"จิ้งจอกสยาม" รอดตายหลังเป็นฝ่ายตามหลังเจ้าถิ่น คริสตัล พาเลซ แต่ช่วงท้ายเกมมาได้ฮีโร่อย่าง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ ซัดพาทีมไล่ตีเสมอ 1-1 แบ่งแต้มสำคัญทำให้มี 29 คะแนนเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน แต่ลูกได้เสียดีกว่ายึดรองจ่าฝูงตามหลัง "หงส์แดง" ที่แข่งน้อยกว่าหนึ่งเกมแค่ 3 คะแนน ในเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

สนาม : เซลเฮิร์สท์ พาร์ค

     เกมพรีเมียร์ลีก ประจำวันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม เจ้าบ้าน พาเลซ ของกุนซือประสบการณ์สูง รอย ฮ็อดจ์สัน พาทีมแพ้มายับเยิน2นัดติด แบบทำประตูไม่ได้เลยทั้ง2นัด เกมนี้จะไม่มีแกรี่ เคฮิลล์, มามาดู ซาโก้ และ มาร์ติน เคลลี่ ที่มีอาการบาดเจ็บอยู่โดยกองหน้ายังใช้งาน วิลฟรีด ซาฮา และ คริสติย็อง เบนเตเก้ ล่าตาข่ายตามเดิม
 
         ส่วนฝั่งเลสเตอร์ ซิตี้ ของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส นัดล่าสุดพาทีมเปิดบ้านเสมอแมนฯยูไนเต็ด 2-2 ทำให้ไม่แพ้ใครมา2นัดติดกัน มีการโรเตชั่นหลายตำแหน่ง โดยตัวหลักอย่าง เจมส์ แมดดิสัน จอมทัพตัวสำคัญ ไม่มีชื่อในเกมนี้ รวมถึงหัวหอกตัวเก่งอย่าง เจมี่ วาร์ดี้ ก็มีชื่อสำรอง โดยแนวรุกใช้งาน  เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ เป็นหอกเป้าโดยมี อโยเซ่ เปเรซ, เดนนิส ปราต และ ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เป็นกำลังสนับสนุนข้างหลัง

     เริ่มเกมมา 8 นาที เป็นฝั่งเจ้าถิ่นเลสเตอร์ ได้ลุ้นก่อนเมื่อได้ฟรีคิกนอกกรอบ ฮัมซ่า เชาด์ฮูรี่ เปิดเข้าไปหน้าประตูให้ แดเนี่ยล อมาร์ตี้ กระโดดโขก แต่บอลหลุดกรอบออกหลังไปเยอะ

     นาทีที่ 17 เจ้าถิ่นได้เซ็งไปตามๆกัน เมื่อ เจมส์ ทอมกิ้นส์ ไปเข้าบอลโฉงฉ่างไปฟาวส์ ลุค โทมัส ล้มในกรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเกรแฮม สกอตต์ ชี้เป็นลูกจุดโทษให้ เลสเตอร์ ในทันที

     ก่อน เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ รับหน้าที่สังหาร แต่เจ้าตัวยิงไม่ห่างตัว บิเซนเต้ ไกวต้า สักเท่าไหร่ โดนนายทวารเจ้าถิ่นพุ่งเซฟได้ทัน และหลังจากผู้ตัดสินฟังทีมงานจากห้องวีเออาร์แล้ว ก็ไม่ได้ตัดสินให้ยิงใหม่แต่อย่างใด ทำให้ เลสเตอร์ ชวดได้ประตูขึ้นนำสกอร์ยังอยู่ที่ 0-0

     นาทีที่ 25 เลสเตอร์ ได้โอกาสจบสกอร์อีกครั้ง เมื่อ อโยเซ่ เปเรซ เปิดบอลไปแฉลบกองหลังเจ้าถิ่น บอลลอยโด่งมาตกบนคาน ก่อนกระเด้งมาเข้าทางปืนของ เดนนิส ปราต วิ่งมากดยิงด้วยเท้าขวา แต่ เดนนิส ปราต พยายามยิ่งหนี บิเซนเต้ ไกวต้ามากไปหน่อย บอลเลยโด่งข้ามคานไปเยอะ

     3 นาทีต่อมา เป็นโอกาสได้เสียวของเจ้าถิ่นบ้าง เมื่อ เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ ได้บอลทางริมเส้นหลังประตู ก่อนหักเข้ากลางไปให้ อันดรอส ทาวน์เซ่นด์ ตวัดยิงด้วยเท้าซ้าย คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล หมดสิทธิ์เซฟไปแล้ว แต่ลูกยิงของ  อันดรอส ทาวน์เซ่นด์ ไม่เข้ากรอบเอง หลุดเสาออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

    ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ หมดครึ่งแรก คริสตัล พาเลซ จึงเปิดบ้านเสมอกับ เลสเตอร์ อยู่ 0-0

    ครึ่งหลัง นาที 57 "จิ้งจอกสยาม" เปลี่ยนตัวคนแรกถอดเอา ฮัมซ่า เชาด์ฮูรี่ ออกแล้วส่ง ยูริ ตีเลมันส์ ลงเล่นแทน

    แต่แล้วอีกนาทีถัดมา กลายเป็นเจ้าถิ่น "ดิ อีเกิ้ลส์" ชิงขึ้นนำไปก่อน 1-0 จากจังหวะเข้าทำอันสุดสวย อันดรอส ทาวน์เซ่นด์ เปิดมาเสาไกลให้ วิลฟรีด ซาฮา วิ่งมาแปด้วยขวายัดเสาแรกสวนตัว คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล เข้าไปอย่างเฉียบขาด

    นาที 83 เลสเตอร์ ซิตี้ มาไล่ตีเสมอพาเลซ 1-1 ได้สำเร็จ จากจังหวะที่แนวรับเจ้าถิ่นเคลียร์บอลกันไม่ดีเอง ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ เก็บบอลนอกกรอบได้ก่อนเลี้ยงบอลเข้ามาล็อคด้วยขวาแล้วซัดด้วยซ้ายพุ่งเลียดเบียดเสาแรกเข้าไป หมดสิทธิ์ที่ บิเซนเต้ไกวต้า จะป้องกัน

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม คริสตัล พาเลซ เสมอกับ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 แบ่งแต้มกันไป ทำให้ "จิ้งจอกสยาม" มีแต้มเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน ที่ 29 คะแนนแต่ลูกได้เสียดีกว่าทำให้รั้งรองจ่าฝูงตามหลังจ่าฝูงอย่าง "หงส์แดง" ที่แข่งน้อยกว่าแค่ 3 คะแนน ส่วน พาเลซ แซงนิวคาสเซิ่ลขึ้นไปรั้งอันดับ 13 มี 19 คะแนน

    รายชื่อผู้เล่นที่ลงสนาม

        คริสตัล พาเลซ (4-4-2) : บิเซนเต้ ไกวต้า - นาธาเนียล ไคลน์, เชกู กูยาเต้, เจมส์ ทอมกิ้นส์, ไทริก มิตเชลล์ - เจฟฟรี่ย์ ชลุปป์ (จอร์แดน อายิว น.84), ไยโร รีเดอวัลด์ (เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ น.74), ลูก้า มิโลโวเยวิช, อันดรอส ทาวน์เซ่นด์ - วิลฟรีดซาฮา, คริสติย็อง เบนเตเก้ 

        ผู้จัดการทีม : รอย ฮ็อดจ์สัน

      เลสเตอร์ (4-2-3-1) : คาสเปอร์ ชไมเคิ่ล - เจมส์ จัสติน, แดเนี่ยล อมาร์ตี้, จอนนี่ อีแวนส์, ลุค โทมัส - ฮัมซ่า เชาด์ฮูรี่, น็อมปาลิส เมนดี้ (ยูริ ตีเลมันน์ น.57) - อโยเซ่ เปเรซ, เดนนิส ปราต (เจมี่ วาร์ดี้ น.66), ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ - เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ (เดมาราย เกรย์ น.72)

        ผู้จัดการทีม : เบรนแดน ร็อดเจอร์ส

        ผู้ตัดสิน : เกรแฮม สกอตต์