทำให้สาวก "สาลิกาดง" ต้องจดจำเพราะเขาคือผู้ซัดประตูสำคัญในนาทีที่ 86 ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค ส่งให้ "เดอะ เร้ดส์" ได้ลุ้นแชมป์อย่างสุดมันกับ แมนฯ ซิตี้

    ลางร้ายของ นิวคาสเซิ่ล เริ่มเห็นได้ชัดในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา เมื่อพวกเขาแยกทางกับ ราฟาเอล เบนิเตซ ผู้จัดการทีมชาวสแปนิช จากนั้นก็แต่งตั้ง สตีฟ บรูซ เข้ามากุมบังเหียน โดยบรรดาเกจิลูกหนังฟันธงว่านี่คือการถอยหลังเข้าคลองของพวกเขาอย่างแท้จริง

    สำหรับในฤดูกาลนี้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด มีแต้มอยู่เหนือโซนตกชั้นเพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้น แน่นอนว่าสถานการณ์แบบนี้ไม่ค่อยดีนักสำหรับทัพ "ทูน อาร์มี่"
 
ซันเดอร์แลนด์

    จำกันได้ใช่ไหมว่าสมญานามของสโมสรนี้ก็คือ "แมวดำ" ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นสัญลักษณ์ของความโชคดี แล้วพวกเขาต้องเจอกับอาถรรพ์ด้วยหรือเปล่า ?

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 จังหวะตะบันด้วยเท้าขวาที่ดูไม่น่าจะอันตรายอะไรเลยของ โอริกี้ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ซันเดอร์แลนด์ 2-0 ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่ในเวลานั้นไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา และถือเป็นหายนะที่ไม่มีใครคาดฝัน

    หลังจากความพ่ายแพ้ในวันนั้นนำไปสู่การส่ง ซันเดอร์แลนด์ พร้อมรูดกราวร่วง และสุดท้ายก็ตกชั้นในฤดูกาลดังกล่าว ยังไม่หมดแค่นั้นในซีซั่นต่อมา "เดอะ แบล็ค แคท" ยังต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนแต่สุดท้ายก็ต้องตกชั้นจากเดอะ แชมเปี้ยนชิพ

    ดูแล้วเหมือนกับ โอริกี้ คือยมทูตสุดร้ายกาจของสโมสรเหล่านี้ แต่นี่เป็นเพียงแค่การเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายทีมที่โดน ดาวยิงชาวเบลเยียม ส่งบอลไปซุกก้นตาข่าย แต่ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอะไรมากนัก