ลิเวอร์พูล กำลังเตรียมที่จะพบกับช่วงเวลาที่แสนสำคัญในช่วงท้ายฤดูกาล 2019/2020 เพราะนั่นคือการสร้างประวัติศาสตร์ของ "หงส์แดง" ในการผงาดคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดีสมัยแรก หลังจากที่เฝ้ารอคอยมานานแสนนานถึง 3 ทศวรรษเลยทีเดียว
    หลังจากต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันเนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เกมพรีเมียร์ลีก ต้องหยุดพักชั่วคราว แต่ตอนนี้สถานการณ์ต่างๆ ค่อยๆ คลี่คลายทำให้รัฐบาลอังกฤษ ตัดสินใจคลายล็อกดาวน์ และให้ฟุตบอลกลับมาแข่งกันต่อได้โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายนนี้เป็นต้นไป แต่จะแข่งแบบปิดสนามเท่านั้น

    สำหรับตอนนี้ "หงส์แดง" ต้องการชัยชนะอีกแค่ 2 แมตช์จาก 9 เกมที่เหลืออยู่ก็จะเพียงพอที่จะทำให้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกอย่างเป็นทางการ งานนี้หาก ลิเวอร์พูล สามารถคว้าแชมป์ได้เร็ว มีความเป็นไปได้ที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะให้โอกาสผู้เล่นสำรอง และนักเตะดาวรุ่งได้ลับฝีเท้าเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์สำหรับนำไปใช้ในฤดูกาลใหม่

    ฉะนั้นหาก คล็อปป์ เลือกที่จะโรเตชั่นขุมกำลังที่มีอยู่ งานนี้ต้องมาดูว่านักเตะคนไหนที่มีโอกาสที่จะระเบิดฟอร์มเข้าตากุนซือเลือดด๊อยท์ช และอาจได้รับการพิจารณาเป็นแข้งหลักในซีซั่น 2020/2021

1. ทาคูมิ มินามิโนะ

    สตาร์จอมทัพทีมชาติญี่ปุ่น ย้ายมาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา พร้อมกับความคาดหวังจากสาวก "เดอะ ค็อป" พอสมควร แต่ดูเหมือนว่านักเตะยังไม่สามารถงัดฟอร์มเก่งเหมือนที่เจ้าตัวแสดงให้เห็นตอนเล่นกับ เร้ดบูลล์ส ซัลซ์บวร์ก

    จากผลงานของนักเตะที่มีโอกาสได้ลงสนามในช่วงก่อนเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสมรณะ แสดงให้เห็นว่า มินามิโนะ ต้องเจอกับความยากลำบากในการปรับตัวกับการเล่นเกมเร็ว และดุดันในพรีเมียร์ลีก ทำให้เขาไม่สามารถโชว์ทักษะชั้นยอดออกมาได้เลย

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอร์มของ มินามิโนะ ในเกมพบ ชรูว์สบิวรี่ ทีมระดับ ลีก ทู ในศึกเอฟเอ คัพ ต้องยอมรับว่ายังไม่โดนใจแฟน "หงส์แดง" มากนัก กระนั้นอย่าลืมว่า ดาวเตะแดนซามูไร เป็นผู้เล่นที่มีทักษะและพรสวรรค์สูง ซึ่งเขาแสดงให้เห็นมาแล้วกับการเล่นให้ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก

    อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่พักเบรก ทำให้ มินามิโนะ มีโอกาสได้ปรับตัว และวางแผนเกี่ยวกับการเล่นของตัวเองเพื่อให้เข้ากับแท็คติกของทีม โดยหากทีมคว้าแชมป์ได้เร็ว แน่นอนว่า คล็อปป์ คงจะพัก 3 แนวรุกหลัก และนี่จะเป็นโอกาสที่ ดาวเตะแดนซามูไร จะได้โชว์ศักยภาพที่แท้จริงของเขาเพื่อให้ "บอส" ได้เห็นเต็มสองตา

2. เคอร์ติส โจนส์

    โจนส์ สวมบทฮีโร่ในเกมเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้แมตช์ ฉบับ เอฟเอ คัพ หลังจากซัดประตูสุดสวยเขี่ย เอฟเวอร์ตัน ร่วงตกรอบ และนั่นทำให้เขาได้รับโอกาสจาก คล็อปป์ ให้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในเกมชุดใหญ่ สำหรับเกมฟุตบอลถ้วยน็อกเอาต์เมืองผู้ดีในซีซั่นนี้

    จากการที่ อดัม ลัลลาน่า เตรียมที่จะโบกมือลาถิ่นแอนฟิลด์ ในช่วงซัมเมอรืนี้ และ เซอร์ดาน ชากีรี่ ก็มีความเป็นไปได้ที่จะเจริญรอยตาม "ลัลล้า" นั่นหมายความว่า โจนส์ มีโอกาสสูงมากที่จะได้ลงเล่นในเกมลีกช่วงหลายๆ สัปดาห์ที่กำลังจะมาถึงนี้

    แน่นอนว่า โจนส์ ได้รับการหนุนหลังจากสาวก "เดอะ ค็อป" อย่างล้นหลาม หลังจากที่เขาตะบันประตูงามหยดชดช้อยในเกมบด "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" ที่สำคัญเขายังทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในการเล่นเกม เอฟเอ คัพ นั่นทำให้ คล็อปป์ มักจะให้โอกาสนักเตะท้องถิ่นรายนี้ได้พัฒนาฝีเท้าอย่างต่อเนื่อง

    ฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในซีซั่นนี้ โจนส์ จึงถูกส่งไปเล่นให้กับทัพ "หงส์แดง" ในเกมลีกบางแมตช์ และแน่นอนว่าเขาคงจะได้รับโอกาสมากยิ่งขึ้น เพราะ คล็อปป์ มองว่านักเตะรายนี้จะเป็นกำลังสำคัญในอนาคตของ ลิเวอร์พูล 
   
 3. ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์

    หนึ่งในนักเตะดาวรุ่งที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเป็นสว่างให้กับทีมพลังหนุ่มของลิเวอร์พูล ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยเมืองผู้ดีไม่ว่าจะเอฟเอ คัพ หรือ คาราบาว คัพ ในฤดูกาลนี้ นั่นก็คือ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ มิดฟิลด์ร่างเล็กที่อายุเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น

    หากสาวก "เดอะ ค็อป" จำกันได้ เอลเลียตต์ เพิ่งจะย้ายมาทำงานภายใต้การอบรมสั่งสอนของ คล็อปป์ เพียงไม่ถึงปีเท่านั้น แต่เขาได้รับโอกาสเยอะมากจาก "บอส" โดยเฉพาะในเกมฟุตบอลถ้วยในประเทศอังกฤษ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้เจ้านายต้องผิดหวัง

    อดีตมิดฟิลด์ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแล่ม ต้องผ่านประสบการณ์กดดันอย่างหนักมาแล้ว ดังนั้นหาก ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกได้เร็วกว่าที่กำหนด งานนี้ในช่วงท้ายฤดูกาลนี้น่าจะเป็นอะไรที่เพอร์เฟกต์สำหรับการเพิ่มประสบกาณ์ของเจ้าตัวในการเล่นเกมลีกสูงสุด

    นีล คริตชลี่ย์ อดีตโค้ชรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปีของ ลิเวอร์พูล เคยกล่าวถึง เอลเลียตต์ ว่าเป็นนักเตะที่มีศักยภาพสูง และอีกไม่นานจะได้มีบทบาทสำคัญให้กับทีมชุดใหญ่ในอนาคต ฉะนั้นในช่วงท้ายซีซั่นนี้ คล็อปป์ น่าจะให้โอกาสนักเตะได้ฉายแสงอัจฉริยะออกมาเพื่อโอกาสที่จะพัฒนาฝีเท้ามากยิ่งขึ้น
   
4. เซอร์ดาน ชากีรี่

    เซอรืดาน ชากีรี่ ต้องเจอกับสถานการณ์ยากลำบากเนื่องจากมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนมาตลอดในฤดูกาลนี้ ทำให้โอกาสลงสนามของเขาค่อนข้างจำกัด และงานนี้ดูเหมือนว่านักเตะอาจจะหมดเวลาในถิ่นแอนฟิลด์ และเตรียมย้ายทีมในช่วงซัมเมอร์นี้

    กระนั้นถ้า ดาวเตะชาวสวิตเซอร์แลนด์ ยังคิดเกี่ยวกับความพยายามในการสร้างความเชื่อมั่นเพื่อให้ คล็อปป์ ไว้วางใจ ตอนนี้เป็นโอกาสดีของเขาแล้ว เพราะหามองถึงความสามารถของ ชากีรี่ ถือว่ายังมีประโยชน์กับทัพ "หงส์แดง" โดยเฉพาะหากจำกันได้ในเกมพบ บาร์เซโลน่า รอบรองชนะเลิศ นัด 2 เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา เขามีส่วนสำคัญที่ช่วยทีมพลิกนรกคว่ำ "เจ้าบุญทุ่ม" แบบช็อกโลก

    ด้วยความสามารถ และศักยภาพของ ชากีรี่ มีความเป็นไปได้นว่า คล็อปป์ คงจะให้โอกาสนักเตะลงสนามมากยิ่งขึ้นในช่วงท้ายฤดูกาล และหากเจ้าตัวทำผลงานได้ดีก็มีสิทธิ์ที่จะได้เป็นกำลังสำคัญของทีมในซีซั่นหน้า หรือกระนั้นหากโชว์ฟอร์มได้สุดยอดก็อาจจะทำให้สโมสรอื่นๆ สนใจอยากได้ตัว และ "หงส์แดง" ก็มีสิทธิ์ได้ผลประโยชน์มากยิ่งขึ้นจากค่าตัวนักเตะด้วย
 
5.  เนโก วิลเลี่ยมส์

    เนโก วิลเลี่ยมส์ ดูเหมือนจะกำลังเป็นที่จับตามองอย่างมากในตำแหน่งแบ็กขวา โดย คล็อปป์ มองว่าเขาเป็นนักเตะมีอนาคตอย่างมาก เพียงแต่ว่าในเวลานั้น ลิเวอร์พูล มีแบ็กขวาชั้นดีอย่าง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ทำให้นักเตะอาจจะต้องอยู่ภายใต้ร่มเงาของ สตาร์ดังชาวอังกฤษ

    ผลงานของ ดาวเตะชาวเวลส์ ค่อนข้างโดดเด่นอย่างมากในการเล่นให้กับทีมคนหนุ่ม "หงส์แดง" กับการทำศึกเอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ ด้วยเหตุนี้ทำให้นักเตะค่อนข้างมีโอกาสอย่างมากในช่วงโค้งสุดท้ายหาก ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกได้เร็วในซีซั่นนี้

    ฟอร์มของ ฟูลแบ็กวัย 19 ปี ทำให้หลายๆ คนเริ่มรู้สึกว่าเขามีโอกาสที่จะกดดัน "เจ้าหนูเทรนต์" ในตำแหน่งนี้เช่นกัน และหาก อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ฟอร์มหลุด มีความเป็นไปได้สูงที่ คล็อปป์ อาจจะจัดการดร็อปเขา และให้โอกาส วิลเลี่ยมส์ ได้ลงเล่นก็เป็นไปได้

    โดยเฉพาะในเมื่อเร็วๆ นี้ในการเล่นเกมอุ่นเครื่องที่ "หงส์แดง" ไล่ถลุง แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ครึ่งโหล วิลเลี่ยมส์ ได้รับคำชมอย่างมาก ฉะนั้นคงไม่ใช่เรื่องแปลกหาก นายใหญ่เลือดด๊อยท์ช จะตัดสินใจลองของใหม่ของสดด้วยการส่ง ดาวเตะเลือดเวลส์ ลงเล่นเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในช่วงท้ายฤดูกาลนี้