ผลคะแนนและราคา 2 in 1 คะแนนในการแข่งสด ผลการแข่งขัน ตารางการแข่งขัน อัตราต่อรอง ข้อมูล คะแนนบาสเก็ตบอล
ฟุตบอล » พรีเมียร์ลีก อังกฤษ » สเตอร์ลิงโขกชัย! แมนซิตี้บุกอัดอาร์เซน่อล เฮรวด18นัดติดนำฝูงทิ้ง10แต้ม

สเตอร์ลิงโขกชัย! แมนซิตี้บุกอัดอาร์เซน่อล เฮรวด18นัดติดนำฝูงทิ้ง10แต้ม

Posted 22/02/2021 by siamsport

"เรือใบสีฟ้า" ฟอร์มยังคงสะเด่ายอดเยี่ยมหลังบุกไปเอาชนะ อาร์เซน่อล ถึงเอมิเรตส์ สเตเดี้ยม 1-0 จากลูกโขกของ ราฮีม สเตอร์ลิง ตั้งแต่ต้นเกม ส่งผลให้ แมนฯซิตี้ ชนะรวด 18 นัดติดต่อกันทุกรายการ นำจ่าฝูงทิ้งอันดับสอง เลสเตอร์ 10 คะแนน ส่วนไอ้ปืนใหญ่รั้งอันดับ 10 มี 34 คะแนน ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม
 
    "บิ๊กแมตช์" พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา อาร์เซน่อล ทีมอันดับ 10 เปิดบ้านรับมือจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โดยผลงานล่าสุดของทั้งคู่นั้น "ปืนใหญ่" ไล่ต้อนเอาชนะ ลีดส์ 4-2 ก่อนจะเสมอกับ เบนฟิก้า ในยูโรปาลีก 1-1 ส่วนทางด้าน "เรือใบสีฟ้า" ยังเดินหน้าคว้าชัยรวดหลังบุกไปอัด เอฟเวอร์ตัน 3-1

    มิเกล อาร์เตต้า ต้องปรับทัพหลายตำแหน่งแบ็กซ้ายได้ คีแรน เทียร์นี่ย์ กลับมา ขณะที่แนวรุกใช้ มาร์ติน โอเดการ์ด ลงปั้นเกมร่วมกับ บูคาโย่ ซาก้า และนิโกล้าส์ เปเป้ และให้ ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง กัปตันทีมเป็นหน้าเป้า

    ส่วนทางด้าน เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ทำสถิติสุดยอดเมื่อชนะมา 17 นัดติดต่อกันทุกรายการ วันนี้ได้ เควิน เดอ บรอยน์ กลับมาสตาร์ทตัวจริงไล่ล่าตาข่ายร่วมกับ ราฮีม สเตอร์ลิง และริยาด มาห์เรซ โดยมี แฟร์นานดินโญ่ ตัดเกมและให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา และอิลคาย กุนโดกัน เชื่อมเกมรุก

    เกมออกสตาร์ทมาไม่ถึง 2 นาที "เรือใบสีฟ้า" บุกมาขึ้นนำก่อน 1-0 จากจังหวะที่ ริยาด มาห์เรซ ลากจี้เข้ามาในกรอบก่อนเปิดด้วยซ้ายมาเข้าหัว ราฮีม สเตอร์ลิง ที่ขึ้นสะบัดโขกไปเสาไกลเสียบมุมตาข่ายชนิดที่ แบร์นด์ เลโน่ ได้แต่ยืนมอง

    ยังเป็น แมนฯซิตี้ ที่ครองบอลได้เหนือกว่าและโหมโจมตีทางฝั่งขวา นาที 7 แบร์นาร์โด้ ซิลวา แทงให้ ริยาด มาห์เรซ โยกหลอกก่อนซัดไปติดบล็อค คีแรน เทียร์นี่ย์ ออกหลัง

    โอกาสหนแรกของเจ้าถิ่นต้องรอถึง นาที 18 หลังคีแรน เทียร์นี่ย์ ผ่านบอลมาให้ บูคาโย่ ซาก้า ซัดด้วยขวาแต่บอลก็หลุดกรอบออกไป

    "ปืนใหญ่" เริ่มคอนโทรลและบุกเข้าใส่ได้มากขึ้น นาที 30 กรานิต ชาคา ไหลต่อให้ คีแรน เทียร์นี่ย์ ซัดนอกกรอบด้วยซ้ายแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ เอแดร์ซอน นายด่านทัพเรือใบ

    อีก 4 นาทีถัดมา เจ้าบ้านเกือบพลาดหลังโดน แฟร์นานดินโญ่ ตัดบอลได้ก่อนลากขึ้นมาแล้วไหลให้ อิลคาย กุนโดกัน ซัดหน้าปากประตูแต่ยังดีที่ ร็อบ โฮลดิ้ง ตามเข้าไปบล็อคไว้ได้ทัน

    ท้ายครึ่งแรก อาร์เซน่อล ได้ครองเกมและโจมตีเรือใบได้มากขึ้น นาที 43 เกือบได้ลุ้นตีเสมอหลัง เบเยริน โขกชงให้ เปเป้ หลุดไปถึงเส้นหลังก่อนหักจะให้ เบเยริน ที่กำลังจะวิ่งมาซัดแต่โดน กุนโดกัน มาตามแซะ ทว่าบอลมาเข้าทาง เปเป้ หวดด้วยซ้ายซ้ำไปเข้าข้างตาข่าย

    จบครึ่งแรก อาร์เซน่อล ตามหลัง แมนฯ ซิตี้ 0-1

    ครึ่งหลัง นาที 48 แมนฯซิตี้ เกือบได้เม็ดที่สองนำห่างจากจังหวะขึ้นมาทางซ้ายของ ซินเชนโก้ ไหลเข้ากลางให้ เควิน เดอ บรอยน์ พยายามชิพบอลเสียบเสาไกลอย่างเหนือชั้นแต่บอลโค้งถากเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย

    "เรือใบสีฟ้า" บุกมาอีกทีและได้ลุ้นอีกครั้งในนาที 57 จากจังหวะที่ อิลคาย กุนโดกัน ปั่นบอลด้วยขวาหน้ากรอบ กำลังจะพุ่งเบียดเสาอยู่แล้วแต่ แบร์นด์ เลโน่ โชว์ซูเปอร์เซฟพุ่งปัดออกไปได้หวุดหวิด

    นาที 72 ชูเอา กานเซโล่ ส่งบอลคืนหลังไม่ได้ทำให้ เอแดร์ซอน ต้องแก้ไข้ แต่กลายเป็นสกัดบอลไปเข้าทาง โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ วอลเลย์แบบไม่จับนอกกรอบบอลพุ่งเฉียดเสาออกไปแบบได้เสียว

    นาที 80 ทีมเยือนชวดได้เม็ดที่สองนำห่างหลัง ชูเอา กานเซโล่ วิ่งไปรับบอลจาก กาเบรียล เชซุส แต่ดีดไซด์ก้อยไปเสาไกลบอลโค้งช้าไปหลุดกรอบออกไปอย่างน่าเสียดาย

    ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม อาร์เซน่อล เปิดบ้านพ่ายให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-1 ส่งผลให้ "เรือใบสีฟ้า" ทำสถิติชนะทุกรายการที่ 18 นัดติดต่อกัน พร้อมนำจ่าฝูงโดยทิ้ง อันดับ 2 อย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ 10 คะแนน ส่วน "ปืนใหญ่" แพ้เป็นเกมที่ 11 จากการลงเล่น 25 นัด รั้งอันดับ 10 มี 34 คะแนนเหมือนเดิม

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
    
    อาร์เซน่อล (4-2-3-1) : แบร์นด์ เลโน่ - เอ็คตอร์ เบเยริน, ร็อบ โฮลดิ้ง (ดาวิด ลุยซ์ น.82), ปาโบล มารี, คีแรน เทียร์นี่ย์ - โมฮาเหม็ด เอลเนนี่ (ดานี่ เซบายอส น.86), กรานิต ชาคา - บูคาโย่ ซาก้า, มาร์ติน โอเดการ์ด (อเลซองดร์ ลากาแซตต์ น.73), นิโกล้าส์ เปเป้ (เอมิล สมิธ โรว์ น.73) - ปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง

    ผู้จัดการทีม : มิเกล อาร์เตต้า     

    แมนฯ ซิตี้ (4-3-3) : เอแดร์ซอน โมราเอส - ชูเอา กานเซโล่, รูเบน ดิอ๊าส, จอห์น สโตนส์, โอเล็กซานเดร้ ซินเชนโก้ - แบร์นาร์โด้ ซิลวา, แฟร์นานดินโญ่, อิลคาย กุนโดกัน - ริยาด มาห์เรซ, เควิน เดอ บรอยน์ (กาเบรียล เชซุส น.63), ราฮีม สเตอร์ลิง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

TOP 5 ข่าวในรอบ 3 วัน

อัลบั้มภาพเด็ดๆ

More »

คลิปไฮไลท์

More »