แลมพ์สเก้าอี้สั่น! เชลซีเละคารัง-เดอบรอยน์ฮอตพาแมนซิตี้บุกยำ แซงขึ้นที่5
Posted 04/01/2021 by siamsport
โควิดก็ทำอะไรทัพเรือไม่ได้! หลังลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า โชว์สกิลเกมรุกอันดุดันบุกไปไล่ยำใส่ "สิงห์บลูส์" เละเทะคาบ้าน 3-1 เควิน เดอ บรอยน์ และฟิล โฟเด้น ฟอร์มหรูทั้งยิงและจ่ายก่อนพาทีมคว้าชัยสามนัดติด มี 29 คะแนนเท่ากับสเปอรส์และทอฟฟี่ แต่ลูกได้เสียเป็นรองไก่เดือยทองทำให้รั้งอันดับ 5 ส่วน เชลซี ย่ำแย่แพ้ 4 จาก 6 เกมในลีกล่าสุด รั้งอันดับ 8 เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์
"บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วีก 17 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 3 มกราคม ที่ผ่านมา ระหว่าง เชลซี อันดับ 6 เปิดรังรับมือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 8
โดย "สิงห์บลูส์" ของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ปรับทัพใช้สามแนวรุกเป็น ฮาคิม ซิเย็ค ที่หายเจ็บกลับมาสตาร์ตัวจริงร่วมกับ ติโม แวร์เนอร์ และ คริสเตียน พูลิซิช ส่วนทางฝั่งของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของ "เรือใบสีฟ้า" ปวดหัวกับปัญหาของผู้เล่นที่ติดเชื้อโควิด-19 หายราย เกมนี้ส่ง แซ็ค สเตฟเฟ่น นายด่านวัย 25 ปี ลงเฝ้าเสาในลีกเป็นเกมแรก ส่วนแนวรุกวาง ราฮีม สเตอร์ลิง หน้าเป้าและใช้ เควิน เดอ บรอยน์ และแบร์นาร์โด้ ซิลวา ปั้นเกม
แค่ 4 นาทีแรก แซ็ค สเตฟเฟ่น นายด่านของเรือใบสีฟ้าที่เล่นในลีกนัดแรกก็ทำเสียวเสียแล้ว เมื่อรับบอลจากจังหวะที่ โรดรี้ ส่งคืนหลังในกรอบ ผู้ตัดสินเป่าเป็นจังหวะแบ็คพาสทำให้ต้องเสียฟรีคิก 2 จังหวะบนเส้น 18 หลา ทว่า ฮาคิม ซิเย็ค ดันซัดไปติดบล็อคออกหลัง
นาที 16 โอกาสได้ลุ้นครั้งแรกของ แมนฯซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำหลัง ชูเอา กันเซโล่ แทงทะลุช่องให้ เควิน เดอ บรอยน์ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปซัดด้วยขวาบอลพุ่งถากเสาไกลออกไปอย่างน่าเสียดาย
กระนั้นอีกสองนาทีถัดมา "เรือใบสีฟ้า" ได้ประตูนำ 1-0 ทันที จากความยอดเยี่ยมของ อิลคาย กุนโดกัน ที่รับบอลจาก ฟิล โฟเด้น ก่อนพลิกหนี ติอาโก้ ซิลวา แล้วซัดด้วยขวาติดปลายมือ เมนดี้ เบียดเสาเข้าไปอย่างสวยงาม
เท่านั้นยังไม่พอทีมเยือนมานำห่างเป็น 2-0 อย่างรวดเร็วจากความผิดพลาดของแนวรับเจ้าถิ่นที่เคลียร์กันไม่ดี เควิน เดอ บรอยน์ ได้บอลแล้วปาดมาเสาแรกให้ ฟิล โฟเด้น ตวัดยิงด้วยซ้ายไม่จับเบียดเสาแรกเข้าไป
นาที 35 ลูกทีมของ แฟร้งค์ แลมพาร์ด ต้องมาสังเวยประตูที่สาม จากจังหวะที่ "สิงห์บลูส์" ได้ลุ้นฟรีคิกหน้ากรอบของซิตี้ ก่อนจะโดนลูกสวนกลับเร็วหลัง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ โขกหนุนไปติดหัวของเควิน เดอ บรอยน์ บอลลอยโด่งไปเข้าทาง ราฮีมสเตอร์ลิง ควบจากแดนตัวเองเข้าไปดวลเดี่ยวกับ เอดูอาร์ เมนดี้ ก่อนจะล็อกหนีแล้วหาจังหวะปั่นด้วยขวาบอลพุ่งไปชนเสาก่อนจะกระดอนมาเข้าทางของ เดอ บรอยน์ ตามมาซ้ำเข้าไปไม่เหลือให้ แมนฯซิตี้ บุกมานำขาด 3-0
อีกนาทีถัดมา ทัพเรือใบเกือบได้เม็ดที่สี่นำโด่ง หลัง แบร์นาร์โด้ ซิลวา ครอสบอลโด่งไปเสาไกลให้ ฟิล โฟเด้น โขกย้อนไปเสาแรกเหินคานออกไปแบบได้ลุ้น
เกมรุกของ "ซิตี้" เหนือกว่าอย่างชัดเจนตอบโต้มาทีได้ลุ้นทุกครั้ง และหนนี้เกือบได้ประตูอีกหลัง ราฮีม สเตอร์ลิง พาบอลขึ้นมาแล้วไหลให้ เควิน เดอ บรอยน์ ปาดเลียดมาหน้าประตูให้ อิลคาย กุนโดกัน ไขว้ยิงด้วยซ้ายหลุดกรอบอย่างน่าเสียดาย
จบครึ่งแรก เชลซี ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-3
กลับมาเล่นต่อในครึ่งหลัง ลูกทีมของเป๊ป ยังโหมกดดันไม่มีผ่อน ไล่บีบเพรสสูงจนแข้งเจ้าถิ่นออกบอลกันพลาด ก่อนนาที 49 จะได้ลุ้นอีกหลัง ฟิล โฟเด้น จ่ายให้ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ซัดด้วยซ้ายนอกกรอบแต่ยังเบาไปเข้ามือของ เมนดี้
นาที 54 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดฟรีคิกจากด้านขวาของสนามไปเสาไกลให้ โรดรี้ สอดเข้ามาโขกเน้นๆ บอลจะมุดใต้คานอยู่แล้วแต่โดน เมนดี้ ปัดปลายนิ้วออกไปได้
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง "เรือใบสีฟ้า" ครองเกมเหนือกว่าเจ้าถิ่นทุกอย่างทั้งโอกาสยิงถึง 15 ครั้งเข้ากรอบ 6 ส่วนเชลซีมีโอกาสแค่ 5 ครั้งและเข้ากรอบแค่หนเดียว
นาที 62 ราฮีม สเตอร์ลิง ผ่านบอลเข้ากลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ ได้ลองปั่นนอกกรอบกว่า 23 หลา ทว่าบอลหลุดกรอบออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
นาที 64 เชลซี เปลี่ยนสองคนรวดส่ง คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย และบิลลี่ กิลมอร์ ลงแทน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และฮาคิม ซิเย็ค
นานๆ เจ้าบ้านจะหาโอกาสเข้าทำ นาที 81 ได้ลุ้นจากจังหวะ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ครอสบอลเข้าไปให้ ไค ฮาแวร์ตซ์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมาขึ้นโขกแต่บอลหลุดกรอบออกไป
ช่วงทดเจ็บ นาที 90+2 เจ้าบ้านมาได้ประตูตีไข่แตกไล่มา 1-3 จากจังหวะครอสบอลเข้ามาของ ไค ฮาแวร์ตซ์ บอลผ่านมาเสาไกลถึง คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ตามมาล้มตัวยิงเข้าไป
จบเกม เชลซี แพ้เละคาบ้านให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" บุกมาคว้าสามแต้มมีเพิ่มเป็น 29 คะแนนเท่ากับ เอฟเวอร์ตัน และสเปอร์ส แต่ลูกได้เสียเป็นรองทัพไก่เดือยทอง ทำให้รั้งอันดับ 5 แต่แข่งน้อยกว่า ส่วน "สิงห์บลูส์" แพ้เป็นเกมที่ 5 แถมแพ้เป็นนัดที่ 4 ในรอบ 6 เกมล่าสุดทำให้ยังรั้งอันดับ 8 มี 26 คะแนนเท่าเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
เชลซี (4-3-3) : เอดูอาร์ เมนดี้ - เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า, เคิร์ต ซูม่า, ติอาโก้ ซิลวา, เบน ชิลเวลล์ - เมสัน เมาน์ต, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ (บิลลี่ กิลมอร์ น.64), มัตเตโอ โควาซิช (ไค ฮาแวร์ตซ์ น.77) - ฮาคิม ซิเย็ค (คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย น.64), ติโม แวร์เนอร์, คริสเตียน พูลิซิช
ผู้จัดการทีม : แฟร้งค์ แลมพาร์ด
แมนฯซิตี้ (4-2-3-1) : แซ็ค สเตฟเฟ่น - ชูเอา กันเซโล่, จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ - โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน (แฟร์นันดินโญ่ น.75) - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เควิน เดอ บรอยน์ (เซร์คิโอ อเกวโร่ "กุน" น.86), ฟิล โฟเด้น (ริยาด มาห์เรซ น.86) - ราฮีม สเตอร์ลิง
ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
พ่ายมีร่วง! เชลซีหนักฟัดแมนซิตี้มี "พูลิซิช วัดคม สเตอร์ลิง"
แฟร้งค์ แลมพาร์ด นายใหญ่ "สิงห์บลูส์" ผลงานไม่สู้ดีไม่ชนะใครมาแล้ว 2 เกมติดรั้งอันดับ 6 ความพร้อมไม่มีปัญหาเพิ่ม คริสเตียน พูลิซิช ลงบัญชาทัพ ทางด้าน "เรือใบสีฟ้า" ที่ขาดผู้เล่นหลายรายแต่ไม่แพ้ใครมา 10 นัดรวมทุกรายการวาง ราฮีม สเตอร์ลิง เป็นตัวทีเด็ด ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 3 ม.ค. นี้5 ทีมมูลค่าสูงสุดพรีเมียร์ลีก
เซฟเบ็ทติ้งไซส์ เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลและการพนันรายหนึ่ง เปิดเผยทีมจาก พรีเมียร์ลีก ที่มีมูลค่าสูงสุด 5 อันดับแรก โดยที่ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังเป็นแชมป์ ส่วน ลิเวอร์พูล ขึ้นมาเป็นอันดับ 2 แทนที่ แมนฯ ซิตี้ลิเวอร์พูล,เชลซีเศร้า! "อลาบา" เลือกซบยักษ์ใหญ่สเปน
อกหักกันไปทั้ง ลิเวอร์พูล และ เชลซี เพราะล่าสุดมีข่าว ดาวิด อลาบา ปราการหลัง บาเยิร์น มิวนิค เตรียมเลือกซบสโมสรยักษ์ใหญ่แดนกระทิงดุ โดยคาดน่าจะมีการคอนเฟิร์มช่วงสัปดาห์หน้ารอจบซีซั่น!แมนซิตี้วางแผนทุ่มสถิติสโมสรสู่ขอเคน
คริสเตียน ฟอล์ค นักข่าวจาก บิลด์ สื่อของเยอรมนี ตีข่าว แมนฯ ซิตี้ วางแผนขอซื้อ แฮร์รี่ เคน หลังจบฤดูกาลนี้ ด้วยการให้ค่าตัว 100 ล้านยูโร ซึ่งจะทำให้ดาวเตะอังกฤษกลายเป็นแข้งที่มีค่าตัวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ "เรือใบสีฟ้า"
TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน
อัลบั้มภาพเด็ดๆ
ฮาน่า ฮาอึน ชอง ดาว TikTok สาวสว...
นาฟ ฉัฐนันท์ ปล่อยแซ่บท้าลมหนาว ...
เต็มที่แล้ว! ไทย พ่าย อุซเบกิสถา...
ตัดเกรด นักเตะไทย เกมเสมอ โอมาน ...
"ศุภชัย" ซัดเบิ้ล! ไทย ทุบ คีร์ก...
โดนรัวครึ่งหลัง! ไทย บุกพ่าย ญี่...
คลิปไฮไลท์