ศึกพรีเมียร์ลีกคู่ปิดท้ายวันอาทิตย์เป็นศึกบิ๊กแมตช์ที่ห้ามพลาดเป็นอันขาดเมื่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเปิดรัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของเพื่อนร่วมเมืองอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งนี่เป็นการปะทะกันครั้งที่ 4 ของฤดูกาลนี้แล้วแต่ยังเดือดทุกครั้งเมื่อเจอกัน ดังนั้นก่อนเกมเรามาลั่นกลองรบกันด้วยประเด็นน่ารู้กันเลย

1."แม็กไกวร์" หายทัน?

        กองเชียร์ "ปีศาจแดง" คงมีเสียวกันยกใหญ่เมื่อมีข่าวก่อนเกมนี้ว่ากัปตันทีม แฮร์รี่ แม็กไกวร์ มีปัญหาบาดเจ็บที่ข้อเท้าและอาจพลาดลงสนามในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ โดยเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โซลชา ตั้งใจจะใช้งานเขาในเกมพบ ดาร์บี้ แต่เพราะด้วยอาการบาดเจ็บนี้ทำให้ชวดลงสนาม ช่วงหลังมานี้ แมนฯยูไนเต็ด มีสถิติเกมรับที่แข็งแกร่งมากโดยเก็บคลีนชีทถึง 7 นัดจาก 9 เกมในทุกรายการ ส่วนหนึ่งต้องชม แม็กไกวร์ ที่เล่นได้อย่างท็อปฟอร์มมากและแทบจะลงสนามทุกนัดไม่ว่าจะเป็นบอลถ้วยหรือบอลลีก

        นอกจาก แม็กไกวร์ ที่แฟนผีต้องลุ้นให้ลงสนามแล้วยังมีอีกสองนักเตะที่มีอาการบาดเจ็บก่อนเกมเหมือนกันนั่นคือ แดเนียล เจมส์ และอารอน วาน-บิสซาก้า โดย โซลชา มาอัพเดทว่าทั้งคู่พลาดลงซ้อมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาและยังไม่แน่ใจว่าจะหายทันหรือไม่

2.เช็คฟิต "เดอ บรอยน์"

        ฝั่ง แมนฯซิตี้ ก็ต้องลุ้นนักเตะให้ฟิตไม่แพ้กันเนื่องจาก เควิน เดอ บรอยน์ จอมทัพคนเก่งมีปัญหาอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่จากเกม คาราบาว คัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่ต้นสังกัดเบียดเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แน่นอนว่าหากขาดจอมทัพคนนี้ไปความอันตรายของ แมนฯซิตี้ จะลดลงไปพอสมควร เห็นได้จากที่ เดอ บรอยน์ ทำแอสซิสต์ไปแล้วถึง 17 ครั้งในเกมลีก

        หากเขาลงสนามไม่ได้ยังมีตัวเลือกอย่าง ดาบิด ซิลบา กองกลางมากประสบการณ์ของทีมรวมถึง ฟิล โฟเด้น ที่ทำผลงานดีในเกมนัดชิง คาราบาว คัพ ที่ผ่านมาด้วย  อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าสนใจคือหาก เดอ บรอยน์ ลงสนามได้แต่ไม่ฟิตเต็มร้อย เป๊ป จะเสี่ยงเข็นลงสนามหรือไม่เพราะพวกเขายังมีเกมสำคัญในการดวล เรอัล มาดริด ในวันอังคารนี้

3.กุนลุ้นทำสถิติ

        เซร์คิโอ อเกวโร่ มีลุ้นทำลายสถิติของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ในคืนนี้ โดยตำนานกองกลางลิเวอร์พูลบุกมายิงที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ได้ 5 ประตูในพรีเมียร์ลีก ขณะที่ดาวเตะอาร์เจนไตน์ ทำได้ 4 ประตู นั่นหมายความว่าหาก "กุน" ยิงสองประตูจะเป็นนักเตะที่ยิงในรังปีศาจแดงมากที่สุดในทันที นอกจากนี้ อเกวโร่ มีโอกาสทำสถิติเป็นนักเตะที่ยิงได้มากที่สุดในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ อีกด้วย โดยตอนนี้เขาทำไปทั้งหมด 9 ประตูเป็นรองแค่ เวย์น รูนี่ย์ (11), โจ เฮย์ส (10) และ ฟรานซิส ลี (10) เท่านั้น

4.กองหน้าอิกาโล่หรือมาร์กซิยาล?

        เป็นคำถามที่น่าสนใจว่าตอนนี้ใครสมควรจะได้เล่นเป็นกองหน้ามากกว่ากัน ทั้งสองนักเตะมีสไตล์การเล่นที่แตกต่างกัน ในรายของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล นั้นช่วงหลังจากพักเบรกหนีหนาวมาเจ้าตัวก็กลับมาคืนฟอร์มเก่งอีกครั้งด้วยการซัดประตู 3 นัดติดต่อกัน แต่ทว่าด้วยสไตล์การเล่นที่เน้นใช้ความเร็วและเทคนิคการจบสกอร์ ไม่ใช่กองหน้าประเภทรอยิงในเขตโทษ บางครั้งจึงใช้จังหวะมากเกินไปจนแฟนผีหงุดหงิด

        ขณะที่ อิกาโล่ เพิ่งโชว์ฟอร์มเก่งมาในกลางสัปดาห์ทำให้ตอนนี้เขาลงตัวจริง 2 นัดซัดไป 3 ประตูแล้ว ไม่แปลกใจที่แฟนผีแดงจะเชียร์ให้เขาลงเล่นเป็นตัวจริงเนื่องจากเป็นกองหน้าธรรมชาติที่มักจะรอบอลอยู่ในกรอบเขตโทษโดยอาศัยบังบอลและพลิกบอลเข้าไปยิง น่าสนใจว่า โซลชา จะเลือกใช้ อิกาโล่ เป็นตัวจริงในเกมใหญ่แบบนี้หรือไม่ แต่ก็ไม่แน่เหมือนกันว่าเราอาจจะได้ทั้งสองลงเล่นพร้อมกันเลยโดยให้ อิกาโล่ ลงเป็นกองหน้าส่วน มาร์กซิยาล เปลี่ยนมาเล่นริมเส้นฝั่งซ้ายเนื่องจาก แดเนียล เจมส์ อาจพลาดลงสนาม

5.ใครเล่นในรังตายเรียบ

        ศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้นั้นมีสถิติแปลกๆในช่วงหลังเพราะใครเล่นเป็นเจ้าบ้านมักจะเป็นฝ่ายปราชัยเป็นส่วนใหญ่ โดย 4 ครั้งสุดที่ แมนฯซิตี้ เล่นใน เอติฮัด สเตเดี้ยม พวกเขาพ่ายแพ้ให้ แมนฯยูไนเต็ด ไปถึง 3 ครั้ง ซึ่ง 2 ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในฤดูกาลนี้

        ขณะที่ แมนฯยูไนเต็ด พ่ายแพ้คา โอลด์ แทรฟฟอร์ด ใน 3 ครั้งหลังสุดที่เจอกันในทุกรายการ ครั้งสุดท้ายที่ผีแดงแพ้คาบ้าน 4 นัดติดต่อกันต้องย้อนกลับไปไกลถึงช่วงเดือนมกราคมปี 1926 ถึง กุมภาพันธ์ปี 1931