แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เตรียมเปลี่ยนโฉมโลโกคาดอกใหม่ในฤดูกาล 2021/22 หลังจาก ทีมวิวเวอร์ (TeamViewer) บริษัทด้านเทคโนโลยี ได้รับการยืนยันว่าจะเข้ามาสนับสนุนสโมสรด้วยสัญญา 5 ปี มูลค่า 235 ล้านปอนด์ หรือประมาณ 9,870 ล้านบาท
    การมาครั้งนี้ของบริษัทเทคโนโลยีย่อมทำให้แฟนๆ ปีศาจแดง ไม่คุ้นชินกับสัญลักษณ์ใหม่นี้ เนื่องจาก เชฟโลเรต สปอนเซอร์เจ้าเดิมได้อยู่คู่กับทีมมานานถึง 7 ปี

    อย่างไรก็ตาม ในสกู๊ปนี้ เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จัก ทีมวิวเวอร์ ให้มากขึ้น ว่าพวกเขาเป็นใคร มาจากไหน และเสื้อแข่งใหม่นั้นจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร

    ใครคือทีมวิวเวอร์?
    ทีมวิวเวอร์ไม่ใช่บริษัทที่มีอายุเก่าแก่เท่าไหร่ พวกเขาเพิ่งก่อตั้งเมื่อปี 2005 ในประเทศเยอรมนี

    จริงอยู่ว่าบริษัทนี้อาจไม่เป็นที่รู้จักมากนักในบางที่ แต่พวกเขาก็มีฐานที่ตั้งตามทวีปต่างๆ โดยมีสำนักงานใหญ่ที่ กอปปินเก้น ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งอยู่ใน สตุ๊ดการ์ท

    ทีมวิวเวอร์ มีความเชี่ยวชาญในเรื่องโปรแกรมประเภทรีโมทระยะไกล หรือเข้าใจง่ายๆ คือการควบคุมโปรแกรมผ่านทางระยะไกล กล่าวคือใช้ในการเชื่อมต่อการทำงานระหว่างเครื่อง PC 2 เครื่องที่อยู่ต่างสถานที่กัน และมุ่งเน้นที่เทคโนโลยีบนการบริการที่ให้บริการหรือโฮสต์ผ่านอินเทอร์เน็ต(คลาวด์) เพื่อใช้งานทางด้านออนไลน์ร่วมกันทั่วโลก

    และตามรายงานทางด้านการเงินของบริษัทในปี 2019 รายได้ของพวกเขาอยู่ที่ 390.2 ล้านยูโร หรือประมาณ 14,300 ล้านบาท ขณะเดียวกันตามกลุ่มตัวอย่างได้คาดการณ์ว่า ทีมวิวเวอร์ มีทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 1,000 ล้านยูโร ประมาณ 368,000 ล้านบาท

    ส่วนเรื่อของพนักงานในองค์กร ทีมวิวเวอร์ มีพนักงานเกือบๆ 1,000 คนทั่วโลก โดยมีนาย โอลิเวอร์ สตีล ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ควบคู่กับตำแหน่งประธานบริษัท โดยเขารับตำแหน่งนี้มาเมื่อเดือนมกราคม ปี 2018

    ข้อตกลงคุ้มค่าหรือไม่?
    ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ทั่วทั้งโลกต่างเผชิญวิกฤติโควิด-19 แน่นอนว่าวงการกีฬาย่อมได้รับผลกระทบเช่นเดียวโดยเฉพาะเรื่องการเงิน

    อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่าดีลระหว่าง ทีมวิวเวอร์ กับ ยูไนเต็ด อยู่ 235 ล้านปอนด์ในระยะเวลา 5 ปี โดยเมื่อแบ่งเป็นเฉลี่ยรายปีจะตกอยู่ที่ปีละ 47 ล้านปอนด์ต่อฤดูกาล

    เงินจำนวนนี้นับเป็นการทำข้อตกลงที่น่าสนใจเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์โลก ณ ตอนนี้ 47 ล้านปอนด์ต่อซีซั่นเทียบเท่ากับที่ บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่ง ลาลีกา สเปน ทำไว้กับ ราทูเคน(Ratuken) บริษัทอิเล็คทรอนิกส์ของประเทศ ญี่ปุ่น แต่ก็ยังเป็นรองดีลระหว่าง เอมิเรตส์ (Emirates) กับ เรอัล มาดริด ที่ตกเฉลี่ยปีละถึง 60 ล้านปอนด์

    อย่างไรก็ตาม การเข้ามาของ ทีมวิวเวอร์ ได้ทุบสถิติที่มีมาก่อนหน้านี้ในประเทศอังกฤษ ด้วยการเป็นแบรนด์ที่ทุ่มให้กับสโมสรคาดอกเสื้อแข่งเป็นมูลค่ามากที่สุดของ พรีเมียร์ลีก
 
    แต่ในขณะเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถเจ้าใหม่ที่จะเข้ามาแทน AON ในการเป็นสปอนเซอร์ชุดซ้อมของพวกเขาได้

    คนในว่าอย่างไรบ้าง?
    หลังทำข้อตกลงร่วมกัน ริชาร์ด อาร์โนลด์ กรรมการผู้จัดการของสโมสรกล่าวว่า "เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้สร้างความร่วมมือกับบริษัทซอฟท์แวร์ระดับโลก"

    "เรารอคอยที่จะทำงานร่วมกับ ทีมวิวเวอร์ เพื่อทำให้วิสัยทัศน์ของเราเป็นจริงสร้างเส้นทางเชื่อมต่อกับผู้คนและธุรกิจให้ดียิ่งขึ้น"

    ด้าน สตีล ซีอีโอของ ทีมวิวเวอร์ ก็ได้กล่าวว่า "ด้วยการที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ ทีมวิวเวอร์  2 แบรนด์ระดับโลกได้มาผนึกกำลังกัน ในฐานะทีมยูไนเต็ด เราสามารถนำประสบการณ์ของแฟนๆ ในโรงละครแห่งความฝันเพื่อให้ก้าวไปสู่อีกระดับ"

    "เราภูมิใจมากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลือกเราเป็นพันธมิตรในเส้นทางเทคโนโลยีที่จะก้าวไปข้างหน้า"

    หน้าตาของชุดแข่ง?
    แน่นอนว่าการออกแบบเสื้อ ยูไนเต็ด ตัวแรกของ ทีมวิวเวอร์ ยังไม่มีการระบุออกมา และที่เราเห็นกันคือโลโกของ ทีมวิวเวอร์ มีสีน้ำเงิน และขาว อย่างไรก็ตามโทนสีทั้งสองนั้นจะได้รับการปรับปรุงเนื่องจากไปซ้ำกับคู่อริร่วมเมืองอย่าง แมนฯ ซิตี้