"อันซู ฟาติ" ปีกอนาคตไกลของ บาร์เซโลน่า สร้างชื่อเสียงเป็นอย่างมากในฤดูกาลนี้ เขากลายเป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น ไม่แปลกใจที่จะเป็นที่จับตามองของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ทั่วยุโรป สัปดาห์ที่ผ่านมาก็มีข่าวลือว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ยื่นข้อเสนอเงินจำนวนถึง 100 ล้านยูโรเพื่อขอซื้อตัว ฟาติ ทว่าโดน บาร์เซโลน่า ปฏิเสธเรียบร้อย เด็กคนนี้มีของดีอะไรทำไมถึงมีมูลค่ามากขนาดนี้?

ประวัติ “อันซู ฟาติ”

สโมสร: บาร์เซโลน่า

ลงเล่นในลาลีกา: 16 นัด

ตัวจริงในลาลีกา: 7 นัด

นาทีลงเล่น: 683 นาที

ประตูในลาลีกา: 4 ลูก

    เมื่อไม่นามานี้ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ตำนาน “หงส์แดง” ถามคำถาม เกรแฮม ฮันเตอร์ กูรูชื่อดังในรายการ “เดอะ ฟุตบอล โชว์” ว่าใครจะเป็นซุปเปอร์สตาร์คนต่อของทีมบาร์เซโลน่า ซึ่งคำตอบที่เขาพูดแบบไม่ลังเลเลยคือ...อันซู ฟาติ

    “เมื่อคุณดู ฟาติ คุณจะเห็นความเร็ว, ความสามารถ และความเด็ดขาดจากทั้งสองเท้าของเขา เมื่ออยู่ในช่วงเวลาสำคัญบางคนจะมีความกระวนกระวายแต่สำหรับฟาติ เขามีความนิ่ง เขาเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูให้บาร์ซ่า, นักเตะอายุน้อยที่สุดที่ยิงประตูใน ชปล.”

    “วิธีที่เขาเติบโตและทัศนคติของเขาที่มีต่อการก้าวเป็นดาวรุ่งระดับท็อปอย่างรวดเร็วจะเป็นตัวกำหนดว่าเขาจะกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่มีชื่อเสียงของฟุตบอลยุโรปในอีก 8-10 ปีข้างหน้าหรือไม่”

กว่าจะเป็นฟาติ

    ปาโบล บลันโก้ ผู้อำนวยการอะคาเดมี่ของเซบีย่าดึง ฟาติ ในวัยแค่ 8 ปีเข้ามาที่สโมสรและโค้ชคนแรกของ ฟาตื ที่ชื่อว่า โฆเซ่ หลุยส์ เปเรซ มีน่า ก็รู้เลยว่าเด็กคนนี้มีความพิเศษตั้งแต่ครั้งแรกที่เขาเห็น ฟาติ ลงเล่น

    “ที่กินีเขาเคยเล่นบอลที่ทำด้วยเศษผ้า แต่เมื่อเขาลองเล่นบอลจริงๆครั้งแรกมันน่ามหัศจรรย์ที่ได้มองเขา ผมอยู่ในวงการฟุตบอลมา 50 ปี แต่ผมยังไม่เคยเห็นใครเหมือนกับเขา เขามีเอกลักษณ์ของตัวเอง เขาไม่กลัวใครและคุณเพียงแค่ต้องเห็นเขาในสนาม”

    ใช้เวลาไม่นานก็มีหลายสโมสรยอมจ่ายเงินเพื่อเข้ามาชมฟอร์มของฟาติ ซึ่งนั่นทำให้เขาขยับถิ่นฐานไปอยู่คัมป์ นู ในอีกสองปีถัดมาหรือปี 2019 ถึงแม้ว่า เรอัล มาดริด จะสนใจด้วยก็ตาม

    ช่วงเวลาวัย 9 ปีนี่แหละที่เขาได้ประสานงานกับดาวรุ่งที่น่าจับตามองอีกหนึ่งคนในวงการฟุตบอลนั่นคือ ทาเคฟูซะ คุโบะ ในชุดยู 12 ทั้งสองยิงรวมกันถึง 130 ในฤดูกาลแรก พัฒนาการของฟาติเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมากเมื่อมองจากอุปสรรคต่างๆที่เขาเจอใน 3 ปีถัดมาซึ่งถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการพัฒนาของแข้งวัยหนุ่ม

    บาร์เซโลน่า โดนโทษแบนไม่ให้เซ็นสัญญานักเตะต่างชาติในช่วงฤดูกาล 2014/15 และ 2015/16 หลังจดทะเบียนเซ็นสัญญานักเตะอายุน้อยกว่า 18 ปีถึง 10 คนเข้าสโมสรซึ่งถือเป็นความผิดที่มีมาตั้งแต่ปี 2009 จนถึงปี 2013

    คุโบะถูกบีบให้ออกจากสโมสรและกลับโตเกียว และต่อมาเขาก็ย้ายร่วมทัพ เรอัล มาดริด ก่อนปัจจุบันจะถูกส่งไปเก็บประสบการณ์กับทีมเรอัล มายอร์ก้า

    ทั้งคู่ยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ฟาติยังคงอยู่กับสโมสรและขยับขึ้นไปลงเล่นให้กับทีมบาร์เซโลน่าชุดยู 18 ในฤดูกาล 2016/17 และเขาถูกดันขึ้นมาชุดยู 19 อย่างรวดเร็วแถมยังกลายเป็นดาวซัลโวของทีมในฤดูกาล 2018/19 อีกด้วย

    หลังจากโชว์ฟอร์มโดดเด่นในช่วงปรีซีซั่นเมื่อซัมเมอร์ที่แล้ว เขาก็มีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมาในยุโรปทันที และฤดูกาลนี้เขาก็ก้าวกระโดมาเป็นส่วนหนึ่งของบาร์ซ่าทีมชุดใหญ่

ตำแหน่งการส่องประตูของอัน ซูฟาติในฤดูกาล 2019/20 (รูปดาว=เป็นประตู,วงกลม=ไม่เป็นประตู)

    อาการบาดเจ็บของ ลีโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ และอุสมาน เดมเบเล่ ทำให้ อันซู ฟาติ ในวัย 16 ปี 11 เดือน และ 25 วันกลายเป็นแข้งบาร์ซ่าที่อายุน้อยที่สุดเป็นอันดับที่สองที่ลงสนาม ซึ่งเขาลงมาเกมที่สองของซีซั่นนั่นคือช่วง 15 นาทีสุดท้ายของนัดถล่ม เรอัล เบติส 5-2

    สัปดาห์ต่อมา เขากลายเป็นแข้งบาร์เซโลน่าอายุน้อยที่สุดที่ทำประตูในลาลีกาเมื่อเขาซัดตีเสมอที่โอซาซูน่าในวัย 16 ปีกับอีก 304 วัน

ตัวอย่างความล้มเหลวมีเห็นได้ชัด!

    บาร์เซโลน่า คงต้องประคบประหงม อันซู ฟาติ ให้ดีเหมือนกับที่พวกเขาเคยปั้นนักเตะต่างๆมากมายและสิ่งที่พวกเขาควรจะทำต่อมาคือการล็อกตำแหน่งของ ฟาติ แม้ว่าเจ้าตัวจะเล่นได้หลากหลายก็ตาม

    “ศักยภาพสุดเจ๋งของเขาคือเขาสามารถลงเล่นได้ทุกตำแหน่งในแนวรุก เขาสามารถเล่นได้ในตำแหน่งเบอร์ 9, 11, 7 หรือ 10 เขามีความหลากหลาย นั่นเป็นสิ่งที่เขาแตกต่างจากคนอื่น เขามีความเร็วและมีจินตนาการที่ล้ำเลิศ” อัลเบิร์ต พุก อดีตผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ “ลา มาเซีย”

    “เขาเหมือนกับเมสซี่ในวัยเด็ก แม้ว่าเมสซี่จะมีข้อแตกต่างที่ชัดเจนก็ตาม พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มคนนี้ช่วยให้เขากลายเป็นนักเตะที่เขาควรจะเป็น”

    มีนักเตะหนุ่มหลายคนที่ไม่สามารถก้าวขึ้นมาสานต่อจากเมสซี่ ไม่ว่าจะเป็น โบยาน เกร์กิช, เคราร์ด โมเรโน่, มาร์ก มูเนียซ่า หรืออดาม่า ตราโอเร่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เดินออกจากสโมสรแม้ว่าในช่วงแรกจะถือว่าน่าจับตามองก็ตาม

    กีเก้ เซเตียน คงจะโฟกัสกับการป้องกันแชมป์ของบาร์เซโลน่าและการคว้าถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2015 แต่เขาก็ต้องไม่ลืมการให้โอกาสแข้งหนุ่มคนนี้ซึ่งก็สำคัญไม่แพ้กันไม่อย่างนั้น ฟาติ อาจจะต้องลาสโมสรเพื่อโอกาสลงเล่นมากขึ้น

    หลุยส์ ซัวเรซ จะกลับมาลงเล่นหลังรีสตาร์ทลาลีกา ขณะที่ เดมเบเล่ ยังคงต้องพักฟื้นจากการผ่าตัดแฮมสตริง แม้ว่า ฟาติ จะถือว่าโชคดีอยู่เหมือนกันเนื่องจากแข้งรุ่นพี่ได้รับบาดเจ็บ แต่เชื่ออีกไม่นานเขาก็มีโอกาสที่จะไปยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับนักเตะที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น