เคพีเอ็มจี บริษัทคำนวณบัญชีชื่อดัง ประเมินว่าในซีซั่น 2019-20 ลิเวอร์พูล จะมีรายได้ตลอดทั้งซีซั่นน้อยลงกว่าฤดูกาล 2018-19 เป็นจำนวน 8 เปอร์เซ็นต์ หรือถ้าคิดเป็นจำนวนเงินจะอยู่ที่ 82.5 ล้านยูโร

เคพีเอ็มจี บริษัทคำนวณบัญชีชื่อดัง ประเมินว่า ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะมีรายได้ในผลประกอบการประจำฤดูกาล 2019-20 ลดลงจากซีซั่น 2018-19 เป็นจำนวน 8 เปอร์เซ็นต์ด้วยกัน

ซีซั่นก่อนถือเป็นอีก 1 ซีซั่นที่ประสบความสำเร็จของ ลิเวอร์พูล หลังจากที่พวกเขาได้แชมป์ พรีเมียร์ลีก ไปครอง จนถือเป็นแชมป์ลีกหนแรกของพวกเขาในรอบ 30 ปี แต่ช่วงครึ่งหลังของซีซั่นมันเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จนทำให้พวกเขาต้องลงเล่นในแบบที่ไม่มีแฟนบอลเข้ามาชมเกมในสนาม

การต้องเตะแบบไร้คนดูมันส่งผลกระทบกับทุกสโมสรฟุตบอลทั่วโลก และ ลิเวอร์พูล ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยถึงแม้ "หงส์แดง" จะยังไม่ได้เปิดเผยผลประกอบการประจำซีซั่นก่อน ต่างกับหลายทีมที่ทำอย่างนั้นไปแล้ว อย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ แต่ เคพีเอ็มจี ประเมินว่า ลิเวอร์พูล จะมีรายได้ลดลงถึง 8 เปอร์เซ็นต์ หรือคิดเป็นเงิน 47.6 ล้านยูโร (ประมาณ 1,761.2 ล้านบาท)

ทั้งนี้ เคพีเอ็มจี คาดว่ารายได้โดยรวมของ ลิเวอร์พูล จะอยู่ที่ 557 ล้านยูโร (ประมาณ 20,609 ล้านบาท) โดยส่วนประกอบของเงินจำนวนดังกล่าวมีอย่างเช่น 82.5 ล้านยูโร (ประมาณ 3,052.5 ล้านบาท) จากรายได้ในวันที่มีการแข่งขัน, 231.9 ล้านยูโร (ประมาณ 8,580.3 ล้านบาท) จากรายได้ด้านลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด และ 242.6 ล้านยูโร (ประมาณ 8,976.2 ล้านบาท) จากรายได้ด้านการตลาด เป็นต้น

นอกจากนี้ เคพีเอ็มจี ทำการวิเคราะห์เฉพาะเหล่าทีมที่ยังไม่ได้เปิดเผยผลประกอบการประจำซีซั่นก่อน โดยนอกจาก ลิเวอร์พูล แล้วนั้น พวกเขาก็ยังประเมินผลประกอบการของ เรอัล มาดริด, ปารีส แซงต์-แชร์กแมง, บาเยิร์น มิวนิค, ยูเวนตุส และ เอฟซี ปอร์โต้ ด้วย ซึ่งในบรรดากลุ่มดังกล่าวนั้น ปอร์โต้ โดนผลกระทบหนักที่สุดหลังจากรายได้หดไปถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วน "เปแอสเช" ลดไป 15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ ยูเวนตุส ได้รับผลกระทบ 13 เปอร์เซ็นต์

สำหรับ มาดริด, เปแอสเช, ยูเวนตุส และ บาเยิร์น นั้น ด้านที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือรายได้จากวันแข่งขัน ส่วนของ ลิเวอร์พูล กับ ปอร์โต้ เป็นด้านค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด โดยสาเหตุที่ค่าลิขสิทธื์การถ่ายทอดมันดร็อปลงสำหรับ ลิเวอร์พูล กับ ปอร์โต้ เป็นเพราะพวกเขาทำผลงานในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้แย่กว่าซีซั่น 2018-19 นั่นเอง โดยซีซั่นก่อน ลิเวอร์พูล ตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายทั้งที่เป็นแชมป์เก่า ส่วน ปอรืโต้ จอดป้ายเพียงแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น

อันเดรีย ซาร์โตรี่ หัวหน้าฝ่ายด้านกีฬาของ เคพีเอ็มจี เผยว่า "การระบาดของเชื้อโควิด-19 เป็นสิ่งที่ส่งผลกระทบกับการเติบโตของบรรดาลีกชั้นนำของทวีปยุโรปอย่างต่อเนื่อง แต่มันก็มีหลายๆ เหตุผลที่ส่งผลเสียกับฤดูกาลก่อนเช่นกัน วิกฤติของเชื้อไวรัสโคโรน่ามันทำให้เกิดความกังขาด้านความมั่นคงทางการเงินของระบบนิเวศในโลกฟุตบอลโดยรวมและทำให้เกิดความเปราะบางมากขึ้นไปอีก"

เดิมทีค่าเหนื่อยที่เฟ้อมากกว่าเดิม และค่าตัวการย้ายทีมกับค่าดำเนินการของเอเยนต์ที่เพื่มขึ้นก็ทำให้สโมสรต่างๆ เจอปัญหาด้านการเงินตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดการระบาดของเชื้อร้ายแล้ว โดยวิกฤติของโควิด-19 เป็นการทำให้มองเห็นถึงปัญหาในธุรกิจรูปแบบนี้มากข้น สโมสรฟุตบอลต่างๆ จำเป็นต้องรับมือกับปัญหาสภาพคล่อง และรายได้ของพวกเขาก็ได้รับผลกระทบจากการที่อดเงินจากการขายตั๋ว, การต้องเจรจากับพันธมิตรเจ้าอื่นๆ กันใหม่เพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ ไปจนถึงการระงับหรือยกเลิกรายได้จากสัญญาทั้งกับสื่อและสปอนเซอร์

ความสำคัญของเงินจาก แชมเปี้ยนส์ ลีก ต่อบรรดาทีมใหญ่ในทวีปยุโรปมันมีความชัดเจนมากขึ้นจากการที่ ปอร์โต้ ไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม เพราะรายได้ด้านค่าลิขสิทธิ์ของพวกเขาลดลงจากซีซั่น 2018-19 มากถึง 63 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ ถ้าเกิด ลิเวอร์พูล ไปถึงรอบลึกๆ ของ แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้แล้วนั้น มันก็อาจจะเป็นผลดีต่อการเงินของพวกเขา และอาจจะบรรเทาผลกระทบจาก โควิด ได้ หลังจากที่เชื้อร้ายมันทำให้รายได้หลายด้านของพวกเขาหดลงไป โดยที่จริงถ้าเกิดประสบความสำเร็จในศึก แชมเปี้ยนส์ ลีก ได้แล้วนั้น ทีมที่เป็นแชมป์ก็จะโกยรายได้ในระดับสูงสุดถึง 113 ล้านปอนด์เลยทีเดียว