แม้จะมาช้าหน่อย แต่ก็มาตามนัด สำหรับ "อินทรีเหล็ก" ทีมชาติเยอรมนี ที่ล่าสุดคว้าตั๋วเข้าไปลุยศึก ยูโร 2020 รอบสุดท้าย เรียบร้อย หลังเปิดบ้านยำ เบลารุส 4-0 ขณะที่ ฮอลแลนด์ แม้ทำได้แค่บุกไปเจ๊า ไอร์แลนด์เหนือ 0-0 แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาควง เยอรมนี เข้าไปวาดลวดลายในรอบสุดท้าย เช่นเดียวกับ ออสเตรีย และ โครเอเชีย ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดในรอบคัดเลือกกลุ่ม ซี, อี, จี และ เอฟ ที่แข่งขันกันเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น เรามาอัพเดตกันเลย

    กลุ่ม ซี
        - เยอรมนี ชนะ เบลารุส 4-0
        - ไอร์แลนด์เหนือ เสมอ ฮอลแลนด์ 0-0

        กลุ่มนี้ได้ครบสองทีมแล้ว ซึ่งก็เป็น เยอรมนี กับ ฮอลแลนด์ ตามคาด เหลือลุ้นแค่ใครจะได้เป็นแชมป์กลุ่มเท่านั้น โดย "อัศวินสีส้ม" ถือเป็นการคัมแบ็กสู่เวทีระดับเมเจอร์อีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้เข้าไปเล่นใน 2 รายการล่าสุด (ยูโร 2016 และ เวิลด์ คัพ 2018) ส่วน ไอร์แลนด์เหนือ ได้แค่ไปลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟ ถึงแม้พวกเขามีโอกาสทำคะแนนขึ้นเท่ากับ ฮอลแลนด์ ก็ตาม (เพราะ เฮด-ทู-เฮด เป็นรอง ฮอลแลนด์) ขณะที่ เบลารุส แม้รั้งรองบ๊วย แต่ก็ได้ไปเตะเพลย์ออฟ ฐานะที่เป็นแชมป์กลุ่ม (กลุ่ม 2) ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ดี

        (หมายเหตุ : Q = เข้ารอบสุดท้ายเรียบร้อย; E = ตกรอบ; A = ได้ลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟ)    
 

    *กลุ่ม อี
        - อาเซอร์ไบจาน แพ้ เวลส์ 0-2
        - โครเอเชีย ชนะ สโลวาเกีย 3-1

       
        ชัยชนะเหนือ สโลวาเกีย ทำให้ โครเอเชีย การันตีแชมป์กลุ่ม พร้อมซิวโควตาลุยรอบสุดท้ายเป็นที่เรียบร้อย แต่ตั๋วที่เหลืออีกหนึ่งใบถือว่าลุ้นกันสนุกทีเดียว ระหว่าง ฮังการี, เวลส์ และ สโลวาเกีย โดยเกมสุดท้ายที่จะฟาดแข้งในวันอังคารที่ 19 พ.ย. นี้ เวลส์ มีคิวเปิดบ้านดวลกับ ฮังการี ซึ่งถือเป็นคู่เอก ส่วน สโลวาเกีย จะเปิดบ้านเจอกับทีมบ๊วยอย่าง อาเซอร์ไบจาน ซึ่งพวกเขาจำเป็นต้องคว้าชัยชนะให้ได้สถานเดียว ถึงจะมีลุ้น
   

   
        (หมายเหตุ : Q = เข้ารอบสุดท้ายเรียบร้อย; E = ตกรอบ; X = ได้เตะเพลย์ออฟเป็นอย่างน้อย)    
   

    กลุ่ม จี
        - สโลวีเนีย ชนะ ลัตเวีย 1-0
        - ออสเตรีย ชนะ มาซิโดเนีย 2-1
        - อิสราเอล แพ้ โปแลนด์ 1-2

           
        ออสเตรีย ซิวโควตาลุยรอบสุดท้ายได้สำเร็จ หลังได้ชัยชนะสุดสำคัญเมื่อคืนวันเสาร์ โดยพวกเขาจะไปในฐานะรองแชมป์กลุ่ม ต่อจาก โปแลนด์ ซึ่งเท่ากับว่า กลุ่มนี้ลงตัวหมดแล้ว แม้เหลือโปรแกรมลงเตะอีกทีมละ 1 นัดก็ตาม เพราะ สโลวีเนีย กับ ลัตเวีย ตกรอบ ส่วน มาซิโดเนีย กับ อิสราเอล ได้สิทธิ์ไปลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟ 
       
 

    (หมายเหตุ : Q = เข้ารอบสุดท้ายเรียบร้อย; E = ตกรอบ; A = ได้ลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟ)    

    กลุ่ม ไอ
        - ไซปรัส แพ้ สกอตแลนด์ 1-2
        - รัสเซีย แพ้ เบลเยียม 1-4
        - ซาน มาริโน่ แพ้ คาซัคสถาน 1-3

        เป็นกลุ่มที่ไม่มีอะไรต้องลุ้นอีกแล้วเช่นกัน กับโปรแกรม 1 เกมที่เหลืออยู่ โดย เบลเยียม กับ รัสเซีย ซิวตั๋วเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายได้ตั้งแต่เดือนก่อนแล้ว ส่วน สกอตแลนด์ ยังไงก็ได้เข้าไปลุ้นต่อในการแข่งขันเพลย์ออฟ ฐานะที่เป็นแชมป์กลุ่ม (กลุ่ม 1) ในศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ซี ขณะที่ ไซปรัส, คาซัคสถาน และ ซาน มาริโน่ ตกรอบเรียบร้อย โดยเฉพาะรายหลังสุด แพ้รวดทั้ง 9 เกม แถมโดนทะลวงตาข่ายไปแล้วถึง 46 ตุง!!!
   
 

    (หมายเหตุ : Q = เข้ารอบสุดท้ายเรียบร้อย; E = ตกรอบ; A = ได้ลุ้นต่อในการเตะเพลย์ออฟ)    

    *สรุป 16 ทีมที่เข้ารอบสุดท้ายเรียบร้อย*

    - เบลเยียม (แชมป์กลุ่ม ไอ : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2019)
    - อิตาลี (แชมป์กลุ่ม เจ : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2019)
    - รัสเซีย (รองแชมป์กลุ่ม ไอ : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2019)
    - โปแลนด์ (แชมป์กลุ่ม จี : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2019)
    - ยูเครน (แชมป์กลุ่ม บี : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2019)
    - สเปน (แชมป์กลุ่ม เอฟ : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2019)
    - ตุรกี (แชมป์หรือรองแชมป์กลุ่ม เอช : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2019)
    - ฝรั่งเศส (แชมป์หรือรองแชมป์กลุ่ม เอช : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2019)
    - อังกฤษ (แชมป์กลุ่ม เอ : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2019)
    - สาธารณรัฐเช็ก (รองแชมป์กลุ่ม เอ : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2019)
    - ฟินแลนด์ (รองแชมป์กลุ่ม เจ : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2019)
    - สวีเดน (รองแชมป์กลุ่ม เอฟ : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2019)
    - โครเอเชีย (แชมป์กลุ่ม อี : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2019)
    - ออสเตรีย (รองแชมป์กลุ่ม จี : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2019)
    - เยอรมนี (แชมป์หรือรองแชมป์กลุ่ม ซี : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2019)
    - ฮอลแลนด์ (แชมป์หรือรองแชมป์กลุ่ม ซี : การันตีเข้ารอบเมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2019)

      ทั้งนี้ การพิจารณาหา 16 ทีมไปเตะเพลย์ออฟ เพื่อตัดสินหาอีก 4 ทีมเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย (+ 20 ทีมที่เป็นแชมป์และรองแชมป์แต่ละกลุ่ม) นั้น จะดูจากผลงานในการลงทำศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เป็นหลัก ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่บางทีมอยู่อันดับแย่กว่าเพื่อน แต่กลับได้สิทธิ์ไปเตะเพลย์ออฟ