ศาลในเมืองผู้ดี พิพากษาตัดสินโทษ แอชลี่ย์ สมิธ หนึ่งในโจรที่พยายามปล้น เมซุต โอซิล กับ เซอัด โคลาซินัช ให้หมดอิสรภาพเป็นเวลานานถึง 10 ปี หลังเจ้าตัวยอมรับสารภาพว่าได้ร่วมกับ จอร์แดน นอร์ธโอเวอร์ กระทำการอุกอาจกลางกรุงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

    ศาลฮาร์โรว์ คราวน์ คอร์ต ประเทศอังกฤษ มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษ แอชลี่ย์ สมิธ หนึ่งในสองโจรที่พยายามปล้น เมซุล โอซิล เพลย์เมกเกอร์ชาวเยอรมันและ เซอัด โคลาซินัช กองหลังเลือดบอสเนีย สองสตาร์ดัง "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล สโมสรแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ติดคุก 10 ปี

     สมิธ วัย 30 ปียอมรับสารภาพว่าได้ร่วมมือกับ จอร์แดน นอร์ธโอเวอร์ วัย 26 ปีเพื่อพยายามที่จะปล้นนาฬิกาหรูมูลค่า 200,000 ปอนด์ (ราว 7.6 ล้านบาท) ของ โอซิล และ โคลาซินัช ที่แฮมป์สเตด ทางตะวันตกเฉียงเหนือในกรุงลอนดอน เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ไม่สำเร็จ

    ภาพจากกล้องซีซีทีวี แสดงให้เห็นว่า โคลาซินัช ซึ่งมีฉายาว่า "ไอ้รถถัง" ออกมาจากรถหรูโฟร์วีลมูลค่า 165,000 ปอนด์ (ราว 6.27 ล้านบาท) เพื่อต่อสู้กับ นอร์ธโอเวอร์ ที่ใช้เข็มสำหรับถักไหมพรมขู่แบ็กซ้ายร่างตัน ขณะที่ สมิธ นั่งอยู่บนรถสกูตเตอร์ซึ่งขโมยมา โดยในช่วงเวลานั้นภรรยาของ โอซิล ที่หลบอยู่ในรถเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง หลังจากนั้น จอมทัพชาวเยอรมันกับเมียรักก็รีบหนีออกมาจากรถเข้าไปหลบภายในร้านอาหารตุรกี

    สำหรับการพิพากษาในครั้งนี้ สมิธ ซึ่งถูกผู้พิพากษาเรียกว่าอาชญากรมืออาชีพ อยู่ในช่วงพักโทษจำคุก 42 เดือนจากคดีย่องเบาเมื่อปี 2017 และเพิ่งถูกปล่อยตัวจากเรือนจำในคดีดังกล่าวเมื่อเดือนมกราคม ปรากฎตัวในศาลผ่านวีดิโอลิงค์  ยังคงมีสีหน้าเรียบเฉย แต่แม่ของเขาถึงกับสะอึกสะอื้นต่อหน้าผู้คนที่อยู่ในห้องพิจารณาคดี เมื่อศาลตัดสินให้เขาต้องถูกจองจำในคุกนานถึง 10 ปี