นับตั้งแต่ก้าวเข้ามาเป็นผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม ปี 2015 เจอร์เก้น คล็อปป์ ยอดกุนซือชาวเยอรมัน ทำการดึงนักเตะเข้ามาเสริมทัพไปแล้วทั้งสิ้น 15 คน (ไม่นับรวมพวกแข้งดาวรุ่งที่ย้ายมาในซีซั่นนี้) ซึ่งส่วนใหญ่ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่เข้าเป้า ต่างกันแค่ "ปังมาก" หรือ "ปังน้อย" เท่านั้น แต่มีใครบ้างล่ะ? ที่ถือเป็นการเสริมทีมที่ล้มเหลวของ คล็อปป์ เรามาหาคำตอบกัน

- มาร์โก กรูยิช (ปัจจุบันเล่นให้ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน แบบสัญญายืมตัว) : ล้มเหลว

    เป็นมิดฟิลด์ดาวรุ่งที่ดูมีอนาคต แต่ยังคงแจ้งเกิดกับทีมไม่ได้เสียที (ย้ายมาจาก เร้ดสตาร์ เบลเกรด เมื่อปี 2016) และถูกปล่อยตัวให้สโมสรอื่นยืมใช้งานมาโดยตลอด

- โฌแอล มาติป : ผ่านฉลุย (เกรด A)

    ย้ายมาจาก ชาลเก้ 04 แบบฟรีๆ เมื่อปี 2016 แต่ผลงานของเจ้าตัวไม่ได้ไร้ค่าเลย และตอนนี้กลายเป็นผู้เล่นกองหลังที่ทีมขาดไม่ได้เสียแล้ว

- ลอริส คาริอุส (ปัจจุบันเล่นให้ เบซิคตัส แบบสัญญายืมตัว) : ล้มเหลว

    ถูกดึงมาจาก ไมนซ์ 05 (ปี 2016) เพื่อเป็นผู้รักษาประตูมือหนึ่ง และได้รับความไว้วางใจจาก คล็อปป์ อย่างต่อเนื่อง แต่ความผิดพลาดที่ไม่น่าให้อภัยในเกมนัดชิงฯ แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อปี 2018 ทำให้เจ้าตัวไม่น่าจะมีอนาคตในถิ่น แอนฟิลด์ อีกแล้ว

- ซาดิโอ มาเน่ : ผ่านฉลุย (เกรด A+)

    ถือเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมมากๆ ของ คล็อปป์ โดยเวลานี้ มาเน่ ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในบรรดาผู้เล่นแนวรุกที่อันตรายที่สุดคนหนึ่งของโลกแล้วไป พร้อมกับกดไปทั้งสิ้น 67 ประตู จาก 134 เกมที่ลงเล่นภายใต้ยูนิฟอร์ม "หงส์แดง"

- รักนาร์ คลาวาน (ปัจจุบันค้าแข้งกับ กายารี่) : ล้มเหลว

    ย้ายมา (จาก ไฟร์บวร์ก เมื่อปี 2016) เพื่อเป็นอะไหล่สำรองในแนวรับ และสุดท้ายก็ไม่ดีพอสำหรับ "หงส์แดง"

- จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม : ผ่าน (เกรด B+)   

    แม้บางครั้งถูกดร็อปเป็นตัวสำรองบ้าง แต่ก็ถือเป็นนักเตะที่ได้รับความไว้วางใจจาก คล็อปป์ อย่างเต็มที่ และโดยรวมมีผลงานที่ยอดเยี่ยม นับตั้งแต่ย้ายมาจาก นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2016

- โมฮาเหม็ด ซาลาห์ : ผ่านฉลุย (เกรด A+)

    คงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะผลงานกระหน่ำ 77 ประตู จาก 116 นัด ช่วยตอบทุกข้อสงสัยได้เป็นอย่างดี

- แอนดี้ โรเบิร์ตสัน : ผ่านฉลุย (เกรด A+)

    ย้ายมาจาก ฮัลล์ ซิตี้ (เมื่อปี 2017) ด้วยค่าตัวแค่ 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 312 ล้านบาท) เท่านั้น แต่ตอนนี้ "ร็อบโบ้" กลายเป็นฟูลแบ็กระดับท็อปของโลกไปแล้ว

- อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน : ผ่าน (เกรด B)

    แม้เจอปัญหาบาดเจ็บเล่นงานจนแทบไม่ได้ลงเล่นเลยในฤดูกาลก่อน แต่ส่วนใหญ่ก็ทำผลงานได้ดีเมื่อได้รับโอกาส และถือเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ คล็อปป์ ชื่นชอบมากๆ

- เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ : ผ่านฉลุย (เกรด A+)

    ค่าตัวระดับ 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,925 ล้านบาท) กลายเป็นเงินก้อนเล็กๆ ไปเลย เพื่อพิจารณาดูถึงผลงานที่ ฟาน ไดค์ เข้ามาช่วยยกระดับคุณภาพแผงหลัง "หงส์แดง" และก็แน่นอนว่า ตอนนี้เขาถูกยกย่องให้เป็นเซนเตอร์แบ็กที่เก่งสุดในโลก

- นาบี เกอิต้า : รอดูไปก่อน

    เป็นนักเตะที่ต้องให้เวลาพิสูจน์อีกสักระยะ เพราะด้วยปัญหาบาดเจ็บที่รุมเร้า ทำให้หลายๆ คนเชื่อว่า เกอิต้า ยังไม่สามารถแสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมาได้ และที่สำคัญคือ เขายังคงได้รับการหนุนหลังจากสาวก "เดอะ ค็อป" เต็มที่
   
- อลีสซง เบ็คเกอร์ : ผ่านฉลุย (เกรด A+)

    ย้ายมาจาก อาแอส โรม่า (เมื่อปี 2018) ด้วยค่าตัวมหาศาลถึง 66.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,605.2 ล้านบาท) แต่เจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มได้คุ้มค่าทุกเพนนี สร้างความมั่นใจให้กับเพื่อนๆ ยามยืนอยู่หน้าประตู และถือเป็นกำลังสำคัญให้กับทีมในการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาครองเมื่อซีซั่นที่แล้ว แถมยังทำ 21 คลีนชีตในลีกด้วย

- ฟาบินโญ่ : ผ่านฉลุย (เกรด A)

    ใช้เวลาพอสมควรในการปรับตัวช่วงแรกๆ หลังย้ายมาจาก อาแอส โมนาโก เมื่อซัมเมอร์ปี 2018 แต่หลังจากนั้นกลายเป็นกำลังสำคัญในแผงมิดฟิลด์ที่แทบไม่มีใครทดแทนได้

- เซอร์ดาน ชากิรี่ : ผ่าน (เกรด B)

    แม้เป็นแค่ตัวสำรอง แต่ ชากิรี่ ก็ถือเป็นกำลังเสริมชั้นดี และด้วยการที่ซื้อมา (จาก สโต๊ค ซิตี้ ช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว) ในราคาแค่ 13.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 526.5 ล้านบาท) เท่านั้น ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าทีเดียว โดยเฉพาะกับผลงานที่ลุกจากม้านั่งสำรอง มากดคนเดียวสองตุงในเกมเปิดบ้านอัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 เมื่อกลางเดือนธันวาคมปีก่อน

- อาเดรียน : ผ่าน (เกรด B)

     ย้ายมาสู่ถิ่น แอนฟิลด์ แบบฟรีๆ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยถูกวางให้เป็นนายทวารสำรอง แต่กลับกลายเป็นว่าต้องลงเล่นแทน อลีสซง ที่เจ็บตั้งแต่เกมเปิดซีซั่น และจนถึงตอนนี้โดยรวมถือว่ามีผลงานที่น่าพอใจ แม้มีชอตผิดพลาดและชอตชวนเสียวให้เห็นบ้าง เพราะอย่างน้อยๆ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ก็เพราะเขานี่แหละ