ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » "ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ" เรื่องจริงสุดเศร้า บ็อบบี้ ฟีร์มีโน่

"ชีวิตไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ" เรื่องจริงสุดเศร้า บ็อบบี้ ฟีร์มีโน่

Posted 14/11/2019 by siamsport

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กลายเป็นหนึ่งในยอดนักเตะที่ทุกๆ คนยอมซูฮกในฝีเท้า หลังจากที่เจ้าตัวกลายเป็นผู้เล่นสุดสำคัญของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ช่วยทีมประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา และการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้
    อย่างไรก็ตาม ชีวิตในวัยเด็กของ "บ็อบบี้" ก็เหมือนกับบรรดาแข้งชั้นยอดระดับโลกชาวบราซิเลียน ที่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก และต้องปากกัดตีนถีบเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของตัวเอง และครอบครัว ซึ่งฟุตบอลคืออาชีพที่จะทำให้พวกเขาก้าวขึ้นมาเป็นเศรษฐีได้ในชั่วพริบตา

    เรื่องของ ฟีร์มีโน่ ที่ต้องบอกว่าดราม่าสุดๆ เพราะย้อนไปในวันจันทร์ของปี 2001 เอเดรียน่า เลอิเต้ คุณครูประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งใน มาเซโอ ซึ่งอยู่ริมชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือประเทศบราซิล ได้เข้ามาสอนนักเรียนตามปกติและก็ได้พบกับ "บ็อบบี้" หนูน้อยที่แสนขี้อายนั่งอยู่ที่โต๊ะใกล้ๆ กับเธอ


 


    จากนั้น เลอิต้า ได้ถามเขาว่าช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง ตอนนั้น ฟีร์มีโน่ บอกว่าบ้านของเขาถูกตัดไฟทุกๆ ช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งนั่นทำให้เธอกังวลใจมากๆ และถามเขาที่ตอนนั้นอายุเพียงแค่ 10 ขวบว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาหารที่บ้าน เจ้าตัวยิ้มราวกับว่าเป็นเรื่องปกติ แล้วก็ตอบว่าไม่มีอะไรอยู่ในตู้เย็น ทำให้ไม่มีอะไรต้องกังวลเรื่องของจะเน่าเสียตอนที่บ้านโดนตัดไฟ

    "ตอนที่เขาบอกฉันว่าเขาไม่มีอาหารในตู้เย็นที่บ้านเลย มันทำให้ฉันรู้เศร้าใจมากๆ" เลอิเต้ ย้อนความหลัง "เขายังเด็ก แล้วก็ค่อนข้างขี้อาย คำตอบของเขาทำให้ฉันแปลกใจมาก เขาหมายความว่ายังไงเรื่องที่ไม่มีอะไรเลยในตู้เย็น ? ฉันยังจด โรแบร์โต้ ได้เสมอ เพราะเขาเป็นเด็กรูปร่างผอมซึ่งนั่งอยู่ถัดจากโต๊ะของฉัน และพูดแต่เรื่องฟุตบอล"


    คุณครูเลอิเต้ ไม่เคยคิดจะเปิดเผยเรื่องราวเล่านี้เลยในช่วงเกือบ 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยเวลาส่วนใหญ่ของเธอมักจะคุยกับเจ้าหนูขี้อายเรื่องฟุตบอลกับการเรียนของเขาเป็นประจำ  และก็มักจะแนะนำให้เขาสนใจเรื่องการศึกษา แต่บางครั้งเขาก็ไม่ยอมเชื่อฟัง และมักจะหนีไปเล่นฟุตบอลที่สนามเล็กที่ค่อนข้างสกปรกที่อยู่ใกล้ๆ ย่านตราปิตเช่

    การหนีเรียนแม้ว่ามันจะเป็นเรื่องไม่เหมาะสม แต่มันก็ส่งผลให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป โดย ฟีร์มีโน่ ในวัย 13 ปี ได้มีโอกาสร่วมทีมเยาวชนหนึ่งในสองทีมท้องถิ่นที่ชื่อ "ซีอาร์บี" (CRB) หรือ คลับ เดอ เรกาตาส บราซิล  ปัจจุบันอยู่ระดับ ดิวิชั่น 2 ดินแดนแซมบ้า


    ที่นั่นเขาต้องสวมเสื้อหมายเลข 5 ซึ่งในบราซิลหมายเลขนี้จองเอาไว้ให้กับผู้เล่นตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับ แต่ในบางครั้งเขาก็ต้องขยับไปเล่นกองหลังเมื่อโค้ชสั่ง โดย ฟีร์มีโน่ ทำผลงานได้โดดเด่นทันทีจากท่วงท่าลีลาตอนเตะลูกบอล แต่กระนั้นเขาก็ยังคงเป็นคนเงียบๆ และไม่บ่อยนักที่จะเปิดใจกับเพื่อนๆ

    "ฟีร์มีโน่ เป็นเด็กที่ถ่อมตัวมากๆ แต่เต็มไปด้วยพรสวรรค์" กิลเยร์เม่ ฟาเรียส อดีตโค้ชของ "บ็อบบี้" กล่าว "ทันทีทีผมได้เห็นเขาเล่น ผมรีบเซ็นสัญญากับเขาเลยเพราะผมรู้ว่าเราได้ของดีอยู่ในมือแล้ว เขาทุ่มเทเต็มที่ เขาฟังคำแนะนำทุกอย่าง ทุกๆ คนชื่นชอบเขา ครอบครัวของเขามีปัญหาเรื่องการเงินในเวลานั้น และเราพยายามช่วยเหลือเพื่อให้เขาได้มาฝึกซ้อม และเดินทางไปพร้อมกับทีม"


    หนุ่มน้อยฟีร์มีโน่ ได้เดินทางไปตะวันออกเฉียงเหนือของดินแดนบ้านเกิดเพื่อร่วมแข่งขันชิงแชมป์ระหว่างรัฐ และเดินทางไปเซา เปาโล เพื่อแข่งทัวร์นาเมนต์ระดับประเทศ โดยมีเรื่องหนึ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเดินทางไปแข่งฟุตบอลกับทีม เมื่อเขาแสดงความใสซื่อบริสุทธิ์จนทำให้ทุกๆ คนประทับใจ"

    "เราทุกคนเล่นฟุตบอลในโรงแรม เราเล่นเดาะบอลกัน และบอลมันหลุดจากเท้าของ ฟีร์มีโน่ ซึ่งเขาเดาะพลาด ทำให้กระจกแตก แต่เขาบอกว่าพวกเขาจะต้องซื้อกระจกบานใหม่ และเอาไปติดแทนที่ คุณต้องประทับใจกับเรื่องนี้ ถ้าคุณทำผิด ก็ต้องทำให้ถูกต้อง ฟีร์มีโน่ ซื้อกระจก เรานำมาติดแทนกระจกที่แตก"


   


    จุดเปลี่ยนชีวิตครั้งสำคัญของ ฟีร์มีโน่ เกิดขึ้นในปี 2008 เมื่อ โตนินโญ อัลเมด้า กุนซือเยาวชนซีอาร์บี ได้โทรไปหา บิลอู ซึ่งเล่นให้กับสโมสรแอตเลติโก มิเนโร และบอกให้เขามาดูฝีเท้านักเตะดาวรุ่งรายนี้ โดย อัลเมด้า ได้ส่งดีวีดี และคลิปวีดิโอการเล่นของ ฟีร์มีโน่ ไปให้ บิลอู ได้เห็นเป็นขวัญตา

    ในเวลานั้น บิลอู ได้แนะนำให้เขาไปทดสอบฝีเท้ากับ เซา เปาโล ซึ่งเป็นแชมป์ลีกในเวลนั้น โดย ฟีร์มีโน่ ไม่ผ่านการทดสอบ แต่เขาก็ยังคงได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจาก บิลอู ซึ่งพยายามพาเขาไปทดสอบฝีเท้ากับอดีตสโมสรที่เขาเคยเล่นอย่าง ฟิกูเรนเซ่  ครั้งนี้เจ้าตัวโชว์พรสวรรค์แบบเต็มสูบ

 

    "เขาโดนประเมินต่ำเกินไปจากเซา เปาโล" บิลอู กล่าว "เขามีเวลาแค่นิดเดียวในช่วงฝึกซ้อมกับบอล เขาไม่ผ่านการทดสอบ แต่มันก็ยุติธรรมดีเมื่อผมพาเขาไปที่ฟิกูเรนเซ่ ผมเคยเล่นที่นั่น และรู้จักหลายคน ดังนั้นผมก็เลยให้เขามีโอกาสอีกครั้ง เขาโชว์ฟอร์มสุดยอด เขาเต็มไปด้วยพรสวรรค์ แต่ประสบการณ์ในดิวิชั่น 2 ช่วยเขาได้มาก"

    บิลอู อยู่เคียงข้าง ฟีร์มีโน่ ตอนที่เขาเซ็นสัญญานักฟุตบอลอาชีพครั้งแรกที่ฟิกูเรนเซ่ พวกเขาได้เล่นด้วยกันตอนที่ บิลอู กลับมาที่สโมสรแห่งนี้ในปี 2010 พวกเขายังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนถึงปัจจุบันนี้ "ผมเป็นพ่อทูนหัวลูกสาวของเขา ผมเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในวันที่เขาแต่งงาน และเรามักจะพูดคุยกันเกือบทุกสัปดาห์"

 

    "เขายังคงเป็นคนเงียบขรึม แต่มักทำตัวสบายๆ เมื่ออยู่กับเพื่อนๆ ของเขา เขาเป็นคนดีมากๆ ซึ่งเขาพัฒนาฝีเท้าเยอะมาก เขาเคยเล่นมิดฟิลด์ตัวรับ หรือกองหลัง จากนั้นก็เล่นมิดฟิลด์ตัวกลางร่วมกับผม และปัจจุบันเขาเป็นกองหน้า เขาฉลาดเป็นกรด ผมคิดว่าเขาเป็นนักเตะที่น่าสนใจมากๆ เวลาที่ดู ลิเวอร์พูล ลงเล่น" บิลอู ซึ่งตอนนี้แขวนสตั๊ด และทำงานเป็นโค้ช กล่าว

      การย้ายลงใต้ไปอยู่ที่ ฟิกูเรนเซ่ เป็นเรื่องดีสำหรับ ฟีร์มีโน่ โดยสโมสรแห่งนี้ตั้งอยู่ในเมืองฟลอเรียโนโปลิสซึ่งอยู่ตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เป็นพื้นที่ยอดนิยมของบรรดาแมวมอง และเอเยนต์ ที่มักจะมาซุ้มดูนักเตะพรสวรรค์ เมื่อเขาสามารถช่วยต้นสังกัดเลื่อนชั้นไปเล่นในลีกสูงสุดสำเร็จ ฟีร์มีโน่ ได้โอกาสย้ายไปเล่นกับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ สโมสรที่สร้างชื่อให้กับเขาบนแผ่นดินยุโรป และกลายเป็นสตาร์ดังจนกระทั่งทุกวันนี้


    ฟีร์มีโน่ เพิ่งมีโอกาสได้ชูโทรฟี่แชมป์เป็นครั้งแรกในอาชีพพ่อค้าแข้งเมื่อช่วย "เดอะ เร้ดส์" คว้าแชมป์แชมเปี้ยนส์ ลีก และคว้าแชมป์ โกปา อเมริกา 2019 กับทีมชาติบราซิล เขายังเป็นชาวบราซิเลียนที่ยิงประตูมากที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก และติดทัพ "เซเลเซา" ไปแล้ว 41 เกม

    สำหรับคุณครูเลอิต้า แม้จะจดจำเรื่องราวที่แสนลำเข็ญของ ฟีร์มีโน่ ได้เป็นอย่างดี แต่การที่ทั้งสองคนไม่ได้พบกันมานานมาทำให้เธอจำไม่ได้ว่าชายที่สวมเสื้อสีเหลือง-เขียว (เสื้อแข่งทีมชาติบราซิล) ในทีวี ซึ่งมักจะยิ้มฟันขาว เหมือนกับ โรแบร์โต้ เด็กน้อยที่เรียนหนังสือกับเธอที่โรงเรียนมาเรีย ริต้า ไลร่า เดอ อัลเมด้า เมื่อเกือบ 20 ปีก่อน

    คิดดูก็แล้วกันพวกเขาเคยมีโอกาสได้พบกันที่สนามบินมาเซโอ และเขาก็ถ่ายรูปร่วมกับลูกๆ ของเธอ แต่ เลอิต้า จำไม่ได้ว่า สตาร์ลูกหนัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เป็นเด็กนักเรียนที่เธอเคยสอน ย้อนกลับไปเมื่อปีที่ผ่านมา ก่อนศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย เธอได้รับโทรศัพท์จากหัวหน้าฝ่ายครู และถามว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เป็นนักเรียนเก่าของเธอ "เราได้ค้นหาข้อมูล และพบว่าเขาคือเจ้าหนูโรแบร์โต้ของฉัน"

    "ลูกๆ ของฉันแทบไม่อยากเชื่อว่าเขาเป็นนักเรียนเก่าของฉัน มีหลายคนไม่เชื่อ ฉันเริ่มจำได้เกี่ยวกับเรื่องประวัติต่างๆ และมันทำให้ฉันมีความสุขมากๆ เพราะเขาสามารถหลุดพ้นจากความยากลำบากได้จริงๆ จากเด็กที่มีชีวิตที่แสนอันตราย จนกระทั่งกลายเป็นนักกีฬาระดับโลก อย่างที่เขาปรารถนา" คุณครูกระดาษทราย กล่าว

     หลังจากที่ความทรงจำต่างๆ กลับคืนมาแล้ว เธอก็อยากมีโอกาสได้พบกับ ฟีร์มีโน่ อีกครั้ง โดยลูกชายคนโตของเพื่อนของเลอิต้า ได้พบกับ "บ็อบบี้" ที่มาเซโอ โดยกล่าวว่า "เราไปที่นั่นแบบไม่ตั้งตัว และแน่นอนว่าไม่มีใครปล่อยให้เราเข้าไปในบ้านเพื่อคุยกับ โรแบร์โต้"

    "แต่ลูกชายคนเล็กของฉันอยากพบเขาจริงๆ ดังนั้น ญาติ (ฟีร์มีโน่) ได้ช่วยเหลือด้วยการพาเขาเข้าไปในบ้าน เขาได้พบกับ โรแบร์โต้ และอยากร้องไห้ โรแบร์โต้ หันมาและเริ่มพูดคุยเรื่องตลกๆ หลังจากนั้น โรแบร์โต้ ก็ออกมานอกบ้าน เพื่อต้อนรับเรา และถ่ายรูปร่วมกัน เขาสร้างวันที่แสนดีเยี่ยมให้กับเรา"


     สำหรับ ฟาเรียส ซึ่งทำงานในวงการลูกหนังมานานกว่า 30 ปี เป็นบุคคลแรกที่นำ ฟีร์มีโน่ ไปเล่นกับ ซีอาร์บี ก็อยากที่จะได้พบกับอดีตนักเตะของเขา และรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นโค้ชให้กับนักเตะชั้นยอดมากมายตั้งแต่อยู่ที่รัฐอาลาโกอัส อย่างเช่น เปเป้ อดีตกองหลังเรอัล มาดริด และ วิลเลี่ยน โชเซ่ หัวหอกเรอัล โซเซียดาด แต่น่าเสียดายที่เขาไม่เคยได้เจอกับพวกเขาอีกเลย

    "ผมดีใจที่เห็นความสำเร็จของ โรแบร์โต้ เพราะเขาเกิดที่นี่  เมื่อเขาประสบความสำเร็จ ผมต้องขอบคุณพระเจ้า เขาสมควรไดรับสิ่งนี้ ผมอยากมีโอกาสได้พบกับเขา และคุยอะไรกันนิดๆ หน่อยๆ เพราะมีหลายอย่างที่ยากลำบากที่นี่" ฟาเรียส ระบุ


    ฟีร์มีโน่ เป็นหนึ่งในตัวอย่างของคนสู้ชีวิต และมีความมุ่งมั่นแน่วแน่ในความฝันของตัวเอง แม้ชีวิตเกิดมาจะยากลำบาก แต่นำสิ่งนี้เป็นแรงผลักดันจนประสบความสำเร็จ....

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • ไม่ระเริง!คล็อปป์รับเหลือเชื่อลิเวอร์พูลโกยแต้มเพียบ
    เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือลิเวอร์พูล ยอมรับตนทึ่งกับผลงานของทีมที่โกยคะแนนไม่เกรงใจคู่แข่ง แถมยังไร้พ่ายในช่วงเวลานี้ แต่ยืนยันไม่มีหลงระเริงเนื่องจากเพิ่งจะอยู่ในช่วงต้นฤดูกาลเท่านั้น พร้อมหวังนักเตะที่ไปรับใช้ชาติจะกลับมาด้วยสภาพร่างกายฟิตสมบูรณ์
  • คอลลีมอร์ชม1แข้งลิเวอร์พูลพัฒนาดีเหลือเชื่อ
    สแตน คอลลีมอร์ ระบุ ส่วนตัวแล้วตนประทับใจมากๆ กับการที่ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน พัฒนาตัวเองได้อย่างสุดยอดจนคู่ควรกับการเป็นกัปตันทีม ลิเวอร์พูล เพราะก่อนหน้านี้ตนยังไม่เชื่อฝีเท้าของแข้งวัย 29 ปีเลย พร้อมชมทั้ง เฮนเดอร์สัน และ เจมส์ มิลเนอร์ ว่าพิสูจน์ตัวเองได้ดีว่ามีความสำคัญกับทีมสุดๆ
  • เพิ่งเคยเห็นเจ็บ! โรเบิร์ตสัน ร่ายยาวเหตุผลถอนตัวทีมชาติหนนี้
    แอนดรูวส์ โรเบิร์ตสัน แบ็คซ้ายตัวเก่งลิเวอร์พูล ต้องถอนตัวจากทีมชาติสกอตแลนด์ชุดสู้ศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก ซึ่งเหตุผลที่ถอนคือ อาการบาดเจ็บที่สะสมมาตลอดซีซั่น
  • จุดเริ่มต้นปัญหา!เผยราฮีม-โกเมซพูดอะไรท้ายเกมที่แอนฟิลด์
    เดอะ มิร์เรอร์ สื่อของอังกฤษ ระบุคำพูดที่ ราฮีม สเตอร์ลิง พูดกับ โจ โกเมซ ในช่วงท้ายเกมที่ ลิเวอร์พูล ชนะ แมนฯ ซิตี้ 3-1 โดยที่ สเตอร์ลิง พูดด้วยความเดือดดาลสุดขีด ก่อนที่ สเตอร์ลิง จะก่อเรื่องฉาวกับอีกฝ่ายในแคมป์เก็บตัวของทีมชาติอังกฤษ

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »