"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด แม้เหลือผู้เล่น 10 คนช่วงต่อเวลาแต่ไม่มีปัญหาหลังยิงลูกโทษแม่นกว่า เอาชนะ "ตราหมี" แอต.มาดริด 4-1 ซิวแชมป์สแปนิชซูเปอร์คัพเป็ฯสมัยที่ 11 สำเร็จ ในการแข่งขันฟุตบอลสแปนิชซูเปอร์คัพ คืนวันอาทิตย์ที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา

     ศึกฟุตบอลซูเปร์โกา เด เอสปันญ่า นัดชิงชนะเลิศ ณ สนามกลางที่ซาอุดิอาระเบีย "ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ของ ซีเนดีน ซีดาน ผ่านเข้ารอบชิงดำมาได้หลังปราบบาเลนเซีย เกมนี้มุ่งมั่นมากส่งผู้เล่นเกือบฟูลทีมทว่าขาด "เบนเซม่า-เบล" ที่บาดเจ็บตั้งแต่ก่อนเริ่มรายการนี้ แต่ยังมี ลูก้า โมดริชเดินเกมบุกขับเคลื่อนแนวรุก ปะทะอริร่วมเมืองอย่าง "ตราหมี" แอต.มาดริด ที่มี ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือผู้นำทีมสอยบาร์เซโลน่าร่วงรอบก่อน วางเป้านำต้นสังกัดซิวโทรฟี่นี้ให้ได้ ใส่ชื่อ "เฟลิกซ์ - โมราต้า" เป็นตัวชูโรง

     เริ่มครึ่งแรกราชันได้ลุ้นนาทีที่ 5 ดานี่ การ์บาฆาล กระชากบอลบุกมาทางริมสนามด้านขวา ก่อนเลี้ยงตัดเข้ากลางไหลบอลต่อให้ คาเซมีโร่ จับหนึ่งครั้งแล้วปั่นตรงเกือบถึงเส้นกรอบเขตโทษ บอลเลี้ยวโค้งเข้าหาประตูแต่ ยาน โอบลัค นายด่านตราหมีโดดรับเอาไว้ได้

     ต่อมาถึงนาทีที่ 9 โทนี่ โครส เล่นลูกเตะมุมสั้นทางฝั่งขวา ดานี่ การ์บาฆาล วิ่งมาทำท่าหลอกจะเล่นแต่กลับปล่อยบอลไปถึง ลูก้า โมดริช ปรี่มาหวดตามน้ำทีเดียวหน้ากรอบเขตโทษ บอลลอยแหวกผู้เล่นคู่แข่งแต่ยังคงถูกนายทวารแอตมาดริดรับได้เช่นเดิม

     ตราหมีชวดนำนาทีที่ 14 แฟร์ล็องด์ เมนดี้ แบ็กซ้ายราชันชุดขาวจ่ายบอลกลับหลังให้ เซร์คิโอ รามอส แต่ทว่ากองหลังดีกรีทีมชาติสเปนโดนผู้เล่นคูแข่งไล่บี้จนออกบอลพลาดมาเข้าทาง ชูเอา เฟลิกซ์ ที่ยืนดักอยู่ตรงวงกลมกรอบเขตโทษ แต่หัวหอกดาวรุ่งตราหมียิงบอลออกนอกกรอบไปอย่างเหลือเชื่อ

     ผ่านมาถึงนาทีที่ 20 โตมัส ปาร์เตย์ ได้บอลจากเพื่อนบริเวณกลางสนาม ส่งบอลขึ้นหน้าให้ อัลบาโร่ โมราต้า ถอยมารับบอลก่อนเลี้ยงถึงระยะประมาณ 20 หลา ตัดสินใจซัดไกลบอลทิศทางเลี้ยวหนีกรอบประตูแบบมีเสียว

     เรอัลมาดริดเกือบนำนาทีที่ 39 เซร์คิโอ รามอส วางบอลยาวจากแดนหลังมาให้ แฟร์ล็องด์ เมนดี้ ปรี่มาเก็บบอลจากนั้นลากจี้เจาะทางริมกรอบเขตโทษด้านซ้าย เลี้ยงบอลหนี คีแรน ทริปเปียร์ ที่พยายามสกัดในเขตโทษ หลุดเข้าไปยิงยัดเสาแรกแต่ ยาน โอบลัค ยังล้มตัวเซฟได้สวยงาม จบ 45 นาทีแรกเสมอกันอยู่ 0-0

     เริ่มครึ่งหลังราชันใกล้เคียงนำนาทีที่ 51 ลูก้า โมดริช ได้บอลจากแผงเกมรับ เลี้ยงตะลุยฝ่าบรรดาผู้เล่นตราหมีจ่ายบอลไปที่ ลูก้า โยวิช ที่วิ่งรอรับบอลหน้ากรอบเขตโทษ ลากบอลหนีตัวประกอบถึงสองคน ก่อนยิงเลี่ยงมาเสาสองบอลพุ่งเกือบเข้าฉิวเสาออกหลังแบบมีลุ้น

     เรอัลมาดริดอดได้สกอร์นาทีที่ 67 โรดรายโก้ หัวหอกสำรองที่ลงมารับบอลจากแดนกลางริมกรอบเขตโทษฝั่งขวาส่งให้ ลูก้า โยวิช ที่โยกตำแหน่งออกข้างมาเก็บบอลก่อนครอสหยอดบอลมากลางเขตโทษหน้าประตู เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ กระโดดลอยตัวโหม่งโล่ง ๆ คนเดียวแต่บอลกลับถูกหัวเข่ากระดอนออกหลังไปแบบไม่น่าเชื่อ

     ตราหมีเกือบเฮนาทีที่ 80 คีแรน ทริปเปียร์ สอดมาบุกทางริมสนามด้านขวา ก่อนฟูลแบ็กเลือดผู้ดีเปิดโค้งอ้อมตัว เซร์คิโอ รามอส ไปให้ อัลบาโร่ โมราต้า หลุดเดี่ยวเข้าไปกระหน่ำบอลในเขตโทษแต่ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวารอริร่วมเมืองทุบบอลออกหลังได้หวุดหวิด จบเกมยังคงเสมอกัน 0-0 ต้องต่อเวลาพิเศษ 120 นาที

     ช่วงต่อเวลาราชันชุดขาวมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนเมื่อ เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้ วิ่งไล่หวด อัลบาโร่ โมราต้า ที่กำลังหลุดเดี่ยวเข้าไปทำประตู กรรมการชูใบแดง แต่ทั้งสองทีมยังยงทำอะไรกันไม่ได้ เข้าสู่ช่วงดวลจุดโทษและเป็น เรอัล มาดริด แม่นกว่าชนะไป 4-1 

รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

เรอัล มาดริด (4-3-2-1): ติโบต์ กูร์กตัวส์,ดานี่ การ์บาฆาล,ราฟาแอล วาราน,เซร์คิโอ รามอส,แฟร์ล็องด์ เมนดี้,โทนี่ โครส (จูเนียร์ วิเนวิอุส น.103),คาเซมีโร่,เฟเดรีโก้ วัลเวร์เด้,ลูก้า โมดริช,อีสโก้ (โรดรายโก้ น.60),ลูก้า โยวิช (มาเรียโน่ ดิอาซ น.83)

แอต.มาดริด (4-4-2): ยาน โอบลัค,คีแรน ทริปเปียร์,เฟลิเป้,โฮเซ่ คิมิเนซ (สเตฟาน ซาวิช น.98),เรนาน โลดี้ (มาร์กอส ยอเรนเต้ น.89),อังเคล กอร์เรอา,เอคตอร์ เอร์เรร่า (วิคตอร์ วิโตโล่ น.57),โตมัส ปาร์เตย์,ซาอูล ญีเกซ,ชูเอา เฟลิกซ์ (ซานติอาโก้ อริอาส น.101),อัลบาโร่ โมราต้า