"เรือใบสีฟ้า" ทะยานขึ้นไปนำเป็นจ่าฝูงได้เป็นครั้งแรกของซีซั่น หลังต้อนเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 2-0 ทำให้มี 38 คะแนนเท่ากับ เลสเตอร์ ซิตี้ แต่ลูกได้เสียดีกว่า โดยทิ้ง "ผีแดง" แค่หนึ่งคะแนน หาก แมนฯยูไนเต็ด ที่แข่งคู่ถัดไปคว้าชัยได้ก็จะทวงบัลลังก์จ่าฝูงคืนทันที

สนาม : เอติฮัด สเตเดี้ยม

    ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมา เจ้าบ้าน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 3 รับการมาเยือนของ แอสตัน วิลล่า อันดับ 11 ซึ่งเกมคู่ถูกเลื่อนมาจากนัดเปิดฤดูกาล เกมนี้หาก "เรือใบสีฟ้า" คว้าชัยได้จะแซงทั้ง แมนฯยูไนเต็ด และเลสเตอร์ ซิตี้ นำเป็นจ่าฝูงก่อนชั่วคราว

    โดยก่อนเกมมีฝนตกลงมาอย่งหนัก เริ่มมาได้แค่ 3 นาที แมนฯซิตี้ เกือบได้ประตูขึ้นนำหลัง เควิน เดอ บรอยน์ เปิดลูกเตะมุมมาให้ โรดรี้ ขึ้นโขกบอลย้อยไปเสาแรกกลายเป็นส่งให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา หลุดเข้าไปซัดติดขา เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ แม้จอห์น สโตนส์จะพยายามตามเข้าไปซ้ำไม่ถึง 5 หลาแต่ยังโดนแนวรับวิลล่าสกัดออกไปได้ทัน

    เกมรุกของซิตี้ยังบี้กดดันอย่างหนัก นาที 8 เควิน เดอ บรอยน์ ได้กดด้วยขวานอกกรอบแต่ก็ยังไปติดบล็อค เช่นเดียวกับ ฟิล โฟเด้น ที่เลี้ยงแหวกเข้าก่อนจะยิงไปติด เอซรี่ คอนซ่า

    นาที 13 ฟิล โฟเด้น ไหลสั้นๆให้ ชูเอา กานเซโล่ ตัดเข้าไปกดด้วยขวามุมแคบแต่บอลเหินโด่งข้ามคานออกไป

    เรือใบสีฟ้า ได้ส่องเข้ากรอบเป็นหนที่สอง หลังนาที 23 เควิน เดอ บรอยน์ เปิดเตะมุมเข้ามา แนวรับทีมเยือนสกัดไม่เด็ดขาดบอลตกพื้นอยู่หน้า โรดรี้ ตวัดยิงด้วยซ้ายแต่ยังไปเข้ามือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

    นาที 28 เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนตัวคนแรกถอดเอา ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่มีอาการเจ็บเล่นต่อไม่ไหวออกแล้วส่ง อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ ลงเล่นแทน

    นาที 32 ฟิล โฟเด้น เลี้ยงจี้เข้าเขตโทษก่อนดึงจังหวะแล้วไหลเข้ากลางให้ โรดรี้ วิ่งมาซัดเต็มแรงบอลพุ่งไปโดน สเตอร์ลิง ออกหลัง

    อีก 5 นาทีถัดมา "สิงห์ผงาด" สวนกลับขึ้นมาและได้ลุ้นบ้าง แจ็ค กรีลิช ไหลให้ รอสส์ บาร์คลี่ย์ ปั่นด้วยขวาไปเสาไกลแต่บอลยังเบาไปก่อนที่ เอแดร์ซอน จะพุ่งไปตะครุบเอาไว้ได้

    ท้ายครึ่งแรก นาที 43 เจ้าบ้านได้ลุ้นเข้ากรอบอีกครั้ง หลัง โรดรี้ ครอสไปเสาไกลให้ ฟิล โฟเด้น เติมมาโขกแต่บอลยังไปตรงตัว มาร์ติเนซ

    จบครึ่งแรก แมนฯซิตี้ ที่มีโอกาสมากกว่าแต่ยังเจาะ แอสตัน วิลล่า ไม่ได้ยังเสมอกัน 0-0

    กลับมาเล่นต่อครึ่งหลัง เจ้าบ้านไม่พูดพล่ามทำเพลงเปิดเกมรุกเข้าใส่ทันที นาที 51 กุนโดกัน ฝากบอลให้ ฟิล โฟเด้น ก่อนเจ้าตัวจะวิ่งไปซัดบอลเหินคานออกไป

    แต่อีกนาทีถัดมา แอสตัน วิลล่า เกือบได้ลุ้นเหมือนกัน บอลสวนกลับของ เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ กระชากเข้าไปหน้ากรอบแต่ยิงเบาไปเข้ามือเอแดร์ซอน แต่ไม่

    บอลแลกกันสนุก นาที 53 ซิตี้เปิดเร็วให้ อิลคาย กุนโดกัน ไหลเข้ากลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ ซัดนอกกรอบไปเข้ามือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ และอีกนาทีต่อมาน่าจะได้ประตูขึ้นนำ คราวนี้เป็น เดอ บรอยน์ เล่นสั้นๆชิ่งต่อให้ ชูเอา กานเซโล่ หลุดเข้าไปก่อนซัดด้วยซ้ายไปชนคานอย่างน่าเสียดาย

    เกมผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมง เป๊ป ต้องเปลี่ยนคนที่สองหลัง เควิน เดอ บรอยน์ มีอาการเจ็บต้องเดินออกจากสนาม ก่อนจะส่ง กาเบรียล เชซุส ลงเล่นแทน
   
    นาที 67 แอสตัน วิลล่า เกือบเป็นฝ่ายชิงขึ้นนำหลัง โอลลี่ วัตกิ้นส์ ผ่านบอลไปเสาไกลให้ ตราโอเร่ วอลเลย์เต็มแรงไปติดบล็อคก่อนกระดอนมาเข้าทาง ดักลาส ลุยซ์ วิ่งมาอัดเต็มข้อบอลพุ่งเกือบเข้าแต่ยังดีที่  เอแดร์ซอน พุ่งไปออกไปได้

    อีกสามนาทีต่อมา อิลคาย กุนโดกัน ได้โขกเสาแรกบอลพุ่งไปติดเซฟ มาร์ติเนซ ก่อนกุนโดกันพยายามเข้าไปซ้ำอีกทีแต่แข้งวิลล่าก็ช่วยกันเคลียร์ออกมาได้

    แต่แล้วนาที 79 "เรือใบสีฟ้า" มาปลดล็อคได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้จากความผิดพลาดของแนวรับวิลล่าที่เสียบอลให้ โรดรี้ จ่ายให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา กระชากเข้าซ้ายแล้วซัดหนีมือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ เสียบตาข่ายเข้าไปอย่างสวยงาม

    นาที 89 เจ้าบ้านมาได้ลูกที่จุดโทษ ก่อนที่ อิลคาย กุนโดกัน จะสังหารเข้าไปไม่พลาดให้ "เรือใบสีฟ้า" นำห่าง 2-0

     จบเกม แมนฯซิตี้ เบียดเอาชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 เก็บสามแต้มแซงทั้ง แมนฯยูไนเต็ด และเลสเตอร์ ซิตี้ ขึ้นไปนำจ่าฝูงชั่วคราว ซึ่งหากคู่หลัง "ผีแดง" บุกไปเอาชนะ ฟูแล่ม ได้จะกลับขึ้นไปรั้งจ่าฝูงทันที

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        แมนฯ ซิตี้ : เอแดร์ซอน - ไคล์ วอล์คเกอร์ (อเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ น.28), จอห์น สโตนส์, รูเบน ดิอาส, ชูเอา กานเซโล่ - เควิน เดอ บรอยน์ (กาเบรียล เชซุส น.60), โรดรี้, อิลคาย กุนโดกัน - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, ราฮีม สเตอร์ลิง (ริยาด มาห์เรซ น.72), ฟิล โฟเด้น

    ผู้จัดการทีม: เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

        แอสตัน วิลล่า : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ - แมตตี้ แคช, เอซรี่ คอนซ่า, ไทโรน มิงส์, แมตต์ ทาร์เก็ตต์ (นีล เทย์เลอร์ น.75) - ดักลาส ลุยซ์, จอห์น แม็คกินน์ - เบอร์ทรานด์ ตราโอเร่ (อันวาร์ เอล-กาซี่ น.69) , แจ็ค กรีลิช, รอสส์ บาร์คลี่ย์ (จาค็อบ แรมซี่ย์ น.69) - โอลลี่ วัตกิ้นส์

    ผู้จัดการทีม: ดีน สมิธ

    ผู้ตัดสิน : จอน มอสส์