ซาดิโอ มาเน่ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ แบ่งกันกระทุ้งคนละเม็ดในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกเฉือน คริสตัล พาเลซ หวุดหวิด 2-1 ที่ เซลเฮิร์สต์ ปาร์ค ทำให้เด็กๆ ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ยังนำโด่งบนตารางพรีเมียร์ลีก โดยทิ้งอันดับสองถึง 8 คะแนน

      "หงส์แดง" จ่าฝูงหวังสามแต้มหวังฉีกหนีผู้ไล่ล่า งานนี้ต้องบุกเยือน พาเลซ บ้านนายเก่าอย่าง รอย ฮอดจ์ สัน โดยปราศจาก โม ซาลาห์ ซูเปอร์สตาร์คนดังที่ฟิตไม่พอ จนเป็นได้แค่สำรอง ทำให้ อเล็กซ์ อ๊อกซ์เลด-แชมเบอร์ เลน ได้เสียบแทนโควต้า แต่ดาวดังรายอื่นๆ จากชุดอัด แมนฯ ซิตี้ อยู่ครบทั้ง ซาดิโอ มาเน่ รวมถึง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

     ด้าน "ปราสาทเรือนแก้ว" เจ้าถิ่นของ ฮอดจ์สัน ยึด 11 ขุนพลจากชุดล่าสุด หวังเลี่ยงสถิติพ่าย ลิเวอร์พูล ห้านัดติด โดยอัดแดนกลางแน่นหนา ห้อย จอร์แดน อายิว เป็นหอกเป้าคนเดียว

     เกมเปิดแลกกันสนุก ลิเวอร์พูล พยายามครองบอลกดดัน และจู่โจมด้วยความเร็ว ขณะที่ พาเลซ ซึ่งเน้น กับลูกตั้งเตะ มีเสียวในน.17 จากจังหวะที่ อายิว พุ่งชาร์จลูกเปิดจากกราบขวา แต่ลูกถากเสาออกไปหวุดหวิด

    นาทีถัดมา ลิเวอร์พูล โต้ตอบทันควัน ฟาบินโญ่ วางให้ มาเน่ โฉบเข้าหาบอล แต่ช้ากว่า บิเซนเต้ ไกวต้า  นายประตูเจ้าบ้านแค่อึดใจ

    ครึ่งชั่วโมงผ่านไป ลิเวอร์พูล ยังหาจังหวะเข้าทำจังๆ ไม่ได้ ก่อนกองเชียร์เจ้าบ้านจะได้เฮจากจังหวะฟรีคิกขยับเข้ามาจากจุดเตะมุมด้านซ้าย มิลิโวเยวิช เปิดเข้ามาโดนหัว ฟาบินโญ่ เลยไปเสาสองถึง เจมส์ ทอมกิ้นส์ โหม่งเน้นๆ ตุงตาข่าย อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสิน เรียกดูวีเออาร์พบว่า อายิว ไปผลัก เดยัน ลอฟเรน ก่อน จึงทำให้ไม่เป็น ประตู ท่ามกลางเสียงโห่ของแฟน พาเลซ จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมยังเสมอกัน 0-0 

    กลับมาเล่นครึ่งหลังได้แค่ น.49 แฟนหงส์ได้เฮเมื่อ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลจากซ้ายเข้ากลางเลยไปถึง  มาเน่ ใช้เข่าพักแล้วซัดชนเสาเข้าไป แม้จะมีกองหลังเจ้าบ้านพยายามสกัดทว่าไม่สำเร็จ ทำให้ ลิเวอร์พูล นำ 1-0
 
   พาเลซ เร่งเครื่องหวังเอาคืน น.52 แอนดรอส ทาวน์เซนด์ วางเท้าหวดจากหน้ากรอบเขตโทษ ทว่าติดเซฟ อลีสซง เบ็คเกอร์

    น.65 ลิเวอร์พูล หวิดได้อีกเม็ด คราวนี้ ฟีร์มิโน่ หลุดเข้าไปทางซ้ายของกรอบเขตโทษแล้วบรรจงดีด แต่ติดซูเปอร์เซฟ ไกวต้า ก่อนที่ พาเลซ จะเสีย โจเอล วอร์ด ที่เจ็บ ทำให้ ฮอดจ์สัน ต้องส่ง มาร์ติน เคลลี่ เด็กเก่าหงส์แดงลงแทนในน.70 

   เจฟฟรีย์ ชลุปป์ ตัวสำรองพาเลซส่องไกลติดปลายมือ อลีสซง ก่อนที่ ฮอดจ์สัน จะทิ้งไพ่ใบสุดท้ายด้วยการส่ง คริสติย็อง เบนเตเก้ เด็กเก่าหงส์แดงอีกคนแทน อายิว ในช่วง 15 นาทีสุดท้าย และ เบนเตเก้ ได้โชว์กระโดดเอี้ยวตัววอลเล่ย์ถากเสาไปนิดเดียว

   จนเข้าสู่ น.82 กองเชียร์ พาเลซ ได้เฮจนได้ เมื่อ เบนเตเก้ เลื้อยเข้ากรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนจ่ายให้ ทาวน์เซนด์ ตวัดให้ ซาฮา ที่ปล่อยบอลไหลเข้าขวาแล้วกดเต็มเหนี่ยวเสียบมุมเฉียบขาดให้ "ปราสาทเรือนแก้ว" ตีเสมอ 1-1

    น.86 จากจังหวะชุลมุนหน้าปากประตู บ๊อบบี้ ฟีร์มิโน่ ตะบันเผาขนเป็นประตูชัยให้ ลิเวอร์พูล บุกมาเชือด พาเลซ 2-1 ทำให้ "หงส์แดง" ยังนำโด่งบนหัวตารางพรีเมียร์ลีก 8 แต้มเหมือนเดิม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
 คริสตัล พาเลซ : บิเซนเต้ ไกวต้า - โจเอล วอร์ด ( มาร์ติน เคลลี่ น.70), เจมส์ ทอมกิ้นส์, แกรี่ เคฮิลล์, พาทริก ฟาน อานโฮลท์ - แอนดรอส ทาวน์เซนด์, ชีคู คูยาเต้ (เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ น.72), ลูก้า มิลิโวเยวิช, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, วิลฟรีด ซาฮา - จอร์แดน อายิว (คริสติย็อง เบนเตเก้ น.76)

 สำรองไม่ได้ใช้ : เวย์น เฮนเนสซี่ย์, สกอตต์ แดนน์, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, มักซ์ เมเยอร์

 ลิเวอร์พูล : อาลีสซง เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์, เดยัน ลอฟเรน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์,
แอนดี้ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ( เจมส์ มิลเนอร์ น.79), ฟาบินโญ่, จอร์จินโย่ ไวนัลดุม - ซาดิโอ มาเน่, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ (โจ โกเมซ น.79), อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน (ดิว็อก โอริกี้ น.64)

 สำรองไม่ได้ใช้ : อาเดรียน, อดัม ลัลลาน่า, นาบี เกอิต้า, โมฮาเหม็ด ซาลาห์

 ใบเหลือง : ฟาบินโญ่

 ผู้ตัดสิน : เควิน เฟรนด์