ถือเป็นชัยชนะที่สำคัญมากๆ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากที่พวกเขาเปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 2-0 ในเกม พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคม ที่ผ่านมาได้ เพราะนอกจากมันจะเป็นเกมแห่งศักดิ์ศรีแล้วนั้น มันยังทำให้พวกเขามีลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์เพื่อคว้าสิทธิ์เล่นศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้าต่อไปด้วย ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" การแพ้ครั้งนี้ก็ทำให้ ลิเวอร์พูล เข้าใกล้กับการได้แชมป์ลีกมากขึ้น
    ทั้งนี้ มันมีเกร็ดและสถิติหลายอย่างที่น่าสนใจจากเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ฉบับเกมลีกสูงสุด (นับรวมทั้งสมัยที่ชื่อ ดิวิชั่น 1 และ พรีเมียร์ลีก) ครั้งที่ 150 โดยหนึ่งในนั้นเป็นสถิติที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนแม้กระทั่งในยุคของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานผู้จัดการทีมของ แมนฯ ยูไนเต็ด ด้วย จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

    - แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ในเกมลีกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2015

    - นับตั้งแต่ที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไปแล้วนั้น นี่ถือเป็นครั้งแรกที่ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเอาชนะ แมนฯ ซิตี้ ในลีกทั้งนัดเหย้าและนัดเยือนในซีซั่นเดียวกันได้ โดยหนสุดท้ายก่อนหน้านี้ที่พวกเขาทำอย่างนี้ได้เกิดขึ้นในฤดูกาล 2009-10

    - แมนฯ ยูไนเต็ด ยังสามารถชนะทั้ง เชลซี และ แมนฯ ซิตี้ ในลีกแบบไปกลับในซีซั่นเดียวกันได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 1960-61 ด้วย นั่นหมายความว่าแม้แต่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยุคของ เฟอร์กูสัน ก็ไม่เคยทำแบบนี้ได้มาก่อน

    - แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่แพ้ใครในทุกรายการมา 10 นัดติดต่อกันแล้ว (แบ่งเป็นชนะ 7 เกม เสมอ 3 นัด) ทำให้นี่เป็นการไร้พ่ายในทุกรายการติดต่อกันยาวนานที่สุดของพวกเขานับตั้งแต่ที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เคยพา "ปีศาจแดง" ไม่แพ้ใครในช่วง 11 เกมแรกที่เขาอยู่ในตำแหน่ง โดยช่วงเวลาดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างเดือนธันวาคม ปี 2018 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2019

    - ถ้านับเฉพาะตั้งแต่ที่ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ประเดิมสนามใน พรีเมียร์ลีก กับ แมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมาแล้วนั้น ดาวเตะชาวโปรตุกีสก็ถือเป็นนักเตะที่มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง (หมายถึงการยิงเองและทำแอสซิสต์) มากที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก ที่จำนวน 5 ครั้ง แบ่งเป็น 2 ประตู กับ 3 แอสซิสต์

    - อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เป็นนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด คนแรกนับตั้งแต่ฤดูกาล 2006-07 ที่สามารถทำประตูใส่ แมนฯ ซิตี้ ในเกมลีกทั้งนัดเหย้าและนัดเยือนของซีซั่นเดียวกันได้ โดยคนสุดท้ายก่อนหน้าเขาที่ทำอย่างนั้นได้คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้

    - นี่ถือเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกันที่ มาร์กซิยาล ทำประตูในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ในฉบับเกม พรีเมียร์ลีก ได้ด้วย ทำให้เขาเป็นนักเตะคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำประตูในเกม แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ฉบับเกมลีกได้อย่างน้อย 3 นัดติด โดยคนแรกคือ เอริก คันโตน่า ซึ่งเคยยิงในเกมลีกของศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ได้ถึง 5 นัดติดต่อกัน ระหว่างช่วงเดือนมีนาคม 1993 ถึงเดือนเมษายน 1996

    - นี่นับเป็นการแพ้ในลีกนัดที่ 7 ของ โจเซป กวาร์ดิโอล่า ประจำฤดูกาลนี้ ทำให้มันเป็นซีซั่นที่เขาแพ้ในลีกเยอะที่สุดตลอดอาชีพการคุมทีมของเจ้าตัว

    - นอกจากนี้ นี่ยังเป็นครั้งที่ 2 ในอาชีพการคุมทีมของ กวาร์ดิโอล่า ที่เขาแพ้ให้ทีมเดิมถึง 3 นัดในซีซั่นเดียวกันหากนับรวมทุกรายการด้วย โดยหนแรกเป็นกับ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาล 2017-18

    - ในครึ่งแรกของเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ มีโอกาสทำประตูแค่ 1 หน ทำให้มันเป็นเกมลีกที่พวกเขามีโอกาสยิงในครึ่งแรกน้อยที่สุด นับตั้งแต่เกมกับ ลิเวอร์พูล เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2018

    - ตลอดทั้งเกมนี้ แมนฯ ซิตี้ มีค่าเฉลี่ยของลูกยิงที่ดูมีโอกาสเป็นประตูสูง (หมายถึงลูกยิงที่ดูแล้วควรจะเข้าประตูเมื่อพิจารณาจากตำแหน่งที่ยิง, ทิศทางการพุ่งของลูกบอล ฯลฯ) อยู่ที่ 0.62 โดยมันถือเป็นเกมที่พวกเขามีค่าเฉลี่ยด้านนี้น้อยที่สุดนับตั้งแต่ที่เคยทำได้ 0.52 เมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี 2019 ซึ่งวันนั้นคู่แข่งของพวกเขาก็คือ แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนกัน

    - ราฮีม สเตอร์ลิง กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดอันดับ 4 ที่ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก แตะหลัก 250 เกม ต่อจาก เวย์น รูนี่ย์, เจมส์ มิลเนอร์ และ แกเร็ธ แบร์รี่ ตามลำดับ ด้วยวัย 25 ปี กับอีก 91 วัน