ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » โซลชาหนังเหนียว! ผ่า 5 ประเด็นแมนยูคืนฟอร์มบุกปราบเอฟเวอร์ตัน

โซลชาหนังเหนียว! ผ่า 5 ประเด็นแมนยูคืนฟอร์มบุกปราบเอฟเวอร์ตัน

Posted 08/11/2020 by siamsport

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับมาสู่เส้นทางชัยชนะอีกครั้งหลังบุกคว้าสามแต้มถึงรังของ เอฟเวอร์ตัน แน่นอนว่าชัยชนะครั้งนี้น่าจะลดความกดดันของ โซลชา ไปได้มากทีเดียวซึ่งก็ต้องชมแท็คติกของเจ้าตัวบวกกับผู้เล่นที่ตอบสนองแผนการเล่นเป็นอย่างดี เรามาเจาะลึกประเด็นที่น่าสนใจในเกมนี้กัน
1.วนลูปพอดี


    เป็นอีกครั้งที่ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา สามารถเอาตัวรอดในเกมชี้ชะตาเก้าอี้กุนซือ ไม่แปลกใจที่ “ผีแดง” จะเรียกเหตุการณ์นี้ว่าเป็นการวนลูป ซึ่งคงต้องบอกว่า เอฟเวอร์ตัน โชคไม่เข้าข้างที่มาเจอลูปชนะพอดี

    อย่างไรก็ตามเกมนี้ก็ต้องชมแท็คติกของ โซลชา ด้วยเพราะหลังจากเสียประตูแรก ทีมสามารถหยุดเกมรุกของ เอฟเวอร์ตัน ได้หมดจดโดยเฉพาะตัวความหวังอย่าง ฮาเมส โรดริเกซ ที่แทบไม่มีบทบาทกับเกม ขณะที่การไม่มี เยอร์รี่ มีน่า ปราการหลังร่างโย่งทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด เลือกที่จะโจมตีจากลูกครอสด้านข้างซึ่งก็ได้ผลจนเป็นสองประตูพลิกแซงนำ


    สิ่งที่เราเห็นมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วคือ “ผีแดง” มักจะเล่นได้ดีกับเกมที่คู่แข่งมาเปิดเกมรุกสู้ แต่เกมไหนที่เจอคู่แข่งมาแพ็คเกมรับมักจะเจอปัญหาเสมอ ซึ่งนัดหน้าหลังโปรแกรมทีมชาติการเปิดบ้านเจอกับ เวสต์บรอมฯ น่าจะต้องเจอกับการป้องกันเกมรับที่แน่นหนาแน่นอน หากเก็บผลการแข่งขันไม่ได้ก็คงจะกลับมาวนลูปสู่นัดชี้ชะตาอีกครั้ง

2.คู่กลางเพลย์เซฟ


    เกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาใช้ระบบ 4-2-3-1 ที่คุ้นเคยอีกครั้ง หลังจาก 4 นัดก่อนหน้านี้ โซลชา พยายามปรับเปลี่ยนแผนการเล่นซึ่งมีทั้ง เนมานย่า มาติช, ฟาน เดอ เบ็ค, ป็อกบา คอยสอดแทรกในแผงมิดฟิลด์ตลอด แต่ดูเหมือนจะไม่ค่อยลงตัวนัก

    สุดท้ายในเกมที่กดดันแบบนี้ โซลชา ก็กลับมาใช้บริการ เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์ ซึ่งเป็นคู่กลางที่เก็บผลการแข่งขันได้ดีต่อเนื่องช่วงก่อนหน้านี้ ทั้งสองเป็นมิดฟิลด์ที่ทำลายเกมบุกคู่แข่งได้ดีซึ่งนัดนี้พวกเขาช่วยหยุดแนวรุกของ เอฟเวอร์ตัน ได้แบบอยู่หมัด โดยเฉพาะในรายของ เฟร็ด ที่แย่งบอลกลับมาครองได้ถึง 6 ครั้ง

    น่าจะเป็นคู่กองกลางที่สมดุลที่สุดในตอนนี้ ปัญหาอย่างเดียวของทั้งสองคือการออกบอลขึ้นหน้าที่ยังมีพลาดง่ายๆให้เห็นอยู่บ้าง ถ้าสองคนนี้ปรับปรุง เรื่องนี้ได้ กองกลางระดับโลกอย่าง ปอล ป็อกบา มีสิทธิ์สำรองยาวแน่นอน

3.บรูโน่อีกแล้วครับท่าน


    นานแล้วเหมือนกันที่เราไม่ได้เห็น บรูโน่ แฟร์นันด์ส เล่นได้ท็อปฟอร์มขนาดนี้ ฟอร์มการเล่นของเขาในฤดูกาลนี้ขึ้นๆลงๆอยู่ตลอด แต่ยังมีทั้งทำประตูและแอสซิสต์อยู่เรื่อยๆ สิ่งน่าสังเกตคือวันที่ บรูโน่ เล่นดีทั้งทีมจะเล่นดีตามไปด้วย มันแสดงให้เห็นถึงอิทธิพลของเขาที่มีต่อทีมมาก

    มิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสโหม่งทำประตูตีเสมออย่างเฉียบขาดซึ่งก็ต้องชมลูกครอสของ ลุค ชอว์ ที่เปิดมาอย่างแม่นยำ และอีก 7 นาทีต่อมา เขาทำประตูจากการตั้งใจครอสบอลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด แต่ยังโชคดีที่บอลโค้งไปชนเสาเข้าประตู ขณะที่ประตูปิดกล่อง เจ้าตัวแสดงให้เห็นถึงความใจกว้างแม้จะมีมุมยิงเปิดกว้างแต่เลือกที่จะจ่ายให้ เอดินสัน คาวานี่ ทำประตู

    จากการลงเล่น 11 ในฤดูกาลนี้ บรูโน่ ทำไปแล้วถึง 6 ประตูกับอีก 5 แอสซิสต์ หรือเรียกได้ว่ามีส่วนร่วมกับประตูที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยิงถึง 11 ลูกจากทั้งหมด 20 ประตู

4.ทอฟฟี่เกมรับน่าห่วง


    ตลอดชัยชนะ 8 นัดติดต่อกันในทุกรายการของ คาร์โล อันเชลอตติ ฤดูกาลนี้ ผู้คนพูดถึงเกมรุกของทีมกันมากทีเดียวโดยเฉพาะ ฮาเมส โรดิรเกซ และ โดมินิค คัลเวิร์ท-ลูวิน แต่ เอฟเวอร์ตัน มีปัญหาในเรื่องเกมรับควบคู่กันมาตลอด โดยพวกเขาเก็บคลีนชีทได้แค่ 2 นัดจาก 11 นัดในทุกรายการ

    เกมนี้แนวรับยังคงมีปัญหาเหมือนเดิม ประตูแรกที่เสียมาจากการยืนประกบห่างของกองหลังทำให้ บรูโน่ ได้ขึ้นโหม่งแบบเดี่ยวๆ ขณะที่ประตูที่สองมาจากการครอสบอลด้านข้างอีกเช่นเคยและกองหลังก็ไม่ได้ตาม แรชฟอร์ด ที่วิ่งมาหาพื้นที่ในเขตโทษ

    5 เกมหลังสุดในลีก “ทอฟฟี่” เสียประตูเกินหนึ่งลูกทุกนัด เป็นโจทย์ อันเชลอตติ ต้องรีบแก้ไขโดยด่วน หากจะเกาะกลุ่มหัวตารางแบบนี้ไปยันหยดสุดท้าย

5.คาวานี่เปิดซิง/หมากสากอีกครั้ง


    แม้ผลการแข่งขันจะออกมาในเชิงบวก แต่แมตช์นี้ก็ไม่ใช่เกมที่ดีนักสำหรับนักเตะบางรายของ แมนฯ ยูไนเต็ด ซึ่งคนที่เห็นได้ชัดมากที่สุดคงเป็น อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล กองหน้าตัวเป้าของทีม

    เจ้าตัวพลาดการลงสนามในลีกมา 3 นัดและเกมนี้เขาเกือบกลับมาอย่างสวยงามหลังมีโอกาสทองจากการเก็บตกลูกเตะมุม แต่ยิงบอลหลุดเสาไกลออกไป นอกจากนี้ยังมีจังหวะที่หลุดเดี่ยวไปยิงด้วยซ้ายแต่บอลตรงตัว พิคฟอร์ด แม้ว่าผู้ตัดสินจะให้เป็นจังหวะล้ำหน้าแต่เขาน่าจะยิงได้ดีกว่านี้ สรุปแล้วฟอร์มโดยรวมยังขาดๆเกินๆ เรื่องการไม่ได้ลงสนามคงไม่ใช่ข้ออ้างเพราะเขาได้ออกสตาร์ทตัวจริงใน ชปล. มาตลอด เจ้าตัวคงต้องทำงานหนักต่อไป

    ในขณะเดียวกันเกมนี้ เอดินสัน คาวานี่ หัวหอกวัยเก๋าสามารถเปิดบัญชียิงประตูแรกให้กับทีมแล้วหลังจากลงสนามในฐานะตัวสำรองมา 5 นัด น่าจะเป็นการเรียกความมั่นใจได้เป็นอย่างดี และนี่อาจจะเป็นการส่งสัญญาณถึง มาร์กซิยาล ให้ต้องรีบเค้นฟอร์มออกมาไม่อย่างนั้นมีสิทธิ์จะเสียตำแหน่งตัวจริงได้

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »