1.ข่าวดีผีแดง
อาจจะไม่ได้เกี่ยวกับเกมข้องกับเกมนี้โดยตรงแต่การแถลงข่าวก่อนนัดนี้ โซลชา มาอัพเดทนักเตะที่บาดเจ็บแต่ละคนให้ฟังกัน โดยในรายของ ปอล ป็อกบา ที่เจ็บไปนานนั้นเตรียมจะลงซ้อมเต็มรูปแบบในสัปดาห์หน้าแล้ว ด้าน มาร์คัส แรชฟอร์ด ในตอนแรกคาดว่าจะพักยาวจนอาจชวดฟุตบอลยูโร 2020 แต่เมื่อวานนี้เจ้าตัวถูกจับภาพเดินทางมาศูนย์ฝึกแคร์ริงตันด้วยการขับรถมาเอง โซลชา ก็ให้สัมภาษณ์ว่า ยังต้องการให้แรชฟอร์ดพักเต็มที่และในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าอาจจะได้เห็นกลับมาลงสนามอีกครั้ง

ขณะที่ แดเนียล เจมส์ ยังคงพลาดลงสนามต่อเนื่องมาจากสุดสัปดาห์ ส่วน อารอน วาน-บิสซาก้า มีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยทำให้คืนนี้คาดว่าจะอดลงเล่น ปิดท้ายกันด้วยข่าวดีเมื่อสองกองหลังอย่าง อั๊กเซล ตวนเซเบ้ และทิโมธี โฟซู-เมนซาห์ กลับมาเป็นตัวเลือกในแนวรับแล้วหลังจากทั้งคู่เพิ่งจะลงสนามเรียกความฟิตกับทีมเยาวชน รุ่นอายุ 23 ปีเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

2.บทพิสูจน์เมื่อไร้แฟนันด์ส
ตั้งแต่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส มาร่วมทัพปีศาจแดง เขาก็ลงสนามไปทั้งหมด 5 นัดทำ 3 ประตูกับอีก 2 แอสซิสต์ กลายเป็นกำลังหลักสำคัญในแนวรุกของทีม หากเกมไหนขาดเขาไปก็แทบจะเล่นไม่ออกยกตัวอย่างเช่นนัดเยือน คลับ บรูช ซึ่งทำได้แค่เสมอ 1-1 แถมเกมนั้น บรูโน่ ลงมาในช่วงท้ายเกมก็แทบจะเปลี่ยนผีแดงเป็นคนละทีมเลยก็ว่าได้ ยังไม่นับรวมถึงก่อนหน้าที่เขาจะย้ายเข้ามาร่วมทีม เกมรุก ปีศาจแดง จืดสนิทมาตลอด

คืนนี้คาดว่า โซลชา จะพักผู้เล่นตัวหลักหลายรายซึ่งน่าจะรวมถึง บรูโน่ ด้วยและนักเตะอย่าง ฆวน มาต้า, เจสซี่ ลินการ์ด หรือ อันเดรียส เปเรยร่า อาจจะได้รับโอกาสกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง น่าสนใจว่าในเกมที่ไร้ แฟร์นันด์ส ลงสนามเกมรุกจะเป็นอย่างไร เหล่าตัวสำรองก็ตองพิสูจน์ตัวเองให้เห็นว่าพวกเขายังมีดีไม่แพ้ตัวจริง

3.เสี่ยหมูท้าดวลทีมรัก
 แน่นอนว่าประเด็นที่คนจับตามองมากที่สุดในเกมนี้คงหนีไม่พ้นการที่ผีแดงต้องโคจรมาพบกับตำนานของพวกเขาอย่าง เวย์น รูนีย์ ซึ่งเจ้าตัวย้ายมาร่วมทัพ ดาร์บี้ เคาน์ตี้ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเนื่องจากหมดสัญญากับทาง ดีซี ยูไนเต็ด พร้อมกับมารับบทเป็นทั้งนักเตะและสตาฟฟ์โค้ชของทัพ "แกะเขาเหล็ก" ด้วย โดยตอนนี้เจ้าของดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของแมนฯยูไนเต็ดยิงประตูให้กับดาร์บี้ไปแล้ว 4 ประตู กับ 3 แอสซิสต์จากการลงเล่น 14 นัด

ก่อนเกมนี้ รูนีย์ ก็ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมรักแมนฯ ยูไนเต็ด ในขณะเดียวกัน ผมก็อยากเอาชนะพวกเขาให้ได้ ในฐานะผู้เล่นดาร์บี้ เคาน์ตี้ ไม่ว่าจะเล่น 90 หรือ 120 นาที ผมก็อยากให้ทีมของผมเข้ารอบต่อไป ผมคิดว่าทีมของผมก็มีโอกาสไม่น้อยที่จะเป็นฝ่ายชนะ เพราะตอนนี้ยูไนเต็ดไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด มันเป็นความรู้สึกที่แปลกเมื่อต้องเจอกับทีมเก่า มันจะเป็นเกมที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้นสำหรับทุกคน”

4.ฟอร์มแกะเขาเหล็ก
ปัจจุบันดาร์บี้อยู่ในอันดับที่ 13 ของลีกแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งหากจะลุ้นเลื่อนชั้นขึ้นมาพรีเมียร์ลีกก็ถือว่าทรหดทีเดียวเพราะห่างจากอันดับที่ 6 ซึ่งเป็นตั๋วสุดท้ายในการเข้ารอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น อยู่ถึง 8 แต้มด้วยกัน แม้พวกเขาจะทำผลงานได้ดีในช่วงคริสต์มาสทว่าพอเข้ามาสู่ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พวกเขาชนะแค่นัดเดียวจาก 5 นัดหลังสุด ซึ่งชัยชนะนั้นเกิดขึ้นในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เอง (ชนะ เชฟฯ เวนส์เดย์ 3-1) ทำให้ตอนนี้ "แกะเขาเหล็ก" มีสถิติชนะ 12 เสมอ 12 แพ้ 12 ในลีกซีซั่นนี้

ส่วนในถ้วยเอฟเอ คัพนั้น ในรอบ 3 พวกเขาสามารถบุกปราบทีมจากพรีเมียร์ลีกอย่าง คริส ตัลพาเลซ 1-0 ขณะที่ในรอบ 4 อาจจะต้องเหนื่อยหน่อยเพราะนัดแรกบุกเสมอกับ นอร์ทแธมป์ตัน 0-0 ก่อนจะกลับมาชนะในบ้านตัวเอง 4-2 ซึ่งเกมนั้น เวย์น รูนีย์ ยิงหนึ่งประตูจากจุดโทษด้วย

5.ผีช้ำเกมล่าสุด
สถิติการเจอกันในถ้วยเอฟเอ คัพนั้นเป็น แมนฯยูไนเต็ด ที่กินขาดอยู่ฝ่ายเดียวเนื่องจากชนะ ดาร์บี้ ทั้ง 8 เกมที่เจอกัน ทว่าดาร์บี้ก็เคยมีสถิติชนะผีแดงด้วยในเอฟเอ คัพฤดูกาล 1896-97 แต่ตอนนั้น แมนฯยูไนเต็ด ยังใช้ชื่อ "นิวตัน ฮีท" อยู่เลย ส่วนเกมล่าสุดที่เจอกันในถ้วยนี้คือปี 2018 โดย ผีแดง เอาชนะไปได้ 2-0 จาก เจสซี่ ลินการ์ด และโรเมลู ลูกากู

อย่างไรก็ตามถ้าถามถึงเกมล่าสุดที่เจอกันในทุกรายการนั้นเกิดขึ้นในถ้วยคาราบาว คัพปี 2018 แมนฯยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ มูรินโญ่ เสมอกับ ดาร์บี้ ที่ตอนนั้น แฟรงค์ แลมพาร์ด กำลังคุมทัพอยู่ 2-2 จนต้องไปดวลจุดโทษกัน และกลายเป็นดาร์บี้ที่แม่นกว่าเขี่ยปีศาจแดงตกรอบไปแบบสุดช้ำ