คงไม่ใช่การกล่าวเกินจริงหากจะยกย่องว่า ณ ตอนนี้ ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่แกร่งที่สุดหากนับจาก 5 ลีกชั้นนำในยุโรป โดยนับตั้งแต่เปิดฤดูกาลจนกระทั่งถึงตอนนี้ "หงส์แดง" สร้างสถิติชนะ 21 เสมอ 1 จากการเล่น 22 เกมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ทำแต้มได้ถึง 64 คะแนนทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 ถึง 16 แต้มเลยทีเดียว
    สถานการณ์ในตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่ "เดอะ เร้ดส์" จะทำลายสถิติของ "เรือใบสีฟ้า" ที่สร้างประวัติศาสตร์เป็นทีมแรกของพรีเมียร์ลีกที่เก็บได้ถึง 100 คะแนน เมื่อฤดูกาล 2017/18 ขณะเดียวกันเริ่มมีการพูดถึงโอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะคว้าแชมป์ลีกเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จากโปรแกรมที่เหลืออยู่ 16 แมตช์ของพวกเขา

    หลังจากชัยชนะในเกม "แดงเดือด" เหนือ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 2-0 ที่แอนฟิลด์ ในเกมลีกสัปดาห์ที่ 23 (ลิเวอร์พูล แข่งน้อยกว่า 1 นัด) นั่นหมายความว่าทีมของกุนซือเจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องการอีก 30 คะแนนก็จะคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีในรอบ 3 ทศวรรษได้สำเร็จ หรือคิดง่ายๆ ก็คือขอเก็บชัยชนะ 10 แมตช์เท่านั้น

    ในกรณีที่คิดแบบเข้าข้าง ลิเวอร์พูล พวกเขาอาจจะเก็บชัยชนะในเกมลีกไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงแมตช์เยือนทีมของกุนซือเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ในวันที่ 4 เมษายนนี้ หาก "หงส์แดง" เก็บ 3 คะแนนได้สำเร็จนั่นหมายความว่าสาวก"เดอะ ค็อป" จะได้ฉลองแชมป์ที่รอคอยกันมานานที่เมืองแมนเชสเตอร์ ทันที

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 2001 แมนฯ ยูไนเต็ด เถลิงแชมป์ลีกสูงสุดเมื่อผู้ดีในวันที่ 14 เม.ย. โดยที่ยังเหลือโปรแกรมลงเตะ 5 แมตช์ ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดในหน้าประวัติศาสตร์ของการแข่งขันรายการนี้ แต่หาก ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ได้ในวันที่ 4 เม.ย. พวกเขาจะเหลือโปรแกรม 6 เกม นั่นหมายความว่า "หงส์แดง" จะทำลายสถิติของ "เร้ด เดวิลส์" ไปโดยปริยาย

    อย่างไรก็ตามอาจจะมีตัวแปรสำคัญจาก เลสเตอร์ ซิตี้ และ แมนฯ ซิตี้ สองทีมที่ใกล้เคียงที่สุดในการลุ้นแชมป์กับ ลิเวอร์พูล เกิดพลาดทำคะแนนหลุดมือไปอีกในช่วงหลายๆ สัปดาห์ที่จะถึงนี้ ขณะที่ "หงส์แดง" ยังเดินหน้าเก็บ 3 แต้มอย่างต่อเนื่อง นั่นยิ่งเป็นการส่งให้ ยอดทีมแห่งถิ่นแอนฟิลด์ คว้าแชมป์ลีกได้เร็วกว่าที่กำหนดเข้าไปอีก

    อีกประเด็นที่น่าสนใจก็คือ ทีมดังจากลุ่มแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ มีโอกาสที่จะทำลายสถิติเก็บคะแนนมากที่สุดในเกมลีกเมืองผู้ดี แซงหน้า แมนฯ ซิตี้ ที่เคยทำได้ 100 แต้มเมื่อ 2 ฤดูกาลก่อนด้วย 

    กระนั้นในเรื่องการทำลายสถิติอาจจะเป็นประเด็นรอง เพราะเป้าหมายสำคัญของทีมก็คือคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ให้ได้เท่านั้น "ใช่ครับ ถ้าเราทำลายสถิติได้มันก็คงดี, สุดยอด แต่เราคงจะมองเรื่องนั้นเมื่อเราได้แชมป์แล้ว" แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายตัวเก่ง กล่าว "เพราะเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เราทำลายสถิติในเรื่องคลีนชีต และจบด้วยมือเปล่าในพรีเมียร์ลีก สถิติไม่สำคัญอะไรเลยนอกจากทีมจะจบซีซั่นตามเป้าหมาย หวังว่าซีซั่นนี้เราจะทำได้"

    ฉะนั้นในตอนนี้มันอาจจะเหมือนการวาดฝันสำหรับเหล่าสาวก "เดอะ ค็อป" ที่อยากเห็นทีมรักเก็บชัยชนะ 10 เกมรวด เพื่อจะได้ยุติแชมป์ลีกที่รอคอยกันมานานแสนนาน ส่วนเรื่องสถิติไร้พ่าย หรือเก็บแต้มสูงสุดถือเป็นแค่โบนัสพิเศษเท่านั้น

    โปรแกรมที่เหลืออยู่ของลิเวอร์พูล

วัน        โปรแกรม
23 ม.ค.        วูล์ฟส์ (เยือน)
29 ม.ค.        เวสต์แฮม (เยือน)
1 ก.พ.        เซาธ์แฮมป์ตัน (เหย้า)
15 ก.พ.        นอริช (เยือน)
24 ก.พ.        เวสต์แฮม (เหย้า)
29 ก.พ.        วัตฟอร์ด (เยือน)
7 มี.ค.        บอร์นมัธ (เหย้า)
14 มี.ค.        เอฟเวอร์ตัน (เยือน)
21 มี.ค.        คริสตัล พาเลซ (เหย้า)
4 เม.ย.        แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)
11 เม.ย.        แอสตัน วิลล่า (เหย้า)
18 เม.ย.        ไบรท์ตัน (เยือน)
25 เม.ย.        เบิร์นลี่ย์ (เหย้า)
2 พ.ค.        อาร์เซน่อล (เยือน)
9 พ.ค.        เชลซี (เหย้า)
17 พ.ค.        นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด (เยือน)

     สโมสรไหนที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก เร็วที่สุด ?

    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นเจ้าของสถิติคว้าแชมป์ลีกได้เร็วสุด โดยพวกเขาผงาดซิวโทรฟี่แชมป์ในฤดูกาล 2000/2001 เมื่อวันที่ 14 เมษายน 2001 โดยยังเหลือโปรแกรมี่ต้องลงแข่งถึง 5 เกมเลยทีเดียว

ฤดูกาล  สโมสร วันที่คว้าแชมป์ โปรแกรมที่เหลือ
2000/2001 แมนฯยูไนเต็ด 14 เม.ย. 2001 5 เกม
2017/2018 แมนฯ ซิตี้  15 เม.ย. 2018 5 เกม
1999/2000  แมนฯ ยูไนเต็ด 22 เม.ย. 2000 4 เกม
2003/2004 อาร์เซน่อล 25 เม.ย. 2004 4 เกม
2012/2013 แมนฯ ยูไนเต็ด 22 เม.ย. 2013 4 เกม
 

     เป๊ป กวาร์ดิโอล่า สามารถนำ แมนฯ ซิตี้ ทำคะแนนแตะ 100 แต้มตอนที่คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2017/2018 โดยมีโปรแกรเหลืออยู่ 5 แมตช์ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้พวกเขาพลาดโอกาสคว้าแชมป์ลีกเร็วที่สุด เนื่องจากโดน แมนฯ ยูไนเต็ด คู่อริร่วมเมืองดับฝันเมื่อ "เรือใบสีฟ้า" แพ้ "ผีแดง" 2-3 ในเกมดาร์บี้แมตช์ช่วงต้นเดือนเมษายน

    อาร์เซน่อล ชุดไร้พ่ายสามารถคว้าแชมป์ลีกได้ทั้งๆ ที่เหลืออยู่ 4 เกม โดยเก็บแต้มได้ 90 คะแนนในซีซั่น 2003/2004 ซึ่ง "เดอะ กันเนอร์ส" กลายเป็นทีมแรก และทีมเดียวที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีโดยที่สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็นแม้แต่เกมเดียว