ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » ปัจจัยสำคัญเกมรับวันแดงเดือด! ตัวเลขน่าสนของฟาบินโญ่-ไบยี่

ปัจจัยสำคัญเกมรับวันแดงเดือด! ตัวเลขน่าสนของฟาบินโญ่-ไบยี่

Posted 17/01/2021 by siamsport

ศึกแดงเดือดที่สมรภูมิ แอนฟิลด์ ในวันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ถือเป็นเวอร์ชั่นที่ได้รับความสนใจมากกว่าเกมแดงเดือดในช่วงหลายนัดที่ผ่านมา เพราะมันไม่ได้เป็นเพียงการเจอกันของ 2 คู่อริที่ดุเดือดที่สุดคู่หนึ่งแห่งวงการลูกหนังอังกฤษเท่านั้น แต่มันยังเป็นเกมที่มีตำแหน่งจ่าฝูง (และอาจจะรวมถึงแชมป์ในบั้นปลาย) เป็นเดิมพันด้วย
   
แน่นอน ส่วนใหญ่แล้วสายตาของแฟนบอลจะจับจ้องไปที่แนวรุก เพราะนี่คือ 2 ทีมที่ทำประตูในลีกได้มากที่สุดหากนับเฉพาะก่อนถึงโปรแกรมในสุดสัปดาห์นี้ โดยที่แนวรุกของทั้ง 2 ทีมต่างก็มีนักเตะที่ฝากผลงานเอาไว้ได้ดีในช่วงที่ผ่านมา อย่างเช่นเจ้าถิ่นที่มี ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หรือ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ที่เหมือนเป็นจอมปิดทองหลังพระ ขณะที่ทีมเยือนแน่นอนว่านำมาโดย บรูโน่ แฟร์นันด์ส เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำเดือนของ พรีเมียร์ลีก ถึง 4 เดือนภายในปี 2020 โดยที่มีนักเตะอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด หรือ ปอล ป็อกบา ที่อาจจะเป็นทีเด็ดในการทำประตูได้ (ส่วน อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล คงต้องลุ้นก่อนว่าจะลงเล่นได้รึเปล่าหลังก่อนหน้านี้เจ็บตรงเอ็นหลังหัวเข่า)

    อย่างไรก็ตาม อีกหนึ่งจุดที่อาจจะเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะก็คือเกมรับ และช่วงที่ผ่านมาแนวรับของทั้ง 2 ทีมก็มีประเด็นให้พูดถึงในระดับหนึ่ง โดย ลิเวอร์พูล ต้องพึ่งพา ฟาบินโญ่ มิดฟิลด์ชาวบราซิเลียนให้มารับบทเซนเตอร์แบ็กขัดตาทัพในช่วงที่บรรดากองหลังพร้อมใจกันเจ็บ ส่วน แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ได้ เอริก ไบยี่ เวอร์ชั่นฟิตเต็มที่มาช่วยทีมแบบต่อเนื่อง โดยที่เขาก็จับคู่กับ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กองหลังกัปตันทีมได้ดี และวันนี้เราจะมาดูตัวเลขที่น่าสนใจของทั้ง ฟาบินโญ่ และ ไบยี่ กัน เพราะพวกเขาอาจจะหยุดแนวรุกสุดโหดของฝั่งตรงข้ามจนช่วยให้ทีมเก็บ 3 แต้มมาครองได้

    - ฟาบินโญ่
    จะว่าไปแล้วมันก็ไม่แปลกที่ ฟาบินโญ่ จะโดนเลือกให้รับบทเซนเตอร์แบ็กชั่วคราวของ ลิเวอร์พูล ในช่วงที่ผ่านมา เพราะเขาเคยเล่นเป็นกองหลังก่อนที่จะหันมาเอาดีด้านมิดฟิลด์ตัวรับแบบเต็มตัว โดยในช่วงแรกๆ ที่อยู่กับ อาแอส โมนาโก เขาถึงขั้นเคยรับบทแบ็กขวาด้วยซ้ำ

    ด้วยเหตุนี้ ผลงานในเกมรับของ ฟาบินโญ่ ในช่วงที่ผ่านมาจึงถือว่าโดดเด่นชนิดที่กองหลังอาชีพบางคนยังสู้ไม่ได้ โดยตอนนี้เขาถือเป็นคนที่สกัดโดนบอลมากที่สุดของ ลิเวอร์พูล กับการเล่นเกมลีกในตอนนี้ ที่จำนวน 34 ครั้ง โดยแนวรับของ ลิเวอร์พูล ที่มีผลงานด้านนี้ตามเขามาเป็นอันดับ 2 คือ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แต่แบ็กขวาชาวอังกฤษก็ทำอย่างนั้นได้เพียง 18 หนเท่านั้น

    นอกจากนี้ ฟาบินโญ่ ก็ยังเป็นคนที่อ่านเกมได้ดีจนสามารถตัดบอลแบบไม่ต้องพุ่งเสียบได้ถึง 21 ครั้ง สูงเป็นอันดับ 1 ของทีมกับการเล่นเกมระดับ พรีเมียร์ลีก ร่วมกับ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ด้วย โดยแนวรับคนที่มีผลงานด้านนี้ใกล้เคียงกับเขามากที่สุดก็ยังเป็น อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ทำไป 18 หน แถม ฟาบินโญ่ ก็เป็นคนที่เคลียร์บอลพ้นพื้นที่อันตรายได้ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ด้วยจำนวน 37 รอบ ทิ้งห่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน กับ โจ โกเมซ ที่ตามมาเป็นอันดับ 2 ร่วมกันไป 9 หน

    ยังไม่หมดแค่นั้น เพราะเจ้าของส่วนสูง 188 เซนติเมตรยังเล่นลูกกลางอากาศได้ดีจนชนะการดวลกลางอากาศไป 32 ครั้ง สูงเป็นอันดับ 1 ของทีมในลีกประจำซีซั่นนี้ด้วย เหนือกว่า โกเมซ ถึง 11 หน และเขาก็เป็นคนที่ถวายตัวบล็อกลูกยิงของคู่ต่อสู้ได้เยอะที่สุดของทีมเท่ากับ โรเบิร์ตสัน ที่จำนวน 5 ครั้งเช่นกัน เรียกได้ว่าเขาเป็นแนวรับที่ทีมขาดไม่ได้ไปแล้ว

    - เอริก ไบยี่
    ถ้าจะบอกว่าการที่ ไบยี่ ฟิตเต็มถังจนเล่นให้ทีมได้หลายนัดติดต่อกันตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม ที่ผ่านมา มันเป็นเหมือนของขวัญจากซานตาคลอสสำหรับเหล่าแฟนบอล แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ไม่ถือว่าผิดอะไรเลย เพราะเหล่า "เร้ด อาร์มี่" เชื่อกันมาโดยตลอดว่าดาวเตะชาวไอวอรี่โคสต์มีฝีเท้าที่ดีในระดับหนึ่งอยู่แล้ว เพียงแต่ที่ผ่านมาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอย่างต่อเนื่องเท่านั้น

    ทั้งนี้ แม้ว่าฤดูกาลนี้จะเพิ่งได้ลงเล่นในลีกไปเพียง 6 นัด แต่ ไบยี่ ก็เป็นคนที่ตัดบอลแบบไม่ต้องพุ่งเสียบในลีกได้มากเป็นอันดับ 4 ของทีมที่จำนวน 14 ครั้ง มากกว่าวิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ที่ได้ลงเล่นเยอะกว่าเขา 5 หน ขณะที่เขาก็กดดันให้คู่แข่งเสียบอลได้ 37.9 เปอร์เซ็นต์ สูงเป็นอันดับ 4 ของทีม เยอะกว่า ลินเดอเลิฟ 0.2 เปอร์เซ็นต์ด้วย แถมเขาก็ชนะในจังหวะดวลกลางอากาศ 58.8 เปอร์เซ็นต์ มากกว่า ลินเดอเลิฟ 0.5 เปอร์เซ็นต์ด้วย

    ที่จริงความสำคัญของ ไบยี่ ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด มีมานานพอตัวแล้ว โดยนับตั้งแต่เริ่มฤดูกาล 2016-17 เป็นต้นมานั้น แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถชนะได้ถึง 63.4 เปอร์เซ็นต์จากการลงเล่นในทุกรายการถ้ามี ไบยี่ ลงเล่นเป็นตัวจริง แต่ถ้าไร้เงาของเขาใน 11 ตัวจริงแล้วล่ะก็ "ปีศาจแดง" ก็มีเปอร์เซ็นต์ชนะดร็อปลงมาอยู่ที่ 53.9 เปอร์เซ็นต์

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
  • 5 แข้งน่าจับตามองศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล-แมนยู
    ลิเวอร์พูล เตรียมเปิดสนามแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันอาทิตย์ที่ 17 มกราคมนี้ ซึ่งทั้งสองทีมกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง "ปีศาจแดง" ฟอร์มแกร่งต่อเนื่อง ขึ้นแซงจ่าฝูงห่าง 3 แต้ม ในขณะที่ "หงส์แดง" หืดจับมาหลายนัด และต้องการจบเกมนี้โดยไม่เสียสถิติไร้พ่ายในบ้าน
  • ศึกปฐพีเดือด! ลิเวอร์พูล-แมนยู รอบนี้การันตีบู๊ระห่ำสุดรอบหลายปี
    กล่าวสำหรับการโรมรันระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การเจอกันของสองยักษ์ใหญ่ร่วมภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษเท่านั้น หากแต่มันยังมีความหมายถึงรากเหง้าของคนทั้งสองเมือง ซึ่งแย่งชิงความยิ่งใหญ่กันมาตลอด ไล่ตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง
  • แดงเดือด-ชิงจ่าฝูง!แมนยูเช็กหมากใช้ "แรชฟอร์ด" ซัด,ลิเวอร์พูลมี "ซาลาห์" โป้ง
    ศึกแดงเดือดที่ทุกคนรอคอย..."ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จ่าฝูงต้องลุ้นให้ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล ฟิตทันลงช่วยทีม โดย มาร์คัส แรชฟอร์ด พร้อมลงขุดสกอร์ เกมบุกรัง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ต้องชนะเท่านั้นถึงจะแซงขึ้นแถวตารางคะแนนยังคงมี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นำล่าตาข่ายตามเดิม ลุ้นระทึกได้ในศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 17 ม.ค. ศกนี้ ถ่ายทอดสด : True Premier Football HD 1 (เวลา : 23.30 น.)

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »