ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » เชลซี-เลสเตอร์อ่วม! วิเคราะห์4ทีมพรีเมียร์ลุ้นพื้นที่ชปล.หลังแมนซิตี้พ้นโทษแบน

เชลซี-เลสเตอร์อ่วม! วิเคราะห์4ทีมพรีเมียร์ลุ้นพื้นที่ชปล.หลังแมนซิตี้พ้นโทษแบน

Posted 15/07/2020 by siamsport

ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ดำเนินมาถึงช่วงโค้งสุดท้าย และแม้จะแชมป์จะได้บทสรุปไปเป็นที่เรียบร้อย แต่การแย่งลุ้นจบอันดับท็อปโฟร์ยังขับเคี่ยวกันอย่างเข้มข้นกับสองโควต้าสุดท้ายที่เหลือ
   
หลังจากที่ แมนฯ ซิตี้ ติดโทษแบนห้ามลงเล่นในเกมยุโรปถึง 2 ฤดูกาล หลังโดนสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ตัดสิทธิ์ดังกล่าวโทษฐานทำความผิดอย่างรุนแรงต่อกฎควบคุมการเงิน หรือ “ไฟแนนเชียล แฟร์ เพลย์” ในตอนแรกนั้น ทำให้หลายทีมมีความหวังที่จะได้รับส้มหล่นคว้าโควตาไปเล่นถ้วย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า หากพวกเขาจบอันดับที่ 5 ซึ่งเดิมทีเป็นโควต้าลุยยูโรปาลีก

    อย่างไรก็ตามเมื่อมีผลคำตัดสินออกมาแล้วจะทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นปกติ และเวลานี้ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์ และ แมนฯ ซิตี้ รองจ่าฝูง คว้าสองโควต้าลุยชปล.ไปเป็นที่เรียบร้อย และจะเหลืออีกสองโควต้าคืออันดับ 3 และ อันดับ 4 ที่กำลังขับเคี่ยวลุ้นแย่งกันอย่างสนุกทั้ง เชลซี, เลสเตอร์ ซิตี้, แมนฯ ยูไนเต็ด และ วูล์ฟสแฮมป์ตัน ตามลำดับ ซึ่งแน่นอนว่าหลังจากนี้ไปจะต้องเน้นกันเต็มที่สุดๆ และใครที่มีโอกาสคว้าตั๋วสองใบสุดท้ายมากที่สุดไปดูบทวิเคราะห์กันเลย  

- เชลซี (อันดับ 3, แข่ง 35 เกม, 60 แต้ม)
     ความหวังของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ที่จะพา เชลซี คว้าตั๋วไปลุยถ้วย "บิ๊กเอียร์" ของยุโรปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของเจ้าตัวในการเข้ามาคุมทีมเป็นปีแรกด้วยขุมกำลังที่จำกัด หลังถูกแบนห้ามลงทะเบียนนักเตะใหม่เข้ามาเสริมทัพเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้ต้องใช้ผู้เล่นดาวรุ่งที่มีอยู่เป็นแกนหลักแทน

    กระนั้นก็ดีผลงานของทัพ "สิงห์บลูส์" ทำได้ดีเกินคาดจนเวลานี้พวกเขาขึ้นมารั้งที่ 3 ของตาราง และเกมคืนนี้พวกเขาก็จำเป็นที่ต้องเก็บชัยเหนือ นอริช ที่กระเด็นตกชั้นไปแล้วให้ได้ เพราะจะทำแต้มฉีกหนี เลสเตอร์ ซิตี้ และ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่มี 59 แต้มเท่ากัน เป็น 4 คะแนน ซึ่งถือเป็นงานง่ายที่สุดใน 3 เกมสุดท้ายที่เหลือ


    หลังจากนั้นอีกสองเกมสุดท้ายทัพ "สิงห์บลูส์" ต้องเจองานสุดหินเมื่อต้องบุกเยือน ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์ซึ่งแม้ว่า "หงส์แดง" จะการันตีแชมป์ไปเรียบร้อยแล้ว แต่อย่าลืมว่านี่คือเกมสุดท้ายที่จะได้เล่นในถิ่นแอนฟิลด์ และที่สำคัญจะได้ชูถ้วยแชมป์ในเกมนี้ จึงทำให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ น่าจะจัดชุดใหญ่ลงเล่นกันครบครันเพื่อจะได้ฉลองชัยชนะอย่างสวยงาม เท่านั้นไม่พอเกมสุดท้าย เชลซี ต้องเปิดบ้านพบ วูล์ฟแฮมป์ตัน ซึ่งเป็นหนึ่งในแคนดิเดตมีลุ้นเบียดแย่งโควต้าชปล.อยู่ด้วย หลังตอนนี้รั้งอันดับ 6 ของตาราง

โปรแกรมหนักที่เหลือ : ลิเวอร์พูล (เยือน), วูล์ฟแฮมป์ตัน (เหย้า)

- เลสเตอร์ ซิตี้ (อันดับ 4, แข่ง 35 เกม, 59 แต้ม)    
    ขุนพล "จิ้งจอก" ผลงานย่ำแย่ต่อเนื่อง โดยนับตั้งแต่พรีเมียร์ลีก กลับมารีสตาร์ตอีกครั้งพวกเขาเก็บชัยได้เพียงนัดเดียวเท่านั้นจาก 6 เกมหลังสุด และร่วงลงมารั้งที่ 4 ของตารางเรียบร้อยและมีแต้มเท่ากับ แมนฯ ยูไนเต็ด อันดับ 5 ที่ 59 แต้ม โดยเกมล่าสุดพลาดท่าบุกแพ้ บอร์นมัธ ถึง 1-4 ทำให้ตอนนี้ความมั่นใจของพวกเขาดูย่ำแย่ลงไปอีก


    สำหรับเกมที่เหลือต่อจากนี้ต้องเรียกได้ว่าหนักเอาการเลยทีเดียวเริ่มตั้งแต่เจอ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 7 ที่กำลังอยู่ในช่วงมั่นใจสุดๆด้วยการเก็บชัยมา 2 นัดรวดด้วยการเอาชนะ วูล์ฟสแฮมป์ตัน และ เชลซี มีลุ้นคว้าตั๋วไปลุยยูโรปาลีกแบบเต็มตัว ซึ่งจะเป็นงานหนักของ เลสเตอร์ อย่างแน่นอน ส่วนเกมต่อมาทีมของ เบรนแดน รอดเจอร์ส มีคิวบุกเยือน สเปอร์ส ทีมอันดับ 8 ของตาราง และปิดท้ายด้วยเปิดบ้านพบ แมนฯ ยูไนเต็ด 

    หากดูจากโปรแกรมที่เหลือของ เลสเตอร์ แล้วต้องบอกว่าลำบากเหลือเกินกับฟอร์มการเล่นในตอนนี้ และมีโอกาสสูงที่อาจจะต้องหล่นมาอยู่ในพื้นที่ยูโรปาลีกหรือเลวร้ายที่สุดคือหลุดพื้นที่ลุยฟุตบอลยุโรปเลยไปเลยหากยังไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมาในช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้
   
โปรแกรมหนักที่เหลือ : เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด (เหย้า), สเปอร์ส (เยือน), แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)

- แมนฯ ยูไนเต็ด (อันดับ 5, แข่ง 35 เกม, 59 แต้ม)
        การที่ลีกต้องหยุดชะงักไปราว 3 เดือนจากไวรัสโควิด-19 แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่น่าจะรู้สึกผิดหวังมากที่สุดแล้ว เพราะว่าพวกเขากำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยมไร้พ่ายมา 5 เกมหลังสุดในลีก แบ่งเป็นชนะ 3 เกม รวมไปถึงฟอร์มของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ที่กำลังเข้าฝักทำไปแล้ว 2 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ จากการลงเล่น 5 เกม

    กระนั้นก็ดีผลงานของ "ปีศาจแดง" ก็ยังรักษาฟอร์มเก่งได้ต่อเนื่องด้วยการเก็บชัยมา 4 เกมรวด ก่อนจะมาสะดุดเสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-2 ในเกมล่าสุดแบบน่าเจ็บใจ พลาดโอกาสทองในการแซง เชลซี ขึ้นมายึดที่ 3 ซึ่งน่าจะทำให้ "ปีศาจแดง" โอกาสสดใสพอสมควรในการจบท็อปโฟร์ เนื่องจากเกมที่เหลือต่อจากนี้ทีมของ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ต้องเรียกว่าเจองานเบากว่าใครเพื่อนในบรรดาทีมลุ้นพื้นที่ยุโรปแล้ว

     โปรแกรมนัดต่อไป แมนฯ ยูไนเต็ด จะมีคิวบุกเยือน คริสตัล พาเลซ ทีมอันดับ 14 ที่แพ้มา 5 นัดรวดและอยู่รอดปลอดภัยแน่นอนแล้ว ซึ่งหากไม่มีอะไรผิดพลาดเกมนี้พวกเขาน่าจะผ่านไปได้ไม่ยาก ก่อนมีคิวเปิดบ้านพบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ทีมอันดับ 16 ที่กำลังดิ้นรนหนีตกชั้น และปิดท้ายด้วยการบุกเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งน่าจะเป็นเกมหนักที่สุดแล้ว
       
โปรแกรมหนักที่เหลือ : เลสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)    

- วูล์ฟแฮมป์ตัน (อันดับ 6, แข่ง 35 เกม 55 แต้ม)
       ทีมของกุนซือ นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต เป็นอีกหนึ่งแคนดิเดตสำคัญที่มีลุ้นสอดแทรกมาคว้าตั๋วลุยชปล.ซีซั่นหน้า หลังจากฤดูกาลนี้พวกเขาได้ตั๋วไปลุยศึกยูโรปาลีกได้สำเร็จ

    แม้ทีม "หมาป่า" จะมีโปรแกรมหนักเพิ่มขึ้นจากการต้องลุยฟุตบอลยุโรป แต่ผลงานในลีกของพวกเขานั้นก็ไม่ได้ดร็อปลงไปแถมเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่มาแล้วหลายทีมในซีซั่นนี้ ทั้ง แมนฯ ซิตี้ 2 นัด และ สเปอร์ส ทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่สร้างความกังวลให้กับทีมเหล่านี้ได้พอสมควร


    เมื่อดูจากโปรแกรมที่เหลือของ วูล์ฟส์ นั้นต้องบอกว่าพวกเขายังพอมีลุ้นในการขึ้นไปจบท็อปโฟร์ โดยเกมต่อไปมีคิวบุกเยือน เบิร์นลีย์ ทีมอันดับ 10 ของตาราง ที่ฟอร์มยอดเยี่ยมไม่แพ้ใครมา 5 นัดรวด มีลุ้นคว้าตั๋วลุยยูโรปาลีกเช่นกัน ก่อนจะเปิดรังพบ คริสตัล พาเลซ และปิดท้ายด้วยการเยือน เชลซี แต่ถึงกระนั้นหากสุดท้ายแล้วพวกเขาต้องไม่สามารถจบท็อปโฟร์ได้ก็ต้องลุ้นคว้าแชมป์ยูโรปาในฤดูกาลนี้เพื่อจะได้สิทธิ์ไปลุยถ้วยบิ๊กเอียร์ในซีซั่นหน้าแทน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • บิ๊กทีมมาฟัง!คูลิบาลี่พูดเรื่องอนาคตตัวเองแล้ว
    คาลิดู คูลิบาลี่ กองหลังของ นาโปลี เผยถึงกระแสย้ายทีมที่มีออกมาตามหน้าสื่ออย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าไม่เคยพูดเรื่องนี้กับสโมสรแต่อย่างใด และพร้อมที่จะแขวนสตั๊ดกับต้นสังกัดหากได้รับการต่อสัญญาออกไป
  • ซูเนสส์ชูสเตอร์ลิงเหนือกว่า1แนวรุกลิเวอร์พูล
    แกรม ซูเนสส์ ระบุ ในมุมมองของตนนั้น ราฮีม สเตอร์ลิง ดาวเตะ แมนฯ ซิตี้ เก่งกว่า ซาดิโอ มาเน่ นิดๆ พร้อมเชื่อว่า สเตอร์ลิง เป็นนักเตะที่ทุกสโมสรอยากมีอยู่ในทีม
  • เอเยนต์ตอบชัดเรื่องเดอบรอยน์ย้ายทีม
    พาทริค เด โคสเตอร์ นายหน้าของ เควิน เดอ บรอยน์ ระบุ ดาวเตะชาวเบลเยียมยังไม่ได้คิดเกี่ยวกับการย้ายทีมแต่อย่างใด พร้อมบอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะมีข่าวว่ามีหลายทีมที่อยากได้นักเตะฝีเท้าดีแบบ เดอ บรอยน์
  • เก่งเท่าใคร?โฟลเด้นซูฮกกรีนวู้ดครบเครื่องเรื่องจบสกอร์
    ท่ามกลางกระแสความยกย่องในตัว เมสัน กรีนวู้ด กองหน้า แมนฯ ยูไนเต็ด ล่าสุดขนาด ฟิล โฟเด้น กองกลาง แมนฯ ซิตี้ ยังออกมาบอกเลยว่า กรีนวู้ด จบสกอร์ได้ดีเหมือน เซร์คิโอ อเกวโร่ พร้อมบอกว่ามันน่าทึ่งมากๆ ที่ กรีนวู้ด ยิงได้ดีทั้งที่ตอนนี้มีอายุแค่ 18 ปีเท่านั้น

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »