นิโกล่าส์ เปเป้ เปลี่ยนตัวลงมาครึ่งหลังแต่กลับเป็นฮีโร่ตะบันฟรีคิกสุดสวยถึงสองเม็ดช่วย "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล เปิดบ้านแซงเก็บชัยเหนือ วิตอเรีย กิมาไรช์ ไปแบบสุดมัน 3-2 พร้อมรั้งตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่มโดยมี 9 แต้มเต็ม ในศึกฟุตบอล ยูโรปา ลีก (รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ) เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา

ฟุตบอล ยูโรปา ลีก
(รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ)
วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม 2562
อาร์เซน่อล (อังกฤษ) 3   -   2 วิตอเรีย กิมาไรช์ (โปรตุเกส)

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม

เริ่มเกมมาได้เพียง 4 นาที กิมาไรซ์ หวิดได้ประตูขึ้นนำเมื่อ อังเดร อัลเมด้า ได้พลิกตัวยิงในกรอบเขตโทษอาร์เซน่อลไม่ถึง 10 หลาแต่บอลไปตรงตัว
   
    นาทีที่ 8 วิตอเรีย กิมาไรช์ ขึ้นนำ 1-0 จนได้จากจังหวะเติมเกมรุกขึ้นมาของ วิคเตอร์ การ์เซีย แผงหลังทีมเยือนที่พาบอลไปสุดริมเส้นฝั่งขวาแล้วหักข้อส่งย้อนมาให้ มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์ จับบอลจังหวะ

แรกแล้วแต่งเข้าเท้าขวาก่อนบรรจงยิงเน้นๆ ผ่านมือ ดาเมี่ยน มาร์ติเนซ นายด่านปืนโตเข้าไปอย่างสุดสวย

    นาทีที่ 10 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นทางประตูคืนจาก อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ที่ได้โอกาสหวดบอลระยะประมาณ 25 หลาแต่โดนไม่เต็มหลุดออกข้างเสาไปอย่างน่าเสียดาย

    นาทีที่ 17 ทัพปืนโตทำเกมโต้กลับบอลมาเข้าทาง เอมิล สมิธ โรว์ พลิกตัวหวดเต็มข้อกลางกรอบเขตโทษ กิมาไรช์แต่กองหลังเจ้าบ้านเข้าบล็อกไวบอลกระดอนออกไปพ้นเขตอันตราย

    10 นาทีถัดมา กิมาไรช์ ได้ลูกฟรีคิกเกือบริมเส้นทางฝั่งขวา วิคเตอร์ การ์เซีย กึ่งยิงกึ่งผ่านเข้าไปในกรอบเขตโทษเจ้าถิ่นแต่ยังถูกเคลียร์ทิ้งออกมาได้

     นาทีที่ 29 เจ้าบ้านได้ลูกเตะมุม ลูกัส ตอร์เรยร่า เปิดบอลลอยโค้งเข้าไปแต่ก็ยังถูกแข้งทีมเยือนขึ้นเบียดโหม่งสะกัดออกมาได้
   
    อาร์เซน่อล ตามตีเสมอ 1-1 จนได้นาทีที่ 33 จากจังหวะเปิดบอลด้านข้างฝั่งซ้ายของ คีแรน เทียร์นี่ย์ ลอยไปเข้าหัว กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ขึ้นขวิดบอลพุ่งเสียบใต้คานเข้าไปอย่างสวยงาม
   
    นาทีถัดมาเจ้าบ้านหวิดได้ประตูแซงนำ เอมิล สมิธ โรว์ ได้โอกาสยิงเน้นๆ แต่บอลดันไปติดแผงหลังทีมเยือนออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

    แต่แล้วนาทีที่ 37 วิตอเรีย กิมาไรช์ กลับขึ้นมานำอีกครั้ง 2-1 จากการส่งบอลพลาดของแผงหลังเจ้าถิ่นแล้วถูก ดาวิดซอน  ตัดบอลได้ก่อนกระชากจี้แล้วซัดเลียดด้วยเท้าขวาบอลพุ่งไปชนเสาอย่างจังกระดอนมาเข้าทาง บรูโน่ ดูอาร์เต้ ที่รออยู่แล้วกระซวกด้วยเท้าขวาตู้มเดียวบอลพุ่งอย่างกับจรวดเสียบเสาเข้าไป มาร์ติเนซ นายด่ายปืนโตได้แต่ยืนมองด้วยสายตาเท่านั้น

    จบครึ่งแรกเจ้าถิ่น อาร์เซน่อล โดน วิตอเรีย กิมาไรช์ ยิงนำอยู่ 1-2

    ครึ่งเวลาหลัง อาร์เซน่อล ตัดสินใจเปลี่ยนผู้เล่นพร้อมกันถึงสองคน โดยส่ง มัตเตโอ เกนดูซี่ ลงมาแทน เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์ และส่ง ดานี่ เซบายอส ลงมาแทน โจ วิลล็อค

    นาทีที่ 49 จากลูกเตะมุม ชโคดราน มุสตาฟี่ ได้ขึ้นโขกโล่งๆ กดบอลลงพื้นแต่ทิศทางไม่ดีหลุดออกข้างไปอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 54 อาร์เซน่อลได้ลุ้นตีเสมอเมื่อ คีแรน เทียร์นี่ย์ เติมเกมกระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษทีมเยือนบริเวณริมเส้นฝั่งซ้ายก่อนเปิดยัดไปติดแข้ง กิมาไรช์ แต่บอลกระดอนไปเข้าทาง เอมิล สมิธ โรว์ ที่ยืนรออยู่แล้วหวดเน้นๆ แต่ดูเหมือนว่าจะโดนไม่ดีบอลหลุดออกด้านข้างไป

    ผ่านมาถึงนาทีที่ 67 ทัพปืนโตยังพยายามเปิดเกมรุกหวังตีเสมอ ดานี่ เซบายอส จ่ายบอลทะลุช่องหวังไปให้ อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ แต่ถูกแข้งกิมาไรช์ควบแซงตัดบอลออกไปได้

   นาทีที่ 72 จากจังหวะเตะมุมของอาร์เซน่อลบอลเลยมาถึง ลากาแซตต์ ที่ยืนปักหลักในเขตโทษทีมเยือนจับบอลได้แล้วตัดสินใจบรรจงปั่นด้วยเท้าขวาแต่บอลโด่งเกินไปข้ามคานไม่ได้ลุ้น

    อาร์เซน่อล ตัดสินใจเปลี่ยนตัวผู้เล่นคนสุดลงสนามนาทีที่ 75 โดยถอด อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ ที่โชว์ฟอร์มไม่เข้าตาออกและส่ง นิโกล่าส์ เปเป้ ลงเล่นแทนหวังเปลี่ยนแปลงผลสกอร์

    อาร์เซน่อล ตามตีเสมอ 2-2 จนได้นาทีที่ 79 จากลูกฟรีคิกบริเวณหน้ากรอบเขตโทษทางฝั่งขวาระยะประมาณ 24 หลา เป็น นิโกล่าส์ เปเป้ ที่วิ่งเข้ามาบรรจงปั่นด้วยเท้าซ้าย

นาทีถัดมา กิมาไรช์ หวิดได้ประตูขึ้นนำอีกครั้งเมื่อโต้กลับไวและเป็น ดาวิดซอน ที่ได้ซัดทางฝั่งขวาบอลผ่านเสาไกลออกไปไม่ถึงหลา

    ทั้งสองทีมเปิดเกมรุกเข้าใส่กันแบบไม่มีอุด นาทีที่ 82 อาร์เซน่อล ได้ลุ้นอีกครั้ง ชโคดราน มุสตาฟี่ เติมเกมรุกขึ้นมาเปิดบอลริมเส้นฝั่งขวาย้อนมาให้ เปิดเส้นหลังให้ เอคตอร์ เบเยริน ที่วิ่งเข้ามาแปจ่อๆ แต่ดันไปตรงตัว ชูเอา มิเกล ซิลวา ผู้รักษาประตูทีมเยือนปัดออกไปได้

    นาทีที่ 85 อาร์เซน่อลได้ลุ้นอีกครั้งจากลูกฟรีคิกแทบจะเป็นจุดเดียวกันกับประตูตีเสมอและยังเป็น นิโกล่าส์ เปเป้ ที่รับหน้าที่ยิงอีกครั้งแต่คราวนี้ตัดสินใจเปิดบอลไปเข้าหัว ร็อบ โฮลดิ้ง ที่ลอยตัวขึ้นโขกจ่อๆ ไม่ถึง 10 หลาแต่น้ำหนักเบาเกินไปทำให้ ชูเอา มิเกล ซิลวา ทะยานตัวรับบอลไว้ได้

 นาทีที่ 90+2 อาร์เซน่อลได้ประตูแซงนำ 3-2 เมื่อได้ลูกฟรีคิกกลางกรอบเขตโทษระยะประมาณ 20 หลา และเป็น นิโกล่าส์ เปเป้ เจ้าเก่ารับหน้าที่สังหารวิ่งเข้ามาปั่นบอลด้วยเท้าซ้ายโค้งผ่านกำแพงเสียบสามเหลี่ยมมุมบนเข้าไป หมดปัญญาที่ ชูเอา มิเกล ซิลวา จะพุ่งรับถึง

    จบเกม อาร์เซน่อล เปิดบ้านแซงเก็บชัยเหนือ วิตอเรีย กิมาไรช์ ไปอย่างสุดมัน 3-2 คว้า 9 แต้มเต็มรั้งตำแหน่งจ่าฝูงกลุ่มต่อไปอย่างหายห่วง

 รายชื่อนักเตะของทั้งสองทีม

    อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : ดาเมี่ยน มาร์ติเนซ - ชโคดราน มุสตาฟี่, ร็อบ โฮลดิ้ง, เอคตอร์ เบเยริน, คีแรน เทียร์นี่ย์ -  โจ วิลล็อค (ดานี่ เซบายอส น.46), ลูกัส ตอร์เรยร่า - เอมิล สมิธ โรว์, เอนสลี่ย์ เมทแลนด์-ไนลส์ (มัตเตโอ เกนดูซี่ น.46), กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ - อเล็กซองด์ ลากาแซตต์ (นิโกล่าส์ เปเป้ น.75)
    สำรองไม่ได้ใช้ : คาลั่ม แชมเบอร์ส, เซอัด โคลาซินัช, แบร์นด์ เลโน่, บูกาโย่ ซาก้า
   
    วิตอเรีย กิมาไรช์  (4-5-1) : ชูเอา มิเกล ซิลวา -  เอ็ดมงด์ ตัปโซบา, เฟร์เดริโก้ เวนานซิโอ้, วิคเตอร์ การ์เซีย, ฟอร์เร้นท์ ฮานิน - เดนิส โปฮา, อังเดร อัลเมด้า (เปเป้ โรดริเกซ น.64), มิเกล อากู, มาร์คัส เอ็ดเวิร์ดส์ (อันเดร เปเรย์ร่า น.71), ดาวิดซอน (โรชิน่า น.87) -  บรูโน่ ดูอาร์เต้

    ผู้ตัดสิน : เซอร์ดาร์ โกซูบูยุค (ฮอลแลนด์)