"เรือใบสีฟ้า" คว้าตั๋วผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อย่างไม่ยาก หลังบุกไปอัดเจ้าถิ่น สวอนซี ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ 3-1 ทำสถิติชนะ 14 เกมติดต่อกันทุกรายการ ในศึกเอฟเอ คัพ อังกฤษ รอบ 5 เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา

สนาม : ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม

    ฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบ 5 เมื่อคืนวันพุธที่ 10 กุมภาพันธ์ที่่ผ่านมา เป็นการพบกันระหว่าง สวอนซี ทีมจากแชมเปี้ยนชิพ เปิดบ้านรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก โดยผลงานในรอบที่แล้วของทั้งคู่นั้น "หงส์ขาว" ไล่ต้อนเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ 5-1 ขณะที่ "เรือใบสีฟ้า" บุกไปเอาชนะ เชลท์แน่ม 3-1

    เกมนี้ สตีฟ คูเปอร์ กุนซือสวอนซี ใช้ จามัล โลว์ และจอร์แดน มอร์ริส เป็นคู่หน้า โดยมี ยาน ดานด้า เล่นหน้าต่ำ ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า นายใหญ่ของทัพเรือใบโรเตชั่นจากเกมที่ชนะ "หงส์แดง" ในลีกถึง 7 ตำแหน่ง แนวรุกเปลี่ยนมาใช้ กาเบรียล เชซุส และเฟร์ราน ตอร์เรส ล่าตาข่ายร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง ขณะที่แดนกลางยังเป็นชุดเดิมทั้ง แบร์นาโด้ ซิลวา, โรดรี้ และอิลคาย กุนโดกัน ที่เหมาสองประตูจากเกมบุกถล่ม ลิเวอร์พูล ถึงแอนฟิลด์

    เขี่ยบอลมาได้แค่ 2 นาทีแรก "เรือใบสีฟ้า" ได้ทักทายก่อนเลยหลัง กาเบรียล เชซุส ลากตัดเข้ามาหน้ากรอบแล้วอัดด้วยขวาบอลพุ่งแรงจน เฟร็ดดี้ วู้ดแมน นายด่านของหงส์ขาวต้องทุบบอลทิ้งไป
   
    แมนฯซิตี้ ครองเกมรุกชนิดที่พับสนามบุกเข้าใส่เจ้าถิ่น นาที 14 แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ ครอสบอลมาเสาแรก กาเบรียล เชซุส โฉบมาซัดด้วยขวาบอลพุ่งเข้าข้างหน้าต่าง

    อีกสองนาทีถัดมา ซิตี้ ได้เตะมุม อิลคาย กุนโดกัน เปิดยาวไปเสาไกล คราวนี้เป็น อายเมริค ลาปอร์กต์ เทกตัวโขกย้อนไปเสาแรกแต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว

    นาที 19 โรดรี้เล่นกับ กุนโดกัน หน้าปากประตูหงส์ขาว ก่อนที่โรดรี้จะแต่งบอลโขกต่อให้ เฟร์ราน ตอร์เรส วิ่งมายิงแบบไม่ถนัดบอลพุ่งเบาไปเข้ามือ วู้ดแมน

    นาที 23 กาเบรียล เชซุส แทงบอลให้ เฟร์ราน ตอร์เรส ในกรอบก่อนที่ปีกชาวสแปนิชจะซัดด้วยขวาไปทางเสาไกล แต่ยังไปติดปลายนิ้วของนายด่านสวอนซีปัดหลุดกรอบหวุดหวิด

    จนแล้วจนรอด "เรือใบสีฟ้า" มาพังประตูขึ้นนำ 1-0 จนได้ บอลจาก โรดรี้ ตรงกลางป้ายออกขวาให้ ไคล์ วอล์คเกอร์ ครอสเข้าไปในกรอบ 6 หลาให้ เฟร์ราน ตอร์เรส โฉบมาล้มตัวยิงแต่ไม่โดน บอลผ่าน เฟร็ดดี้ วู้ดแมน เข้าประตูไป เป็นเครดิตการพังประตูของ ไคล์ วอร์คเกอร์

    นาที 32 เป็นโอกาสเข้าทำหนแรกของ สวอนซี บอลขึ้นมาทางทางขวาถึง คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ ครอสบอลมาเสาแรกให้ เจย์ ฟูลตัน เทกตัวขึ้นโขกเต็มหัวแต่กดไม่ลงบอลเหินคานออกไป

    นาที 40 โอกาสของ "หงส์ขาว" มาอีกครั้ง ยาน ดานด้า แทงบอลให้ จามาล โลว์ หลุดเข้าไปซัดติดบล็อค เอริค การ์เซีย และจากจังหวะเตะมุมต่อเนื่อง ดานด้า เปิดมาในกรอบไม่ถึง 6 หลาให้ มาร์ค เกอี เซ็นเตอร์แบ็กเจ้าถิ่นโขกหลุดเสาออกไป

    จบครึ่งแรก สวอนซี ตามหลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1
   
    ครึ่งหลัง เริ่มมาได้แค่ นาที 47 ลูกทีมของ เป๊ป ทะยานออกนำ 2-0 จากจังหวะที่ โรดรี้ พลิกบอลแล้วแทงทะลุให้ ราฮีม สเตอร์ลิง หลุดเข้าไปในกรอบแล้วยิงผ่านมือนายด่านเจ้าถิ่นเข้าไป

    อีก 3 นาทีถัดมา สกอร์ของทีมเยือนไหลนำห่างเป็น 3-0 อย่างรวดเร็ว จากการเข้าทำอันยอดเยี่ยม เริ่มจาก อิลคาย กุนโดกัน วางยาวไปเสาไกลให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา โขกตั้งเข้ากลางมาให้ กาเบรียล เชซวุส เอาบอลลงอย่างเหนือด้วยการเกี่ยวด้วยขวาแล้วหมุนตัวซัดด้วยซ้ายเข้าไป

    ฝั่งเจ้าถิ่น "หงส์ขาว" แก้เกมด้วยการเปลี่ยนทีเดียว 4 คนรวด ขณะที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เปลี่ยนเอา สเตอร์ลิง, กุนโดกัน และแบร์นาร์โด้ ซิลวา ไปพักแล้วให้ ริยาด มาห์เรซ, ฟิล โฟเด้น และไอ้หนู โธมัส ดอยล์ ห้องเครื่องวัย 19 ปีลงเล่นแทน

    นาที 77 สวอนซี มาพังประตูตีไข่แตกไล่มาเป็น 1-3 จากจังหวะครอสบอลของ ไรอัน แมนนิ่ง เข้ามาให้ มอร์แกน วิตเทเกอร์ ตัวสำรองที่เพิ่งลงมา ซัดด้วยซ้ายส่งบอลเลียดเสียบเสาไกลเข้าไป
   
    ช่วงเวลาที่เหลือ ไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกไปถล่มเจ้าบ้าน สวอนซี  3-1 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบก่อนรองชนะเลิศต่อไป โดยจะมีการจับสลากประกบคู่ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายในวันพฤหัสบดีที่ 11 ก.พ.นี้

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

    สวอนซี (3-4-1-2) : เฟร็ดดี้ วู้ดแมน - เบน คาบังโก้, โจเอล ลาติโบดิแยร์, มาร์ค เกฮี (เจ บิดเวลล์ น.66) - คอนเนอร์ โรเบิร์ตส์ (ไคโรน ฟรีแมน น.66), เจย์ ฟูลตัน, แม็ตต์ กริมส์, ไรอัน แมนนิ่ง - ยาน ดานด้า (คอนนอร์ ฮูริเฮน น.77) - จามัล โลว์ (พอล อาร์ริโอล่า น.65), จอร์แดน มอร์ริส (มอร์แกน วิตเทเกอร์ น.66)

    ผู้จัดการทีม : สตีฟ คูเปอร์

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : แซค สเตฟเฟ่น - ไคล์ วอล์คเกอร์, เอริค การ์เซีย, อายเมริค ลาปอร์กต์, แบ็งฌาแม็ง เมนดี้ - แบร์นาโด้ ซิลวา (ฟิล โฟเด้น น.66), โรดรี้ (เคลาดิโอ โกเมส น.72), อิลคาย กุนโดกัน (ทอมมี่ ดอยล์ น.57) - เฟร์ราน ตอร์เรส, กาเบรียล เชซุส, ราฮีม สเตอร์ลิง (ริยาด มาห์เรซ น.56)

    ผู้จัดการทีม : เป๊ป กวาร์ดิโอล่า

    ผู้ตัดสิน : ปีเตอร์ แบ็งค์ส