โจชัว คิง ซัดประตูชัยพา บอร์นมัธ เปิดบ้านเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 พร้อมยัดเยียดความปราชัยต่อ "ปีศาจแดง" ในรอบ 5 เกมพร้อมหล่นมารั้งที่ 8 ของตารางเรียบร้อย ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันเสาร์ที่ 2 พ.ย 62

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน 2562
บอร์นมัธ 1-0 แมนฯ ยูไนเต็ด

สนาม : ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม

    เจ้าถิ่น บอร์นมัธ เปลี่ยนให้ แฮร์รี่ วิลสัน ปีกทีมชาติเวลส์ แทน อาร์โนต์ โกรเนเฟลด์ ขณะที่ "ปีศาจแดง" ใช้ทีมที่บุกชนะนอริช อองโตนี่ มาร์กซิยาล ยืนหน้าเป้า และ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ ฟิตลงช่วยแนวรับ

    ก่อนเกมมีการยืนรำลึกถึงทหารผ่านศึกของสหราชอาณาจักรในช่วงสงครามโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 11 พ.ย. เหมือนทุกปี ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาอย่างหนาเม็ดที่ไวทาลิตี้ สเตเดี้ยม

    ครึ่งแรกเริ่มมา 3 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดฉากบุกใส่ทันที และมาได้ลุ้นก่อนจากจังหวะที่ แดเนียล เจมส์ กระชากหลุดเข้าเขจโทษทางกราบขวา ก่อนจะปาดเข้าใน อันเดรียส เปเรยร่า ได้สอดมายิงโล่งๆแต่ไม่โดนพลาดโอกาสทองไปแบบน่าเสียดาย

    จากนั้นยังเป็นโอกาสของทีมเยือนบุกกดดันได้ดีกว่า น.7 เจมส์ ไหลให้ เปเรยร่า หลุดเข้าเขตโทษก่อนตะบันด้วยขวาบอลยังเหินข้ามคานออกไป

    บอร์นมัธ ได้โอกาสจบครั้งแรก ใน น.16 แฮร์รี่ วิลสัน ทำชิ่ง กับ อดัม สมิธ ก่อนหลุดมาตะบันด้วยซ้ายบอลไปติดบล็อคแนวรับ "ปีศาจแดง" ออกหลังไป

    แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้จังหวะสวนกลับ มาคัส แรชฟอร์ด กระชากหลุกดมาทางกราบซ้ายแล้วจ่ายย้อนกลับไปให้ เฟร็ด ได้ซัดหน้าเขตโทษบอลแฉลบบล็อคแนวรับเจ้าถิ่นออกหลังไปแบบได้ลุ้น

    ทีมเยือนได้โอกาสทองจากจังหวะฟรีคิก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ เปิดฟรีคิกเข้าเขตโทษแนวรับบอร์นมัธเคลียร์ไม่ขาดไปเข้าทาง เจมส์ ที่ยืนอยู่บริเวณหัวกระโหลกซัดตูมเดียวแบบไม่จับบอลหลุดเสาสองออกไปนิดเดียว ใน น.21

    น.27 บอร์นมัธ มาได้โอกาสทองบ้างจากจังหวะสวนกลับเร็ว คัลลัม วิลสัน จ่ายให้ ไรอัน เฟรเซอร์ หลุดมาทางซ้ายได้ซัดแต่บอลยังไปตรงตัว ดาบิด เด เคอา รับไว้ได้สบาย

    อย่างไรก็ตามท้ายครึ่งแรก น.45+1 บอร์นมัธ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 อดัม สมิธ เปิดยัดให้ โจชัว คิง ในเขตโทษก่อนจะกระดกบอลหลบ อาร์รอน วาน บิสซาก้า หนึ่งจังหวะหลุดเดี่ยวล้มตัวซัดเข้าประตูไปอย่างเหนือชั้น ก่อนจะจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

    เกมในครึ่งหลังเล่นมาได้ 3 นาที บอร์นมัธ ได้ทักทายก่อน ไรอัน เฟรเซอร์ หลุดมาซัดตามน้ำบอลยังไปตรงตัว เด เคอา รับไว้ได้

    หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ลุ้นตีเสมอ อันเดรียส เปเรยร่า ส่องไกลหน้าเขตโทษบอลพุ่งเรียดเสียบเสาแรกแต่ แอรอน แรมส์เดล พุ่งปัดออกไปได้ ใน น.57

    น.53 ทีมเยือนเกือบเสียลูกสอง คัลลั่ม วิลสัน เปิดแฉลบ ลินเดอเลิฟ บอลหลุดไปถึง โจชัว คิง พยายามจะตามซ้ำบอลกระดอนออกมาถึง แฮร์รี่ วิลสัน ได้ยิงดาบสองแต่บอลเบาไป เด เคอา ยังใช้เท้าสกัดออกมาได้

   10 นาทีท้าย โซลชา ตัดสินใจถอด แดเนี่ยล เจมส์ และ แอรอน วาน-บิสซาก้า ออก ให้ เมสัน กรีนวู้ด และแบรนดอน วิลเลี่ยมส์ ลงแทน โดยโยก แอชลี่ย์ ยัง ไปยืนแบ็กขวา

    หลังจากเปลี่ยนตัวทีมเยือนบุกใส่เป็นพายุ และพลาดตีเสมออย่างน่าเสียดายเมื่อ น.82 เมื่อ เฟร็ด เปิดไปเสาสองให้ เมสัน กรีนวู๊ด ตัวสำรองกระโดดมาแปโล่งๆที่เสาไกลแต่บอลไปชนเสากระดอนออกมา จากนั้นในนาทีเดียวกัน แม็คโทมิเนย์ ตะบันด้วยขวาหน้าเขตโทษ แรมส์เดล ยังเซฟไว้ได้อีก 

    เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บอร์นมัธ เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-0 ขึ้นมารั้งที่ 6 ของตาราง พร้อมเขี่ย แมนฯ ยูไนเต็ด หล่นไปรั้งที่ 8
   

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

บอร์นมัธ : แอรอน แรมส์เดล, อดัม สมิธ, สตีฟ คุ้ก, นาธาน อาเก้, ดีเอโก้ รีโก้, ไรอัน เฟรเซอร์, เจฟเฟอร์สัน เลร์มา, ฟิลิป บิลลิ่ง, แฮร์รี่ วิลสัน (ลูอิส คุ้ก น.86), คัลลั่ม วิลสัน, โจชัว คิง

แมนฯ ยูไนเต็ด : ดาบิด เด เคอา, แอรอน วาน-บิสซาก้า (แบรนดอน วิลเลี่ยมส์ น.81), วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, แฮร์รี่ แม็กไกวร์, แอชลี่ย์ ยัง, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, แดเนี่ยล เจมส์ (เมสัน กรีนวู้ด น.80), อันเดรียส เปเรยร่า (เจสซี่ ลินการ์ด น.69), มาร์คัส แรชฟอร์ด, อองโตนี่ มาร์กซิยาล