คาร์โล อันเชลอตติ พบกับความพ่ายแพ้นัดแรกในการคุมทอฟฟี่แล้ว หลังโดนเจ้าถิ่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บดเอาชนะไปได้อย่างสนุก 2-1 โดย กาเบรียล เชซุส เกมนี้โชว์ฟอร์มเด่นเหมาคนเดียว 2 เม็ด พา "เรือใบสีฟ้า" เก็บเพิ่มเป็น 44 คะแนนตามหลัง เลสเตอร์ แต้มเดียวและตามจ่าฝูง ลิเวอร์พูล 11 คะแนน แถมหงส์แดงแข่งน้อยกว่า 2 เกม

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

    แชมป์เก่า แมนฯซิตี้ เกมล่าสุดเปิดบ้านไล่อัด เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 2-0 เกมนี้ยังคงได้เล่นใน เอติฮัด สเตเดี้ยม รับการมาเยือนของ เอฟเวอร์ตัน ที่ชนะมาสองนัดติดโดยเกมล่าสุดบุกไปเชือด นิวคาสเซิ่ล 2-1

    เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปรับแท็คติกและโรเตชั่นผู้เล่นบางตำแหน่ง เอริค การ์เซีย แนวรับดาวรุ่ง, ชูเอา กานเซโล่ และฟิล โฟเด้น ได้ออกสตาร์ทตัวจริง โดยมี กาเบรียล เชซุส เป็นหน้าเป้า ขณะที่ฝั่ง คาร์โล อันเชลอตติ ใช้คู่หน้าอย่าง โดมินิค คัลเวิร์ต-ลูวิน กับริชาร์ลิซอน ล่าตาข่าย

    เริ่มเกมมาได้แค่ 9 นาที ทัพ "ทอฟฟี่" เกือบบุกมาขึ้นนำไปก่อน หลัง กิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ตักบอลข้ามแนวรับให้ เซมัส โคลแมน หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปก่อนพยายามยิงด้วยซ้ายข้ามหัว บราโว่ แต่ดีที่นายด่านชาวชิเลี่ยนเหินปัดออกไปได้

    นาที 12 ชูเอา กานเซโล่ เล่นหนึ่งสองกับมาห์เรซ ก่อนที่แข้งแอลจีเรียจะแทงทะลุแนวรับให้ กานเซโล่ อีกทีหลุดถึงเส้นหลังแล้วปาดเลียดไปเสาไกลให้ ฟิล โฟเด้น วิ่งมายิงโล่งเข้าไป ทว่า อังเดร มาร์ริเนอร์ ผู้ตัดสินได้รับสัญญาณจากห้อง วีเออาร์ หลังเช็กประตูนี้แล้วปรากฎว่า มาห์เรซ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนออกบอลให้กานเซโล่ ทำให้สกอร์ยัง 0-0 เหมือนเดิม

    นาที 19 เกมต้องหยุดอีกครั้ง หลัง VAR เช็กจุดโทษว่าจะ ริยาด มาห์เรซ โดนลูก้าส์ ดีญทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษก่อนพักบอลหรือไม่ ก่อนจะไม่เป่าให้และให้เกมดำเนินต่อไป

    นาที 29 เกมรุกของ "เรือใบ" ยังบุกกดดันอย่างต่อเนื่อง คราวนี้ขึ้นทางซ้าย เบนฌาแม็ง เมนดี้ กระชากขึ้นมาแล้วจ่ายเข้าในให้ ริยาด มาห์เรซ จับบอลแล้วโยกไปทางซ้ายก่อนจะอัดด้วยเท้าซ้ายมุมแคบโดน จอร์แดน พิคฟอร์ด ปัดออกไป

    นาที 41 ลูกทีมของเป๊ปพลาดได้ประตูอีกครั้ง หลัง กาเบรียล เชซุส หลุดเข้าไปในกรอบก่อนจ่ายสั้นคืนหลังให้ ริยาด มาห์เรซ วิ่งมายิงด้วยขวาเท้าไม่ถนัดบอลหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

    จบครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเสมอกับ เอฟเวอร์ตัน 0-0

    กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง นาที 51 แมนฯซิตี้ มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน แทงบอลให้ กาเบรียล เชซุส หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปก่อนแตะหนี โฮลเกต แล้วปั่นด้วยขวาหนีมือ พิคฟอร์ด เข้าไปอย่างสวยงาม เป็นประตูที่ 7 ของดาวยิงทีมชาติบราซิลในซีซั่นนี้

    จากนั้น นาที 58 "เรือใบสีฟ้า" มานำห่างเป็น 2-0 ริยาด มาห์เรซ รับบอลจากโฟเด้นก่อนจ่ายขึ้นหน้าให้ กาเบรียล เชซุส หลุดแนวรับเข้าไปยิงด้วยซ้ายเบียดเสาแรกเข้าไป และเป็นประตูที่สองในเกมนี้อีกด้วย

    อันเช่อยู่ไม่ได้หลังตามสองเม็ด นาที 60 ถอด โคลแมน ออกแล้วเติม ธีโอ วัลค็อตต์ ลงเล่นแทน

    นาที 71 แฟนทอฟฟี่ได้เฮกันบ้าง เมื่อ เอฟเวอร์ตัน มาตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-2 จากความผิดพลาดของ บราโว่ ที่ออกบอลสั้นไปโดน ริชาร์ลิซอน สไลด์ตัดบอลไปเข้าทาง มอยเซ่ คีน เลี้ยงแหวกเข้ากรอบก่อนโดน เอริก การ์เซีย จิ้มบอลไปเข้าทาง ธีโอ วัลค็อตต กึ่งยิงกึ่งผ่านลอดขา เมนดี้ ไปถึง ริชาร์ลิซอน พุ่งเข้าชาร์ทส่งบอลซุกตาข่าย

    อีกสองนาทีถัดมา แมนซิตี้ เกือบได้ประตูหนีห่าง ชูเอา กานเซโล่ ครอสบอลมาเสาสองให้ กาเบรียล เชซุส ขึ้นโขกแต่บอลยังไม่ผ่านมือ พิคฟอร์ด เซฟไว้ได้อีก

    นาที 78 กาเบรียล เชซุส พลาดโอกาสทำแฮตทริกอีกครั้ง หลังตะบันด้วยซ้ายเต็มแรงบอลพุ่งไปชนซ้ายอย่างจัง

    นาที 81 ฟิล โฟเด้น ออกบอลเร็วจ่ายขึ้นหน้าให้ กาเบรียล เชซุส พลิกแนวรับทอฟฟี่เข้าไปซัดมุมแคบแต่ จอร์แดน พิคฟอร์ดยังเร็วปัดออกได้ทัน

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่บดเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 เก็บสามแต้มมีเพิ่มเป็น 44 คะแนน รั้งอั้นดับ 3 เหมือนเดิมแต่จี้ เลสเตอร์ รองจ่าฝูงแค่แต้มเดียว แต่ยังตามจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ถึง 11 คะแนนแถมหงส์แดงแข่งน้อยกว่า 2 นัด