ในที่สุด แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ขยับขึ้นมาอยู่ครึ่งบนของตารางได้เสียทีแต่ชัยชนะเหนือ เวสต์บรอมวิช ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาถือว่าไม่น่าประทับใจอย่างแรง เป็นอีกครั้งที่ “ผีแดง” เจอทีมมาเน้นตั้งรับและพวกเขาแทบรากเลือดกว่าจะเจาะตาข่ายได้ เกิดอะไรขึ้นในเกมนี้บ้าง เรามาสรุปกันทีละข้อเลย
1.มาร์กซิยาลยังเหมือนเดิม

    22 ประตูของ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล เมื่อฤดูกาลที่แล้วกลายเป็นภาพลวงตาในทันทีเมื่อเริ่มต้นฤดูกาลนี้ กองหน้าชาวฝรั่งเศสกำลังเจอมรสุมอย่างหนักหน่วง ฟอร์มการถล่มตาข่ายของเขาหายไปแถมก่อนหน้านี้ยังโดนใบแดงจนถูกแบนมาแล้ว 3 นัด ความมั่นใจและสภาพจิตใจของเขาไม่ค่อยดีเอาเสียเลย

    ช่วงโปรแกรมทีมชาติ แฟน “ผีแดง” คงหวังว่า มาร์กซิยาล จะได้ทบทวนฟอร์มของตัวเองที่ผ่านมาเพื่อกลับมาคืนฟอร์มในนัดนี้ให้ได้ แต่ทว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม มาร์กซิยาล ยังขาดความเป็นเพชฌฆาต  โอกาสทองของเขาถูกปฏิเสธด้วยนายด่าน แซม จอห์นสโตน หลายหนทำให้เขาต้องควานหาประตูแรกในลีกฤดูกาลนี้ต่อไป

    คำถามคือ โซลชา จะทนกับฟอร์มของกองหน้ารายนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน หากเข็นลงตลอดคงโดนข้อครหาเรื่อง “ลูกรัก” แน่นอน ด้วยฟอร์มการเล่นแบบนี้มันถึงเวลาแล้วหรือยังที่ คาวานี่ จะออกสตาร์ทตัวจริงในพรีเมียร์ลีกครั้งแรก?

2.วีเออาร์มาช่วยผี

    แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องอาศัยวีเออาร์ในการกรุยทางสู่ชัยชนะที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด นัดแรกในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ จังหวะสำคัญเกิดขึ้นในนาทีที่ 47 เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ไปเตะขาใส่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ ในเขตโทษจนผู้ตัดสิน เดวิด คูท เป่าเป็นจุดโทษ

    ทว่าทีมงานห้องวีเออาร์ตัดสินไม่ได้จึงให้ผู้ตัดสินในสนามวิ่งมาดูจอวีเออาร์ข้างสนามก่อนจะกลับคำตัดสินเนื่องจาก บรูโน่ จิ้มโดนบอลก่อนทำให้ “ผีแดง” รอดโดนขึ้นนำแบบหวุดหวิด

    และเพียงไม่กี่นาทีถัดมา เจ้าบ้านมาเป็นฝ่ายได้จุดโทษบ้างหลัง ฆวน มาต้า ยิงไปติดแขน ดาร์เนลล์ เฟอร์ลอง แม้แข้งแบ็กกี้ส์จะประท้วงว่าไม่ควรเป็นจุดโทษ แต่ผู้ตัดสินเช็กจากวีเออาร์แล้วยืนยันว่าเป็นจุดโทษ

    ผู้สังหารประตูคือ บรูโน่ แฟร์นันด์ส เช่นเดิมแต่เขาดันยิงไปติดเซฟของ แซม จอห์นสโตน ทว่าผู้ตัดสินได้รับสัญญาณว่าให้ยิงใหม่เนื่องจากนายด่านของเวสต์บรอมวิช ขยับขาออกมานอกเส้นก่อน และครั้งที่สอง บรูโน่ ก็จัดการยิงตุงตาข่าย อาจจะเรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับนัดนี้ “ผีแดง” คงต้องขอบคุณวีเออาร์จริงๆ

3.เด็กเก่าผีโชว์ของ

    คนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในเกมนี้คงหนีไม่พ้นนายทวารฝั่งเวสต์บรอมฯ ที่มีนามว่า แซม จอห์นสโตน ซึ่งโชว์ฟเซฟมากถึง 7 ครั้ง เชื่อว่าแฟนผีน่าจะคุ้นชื่อเขาอยู่บ้าง เพราะเขาเคยค้าแข้งอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด นานถึง 8 ปี

    เจ้าตัวเป็นผลผลิตจากอะคาเดมี่ของ “ผีแดง” แต่เนื่องด้วยโอกาสในทีมชุดใหญ่ค่อนข้างน้อยทำให้เขาถูกปล่อยยืมตัวออกไปหลายที่ โดยตลอด 8 ปีกับทีม เขาไปเก็บประสบการณ์มากถึง 7 สโมสร จนกระทั่งปี 2018 จอห์นสโตน ย้ายไปร่วมทัพ เวสต์บรอมวิช แบบถาวร

    สำหรับนัดนี้เป็นการฉลองลงเล่นให้ “เดอะ แบ็กกี้ส์” ครบ 100 นัดพอดี และเขาก็โชว์ฟอร์มสุดยอดยทั้งเซฟลูกยิงของ มาร์กซิยาล สองครั้งช่วง 15 นาทีกแรกก่อน บรูโน่ จะมาเอาชนะด้วยจุดโทษ ทว่า จอห์นสโตน ยังมาจัดซูเปอร์เซฟปัดลูกยิงจ่อๆของ แรชฟอร์ด ในครึ่งหลังอีก นับเป็นการกลับมาถิ่นเก่า โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างสวยงามแม้ทีมจะพ่ายแพ้ก็ตาม แต่สิ่งนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอะคาเดมี่ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังผลิตนักเตะคุณภาพมาตลอด

4.แบ็กกี้ส์อาการหนัก

    เวสต์บรอมวิช ถือว่าน่าเป็นห่วงเหลือเกิน แม้มีบางนัดที่ฟอร์มการเล่นจะไม่ได้แย่โดยเฉพาะการเจอกับทีมใหญ่ทั้ง เชลซี และ สเปอร์ส รวมถึงเกมกับ แมนฯ ยูไนเต็ด นี้ด้วย แต่พวกเขาเก็บผลการแข่งขันไม่ได้ตามเป้าเลย

    ตอนนี้พวกเขาอยู่ในโซนตกชั้นและยังคงไร้ชัยชนะแถมปราชัยมาแล้วถึง 6 นัด (เสมอ 3 นัด) ลูกทีมของ สลาเวน บิลิช ต้องหาจุดเปลี่ยนโดยด่วนเพื่อเรียกความมั่นใจกลับมา

    หลังจากนี้พวกเขามีโปรแกรมสามนัดให้แก้ตัวได้แก่การเปิดบ้านพบ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด และ คริสตัล พาเลซ ก่อนบุกไปเยือน นิวคาสเซิ่ล อย่างน้อยหนึ่งใน 3 นัดนี้พวกเขาต้องคว้าสามแต้มแรกมาให้ได้ เพราะช่วงคริสต์มาสจนถึงปีใหม่พวกเขามีโปรแกรมหฤโหดรออยู่ (แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล, ลีดส์, อาร์เซน่อล) รอดติดตามกันว่าพวกเขาจะอยู่รอดต่อไปในพรีเมียร์ลีดได้หรือไม่

5.บรูโน่แบกจนหลังหัก

    ฮีโร่ผู้เซฟเก้าอี้โซลชายังคงเป็นนักเตะหน้าเดิมอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือหัวใจสำคัญของทีม เกมที่แล้วกับ เอฟเวอร์ตัน มิดฟิลด์ชาวโปรตุกีสทำผลงานสุดยอดด้วยการยิงสองจ่ายหนึ่ง

    แม้เกมนี้จะไม่ได้ท็อปฟอร์มากนักแต่เขาสร้างโอกาสให้ทีมมากถึง 6 ครั้งจนน่าเสียดายที่ไม่มีชื่อทำแอสซิสต์ ขณะที่การยิงจุดโทษดูเหมือนนายทวารหลายคนจะเริ่มจับทางเทคนิคของเขาได้แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าจิตใจของ บรูโน่ แข็งแกร่งเหลือเกิน การยิงจุดโทษครั้งที่สองนั้นไม่ง่ายแต่เจ้าตัวยังแสดงความมั่นอกมั่นใจเสมอ

    นับตั้งแต่เดบิวต์ในพรีเมียร์ลีก บรูโน่ ทำไปแล้ว 14 ประตูกับอีก 10 แอสซิสต์ มีเพียง ซาลาห์ ที่ยิงประตูมากกว่าเขาในช่วงเวลาเดียวกันแต่ไม่มีใครทำแอสซิสต์ได้มากกว่าเขาแล้ว ขณะที่ฤดูกาลนี้เขามีส่วนร่วมกับประตูในทุกรายการทั้งหมด 12 ลูกจากลงเล่นทั้งหมด 12 นัด เป็นสถิติที่ถือว่ายอดเยี่ยมมากๆ