ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » 5 แข้งน่าจับตามองศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล-แมนยู

5 แข้งน่าจับตามองศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล-แมนยู

Posted 17/01/2021 by siamsport

ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ ซึ่งทั้งสองทีมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง "ปีศาจแดง" ฟอร์มแกร่งต่อเนื่อง ขึ้นแซงจ่าฝูงห่าง 3 แต้ม ในขณะที่ "หงส์แดง" หืดจับมาหลายนัด และต้องการจบเกมนี้โดยไม่เสียสถิติไร้พ่ายในบ้าน
    แมตช์สำคัญของวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ลิเวอร์พูล ปะทะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือที่เรียกกัน "ศึกวันแดงเดือด" ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ค่อยจะเดือดสมชื่อเท่าไหร่

    ชนะขาดบ้าง เสมอแบบจืดๆ บ้าง แต่การดวลกันครั้งนี้ไม่ใช่แค่แลกด้วยศักดิ์ศรีเท่านั้น แต่เดิมพันด้วย 3 คะแนนที่หมายถึงโอกาสลุ้นแชมป์ของทั้งสองทีม "ผีแดง"ต้องการชัยชนะเพื่อเพิ่มช่องว่างทิ้งนำฝูงเป็น 6 แต้ม ในขณะที่ ลิเวอร์พูล ไม่ใช่เรื่องดีแน่หากพลาดท่าแพ้เกมนัดสำคัญนี้

    อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล ที่โชว์ฟอร์มสุดยอดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จเมื่อซีซั่นที่แล้ว แต่ฤดูกาลนี้ดันไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อเจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บของแข้งหลักที่มีบทบาทสำคัญกับทีม และไม่มีผู้เล่นที่สามารถทดแทนกันได้ ส่งผลต่อประสิทธิภาพที่เริ่มสั่นคลอน

    สถิติในบ้านของ "หงส์แดง" ไม่แพ้ใคร นับตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2017 จังหวะประจวบเหมาะต้องมาเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด พอดิบพอดี ซึ่งฟอร์มกำลังเข้าฝักจากหมากตัวสำคัญอย่าง บรูโน่ แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์ชาวโปรตุเกส เข้ามายกระดับทีมอย่างเห็นได้ชัด โดยคุณภาพทั้งสองทีมนาทีนี้ ถ้าเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ ต้องบอกว่าสูสีเลยทีเดียว และมีถึง 5 คน ที่ทุกสายตาควรจะจับจ้องไปที่พวกเขาเป็นพิเศษ จะมีใครบ้าง ไปดูกัน...

    - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
    หนุ่มน้อยสเก๊าเซอร์ เติบโตมาจากทีมเยาวชนของสโมสร จนก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และกลายแบ็คขวาที่มีมูลค่ามากสุดในโลก ซึ่งเจ้าตัวมีความโดดเด่นในการเติมเกมบุก ลูกเปิดจากด้านข้าง อีกทั้งยังมีทักษะสังหารลูกฟรีคิก ความสามารถของเจ้าหนูเทรนท์ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ลิเวอร์พูล มีเกมรุกอันดุดันและเร้าใจ

    หลังจากโชว์สร้างสถิติกองหลังที่จ่ายมากที่สุดต่อหนึ่งฤดูกาลด้วย 13 แอสซิสต์เมื่อซีซั่นก่อน ส่งผลต่อความคาดหวังในมาตรฐานการเล่นที่สูงขึ้น ฟอร์มปัจจุบันของเจ้าตัวไม่ค่อยจะเข้าร่องเข้ารอยนัก จากผลงานเพียง 2 แอสซิสต์หลังผ่านมาครึ่งทาง รวมไปถึง"เกมรับ"ที่ดรอปลงมาพอสมควร

    อย่างไรก็ตาม แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษ วัย 22 ปี ยังคงเป็นผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีมในตำแหน่งนี้ และเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็เป็นโอกาสที่จะเรียกความมั่นใจอันดีเยี่ยมกลับมา เพื่อช่วยทีมได้ลุ้นแชมป์ต่อไป

    - ติอาโก้ อัลกันตาร่า
    การต่อสู้ในแดนกลางมีความสำคัญและส่งผลต่อความได้เปรียบของทั้งสองทีม กองกลางจอมเทคนิคชาวสแปนิช เพิ่งมีโอกาสลงสนามกับ ลิเวอร์พูล เพียง 5 นัด หลังจากเจอปัญหาติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งอาการบาดเจ็บ ซึ่งจากการลงเล่นเพียงไม่กี่เกม ติอาโก้ ได้โชว์เครื่องหมายการค้าของตนเอง ทั้งการผ่านบอลที่แม่นยำ การสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อน และวิสัยทัศน์การเล่นแต่ละจังหวะที่โดดเด่น ซึ่งจะมาสร้างมิติใหม่ของเกมรุกหงส์แดงได้เป็นอย่างดี

    โดยก่อนที่เจ้าตัวจะมาชูเสื้อกับ ลิเวอร์พูล ก็มี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่ร่วมวงเคาะโต๊ะจ้องคว้าตัว ติอาโก้ มาร่วมทัพด้วยเช่นกัน ซึ่งดีลนี้ล่มเนื่องจากทั้งสองฝ่ายไม่ได้ค่าเหนื่อยที่ลงตัว

    และสิ่งที่น่าสนใจคือศึกแดงเดือดวันอาทิตย์นี้ เป็นการลงเล่นในบ้านเกมแรกของ ติอาโก้ อัลกันตาร่า สำหรับการประเดิมสนามแอนฟิลด์ครั้งแรก น่าจะเป็นแรงผลักดันให้เค้นฟอร์มเก่งได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

    - ปอล ป็อกบา
    ในช่วงที่ท็อปฟอร์ม ปอล ป็อกบา ถือเป็นนักเตะระดับเวิลด์คลาส แต่เหมือนเหล่าเร้ด อาร์มี่ จะไม่ได้คิดแบบนั้นเนื่องด้วยช่วงแรกๆ ที่เจ้าตัวย้ายมาเขาได้แสดงช่วงฟอร์มตกออกมาให้เห็นบ่อยครั้ง ถึงกระนั้นช่วงที่ฟอร์มดรอปทำให้ ป็อกบา ต้องนั่งรอที่ม้านั่งสำรองอยู่พักหนึ่ง แต่ในระดับทีมชาติเขาก็ยังมีชื่อติดเป็น 11 ตัวจริงและสามารถโชว์ของได้อย่างยอดเยี่อม ทว่าล่าสุดตัวของ ป็อกบา เพิ่งทำประตูชัยพา ปีศาจแดง เฉือน เบิร์นลี่ย์ และทะยานขึ้นจ่าฝูงเหนือคู่ปรับตลอดกาล

    ภาพแบบนี้ของ ยูไนเต็ด ทำให้นึกถึง แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ เมื่อราวๆ 3 ปีก่อน ที่ เรือใบสีฟ้า บุกมานำได้ก่อน 2-0 ในช่วงครึ่งเวลาแรก แล้วก็เป็น ป็อกบา นี้แหละที่ค่อยปลุกเร้าเพื่อนร่วมทีมให้กลับมาสู้อีกครั้งจนทำให้ผลสกอร์ที่ออกมาเป็นทางฝั่งของ "ปีศาจแดง" พลิกนรกชนะ 3-2

    ในยามที่ ยูไนเต็ด กำลังเดินหน้าล่าแต้มเพื่อครองจ่าฝูงต่อไปจึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตัวของ ป็อกบา จะเป็นตัวแปรสำคัญในเกมถัดๆไปรวมไปถึงเกมแดงเดือดที่กำลังจะระเบิดขึ้น

    - โมฮาเหม็ด ซาลาห์
    ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซาลาห์ ถือว่าเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานของตัวเองไปหน่อย ถึงแม้ 4 เกมแรกของศึกแดงเดือดจะไร้ชื่อของเขาบนสกอร์บอร์ด แต่เมื่อมกราคมปีกลายเจ้าตัวก็สามารถจัดการประตูแรกของตัวเองในศึกแห่งศักดิ์ศรีได้แล้ว

    ถึงแม้ตอนนี้เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของพีเอฟเอเมื่อปี 2018 จะไม่มีชื่อทำประตูมาแล้ว 3 เกม แต่เขาสามารถแสดงความอันตรายได้เสมอเมื่อเขาอยู่บริเวณปากประตูของคู่แข่ง ด้วยเหตุนี้ทำให้แผงหลังของ ยูไนเต็ด ต้องจับตามองการเคลื่อนไหวของชายคนนี้ไว้ให้ดีๆ

    - บรูโน่ แฟร์นันด์ส
    หลังจากเปิดตัวกับ ยูไนเต็ด ได้เพียงไม่นานชายคนนี้ก็สามารถปลุกปีศาจที่หลับไหลอยู่ให้ตื่นขึ้นจนทะยานสู่ตำแหน่งจ่าฝูงได้สำเร็จในรอบหลายปี มิดฟิลด์สัญชาติโปรตุเกส มีส่วนร่วมไปแล้ว 33 ประตูจากการลงเล่น 31 เกม สถิติต่างๆ ที่เคยมีถูก บรูโน่ ทำลายได้โดยง่าย

    อีกหนึ่งเครื่องการันตีว่า บรูโน่ เป็นส่วนสำคัญของ ยูไนเต็ด คือ เขาขึ้นแท่นเป็นนักเตะคนแรกในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าโทรฟี่นักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของ พรีเมียร์ ลีก ได้ 4 ครั้งในรอบปีปฏิทิน คิดภาพไม่ออกเหมือนหากตอนนี้ไม่มีเขา ยูไนเต็ด จะเป็นอย่างไร

    นึกๆ ไปการเข้ามาของชายคนนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบพลิกนรกหมือนกับเมื่อปี 1992 ที่ยูไนเต็ด ได้ตัวของ เดอะ คิงส์ อิริค คันโตน่า มาจากคู่ปรับอย่าง ยูงทอง
 
    ก่อนนี้ รอย คีน อดีตผู้เคยสวมปอกแขนกัปตันของปีศาจแดงเคยออกมาวิพากษ์ถึง บรูโน่ ว่าเขานั้นเป็นคนที่โชว์ของได้แต่กับทีมเล็ก หรือในเกมใหญ่ๆ เขานั้นไม่สามารถโชว์ประสิทธิภาพออกได้นั้นเอง ทั้งนี้ แฟร์นันด์ส ยังไม่เคยได้โชว์ของในเกมแดงเดือดเลยสักครา นี่เป็นโอกาสอันนี้ที่เขาจะปิดปากของ รอย คีน และนักวิจารณ์รายอื่นๆ

    แม้ดาวเตะวัย 26 ปี ยังไม่เคยชูถ้วยแชมป์กับ ยูไนเต็ด แต่ตั้งแต่ที่แดนกลางของ "ปีศาจแดง" มีเขาคนนี้ค่อยบัญชาเกม และคอยสร้างแรงผลักดันให้แก่เพื่อนร่วมทีม ส่งให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอนนี้มีฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนเหล่าเร้ด อาร์มี่ ต่างชื่นใจที่ทีมรักกลับมาเป็นมหาอำนาจแห่งเกาะอังกฤษอีกครั้งหลังจากห่างหายไป 8 ปี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »